บล. เอเชีย เวลท์ อ้างถึง Consensus ประมาณการผลประกอบการ บจ. ในประเทศสหรัฐฯ ไตรมาส 2 โต 9.6% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าของยุโรป โต 7.9% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ขณะที่ของไทยคาด ล่าสุดจะหดตัว 6% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า (แต่ทั้งปีคาดโต 12%) สะท้อนถึงเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัว
นายวรุตม์ ศิวะศริยานนท์ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย เวลท์ จำกัด กล่าวว่า สัปดาห์นี้ติดตามการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในวันที่ 25-26 กรกฎาคมนี้ คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ย และจะต้องติดตามสัญญาณการขึ้นดอกเบี้ยของนางเจเน็ต เยเลน ว่าจะเกิดขึ้นในเดือนธันวาคมนี้อีกหรือไม่ ซึ่งโอกาสความน่าจะเป็นลดลงมาอยู่ที่ 50%
นอกจากนี้ ยังต้องติดตามตัวเลขผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนสหรัฐฯ ที่ประกาศออกมาแล้วประมาณ 15-20% และล่าสุด ตลาดคาดว่าจะเติบโตประมาณ 9.6% ซึ่งปรับลดลงมาจากไตรมาสที่ 1 ที่เติบโตแรงมากที่ 15%
ด้านผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนไทย คาดว่าจะหดตัวประมาณ 6% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า หลังจากโตอย่างมากที่ 21% ในไตรมาส 1 แต่เนื่องจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง ยังคงกดดันผลประกอบการของบริษัทในกลุ่มพลังงาน และการตั้งสำรองเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเต็มจำนวน กรณีบริษัท EARTH ของ KTB ทำให้ผลประกอบการโดยรวมของธนาคาร และ บจ. ในไตรมาส 2 ชะลอตัวลง
ด้านการเมืองสหรัฐฯ ยังมีความไม่แน่นอนเรื่องการที่วุฒิสภาจะนำ พ.ร.บ. สุขภาพของ Republican เข้าสภาเพื่อลงมติในสัปดาห์นี้ ซึ่งมีแนวโน้มสูงว่าไม่น่าผ่าน เพราะที่ผ่านมา เสียงของสมาชิกพรรค Republican มีส่วนหนึ่งไม่เห็นด้วย จึงเป็นไปได้อาจจะเสนอเป็นลงมติว่าจะแก้กฎหมาย Obamacare หรือไม่แทน กระบวนการเหล่านี้จะมีผลให้การออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของทรัมป์ จะต้องชะลอกันออกไปเป็นอย่างมากอีก ด้านคดีรัสเซียที่เข้ามาแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของทรัมป์ ยังเป็นประเด็นอย่างต่อเนื่องที่อาจกระทบสถานภาพทางการเมืองของทรัมป์ ถึงขั้นอาจถูกถอดถอนได้ แม้ว่าเวลาจะลงมติถอดถอน พรรค Republican ไม่น่าแพ้ เพราะครองเสียงข้างมากในทั้งสองสภา
ดังนั้น ปัจจัยต่าง ๆ ส่งผลให้ตลาดหุ้นยังคงไม่ไปไหน อย่างไรก็ตาม โดยรวมแล้ว เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวชัดเจนขึ้น ด้านธนาคารกลางยุโรป (ECB) ได้ออกมาส่งสัญญาณจะปรับลดการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ลง ซึ่งก็สะท้อนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยุโรป และตัวเลขการส่งออกเดือนมิถุนายนของไทยเองก็ออกมาดีมาก ซึ่งเป็นการตอกย้ำว่าเศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้น
ทั้งนี้ มองกรอบ SET Index สัปดาห์นี้เคลื่อนไหวในกรอบ 1,568-1,581 จุด