xs
xsm
sm
md
lg

“โสภณพนิช” อินไซเดอร์ตัวยง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


     สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ประกาศกล่าวโทษอดีตผู้บริหารบริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น BLA จำนวน 5 ราย ในความผิดนำข้อมูลภายในมาใช้แสวงหาประโยชน์จากการซื้อขาย
     ผู้ถูกปรับทั้ง 5 รายประกอบด้วย นายฉัตรชัย โชตนการ นายเชิดชู โสภณพนิช บริษัท วัฒนโสภณพนิช นายชัย โสภณพนิช และบริษัท กรุงเทพ ประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือชื่อย่อ BKI รวมค่าปรับทางแพ่งและการส่งคืนผลประโยชน์เป็นเงินทั้งสิ้นประมาณ 4.5 ล้านบาท

     ไม่ใช่ครั้งแรกที่กลุ่มโสภณพนิชเคยถูกปรับในคดีอินไซเดอร์เทรดดิ้ง เพราะเมื่อประมาณ 20 ปีก่อน ธนาคารกรุงเทพ จำกัด ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ ร่วมเสริมกิจ จำกัด เคยถูกปรับเป็นเงิน 50 ล้านบาทมาแล้ว โดยขายหุ้น “ร่วมเสริมกิจ” ออก ก่อนที่บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ ร่วมเสริมกิจจะถูกสั่งปิดพร้อม 58 ไฟแนนซ์ เมื่อกลางปี2540
     และเมื่อเดือนมีนาคม 2559 นายชัย โสภณพนิช เคยถูกปรับ 5 แสนบาท จากการนำข้อมูลของบริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ซึ่งเตรียมจะจ่ายปันผลเป็นหุ้น บอกให้บุคคลอื่นรับรู้ และเป็นความผิดฐานนำข้อมูลภายในไปเปิดเผย
     สำหรับความผิดอินไซเดอร์เทรดดิ้งหุ้นกรุงเทพประกันชีวิตครั้งล่าสุด เกิดขึ้นจากผลประกอบการบริษัทฯไตรมาสที่ 2 และไตรมาสที่ 3 โดยบริษัทต้องตั้งสำรองเพิ่ม ทำให้ผลกำไรสุทธิในไตรมาสที่ 2 ลดลงอย่างมีนัย ส่วนไตรมาสที่ 3 เกิดผลขาดทุนจำนวนมาก
     ผลประกอบการไตรมาสที่ 2 และไตรมาสที่ 3 ถ้าประกาศออกมา จะส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นที่ซื้อขายในกระดาน
     ผู้บริหารกรุงเทพประกันชีวิตจึงชิงชายหุ้นออกก่อนที่จะประกาศงบการเงิน โดยบางคนขายหุ้น BLA ออกเพียง29,000 หุ้น บางรายขาย 2 แสนหุ้น มีนายเชิดชูเพียงคนเดียวที่เทขาย 800,000 หุ้น ซึ่งรวมทั้ง 5 ราย ขายหุ้นอออกมาเพียง 1 ล้านหุ้นเศษเท่านั้น ถือว่าไม่มาก และได้ผลประโยชน์ไปคนละไม่เท่าไหร่

     ความเป็น “โสภณพนิช” กับการหากินเล็กๆน้อยๆในตลาดหุ้น โดยการนำชื่อเสียงวงศ์ตระกูลมาเสี่ยงกับอินไซเดอร์เทรดดิ้ง ได้เงินรวมแล้วไม่กี่ล้านบาท ไม่น่าจะคุ้ม แต่กลุ่มโสภณพนิชก็ยังทำได้
     บทลงโทษกลุ่มโสภณพนิช ในความผิดอินไซด์กรุงเทพประกันชีวิต ไม่ได้รุนแรงมากนัก โดยปรับตามความผิดทางแพ่งและเรียกผลประโยชน์ที่ได้รับจากการใช้อินไซด์คืนเพียงไม่กี่ล้านบาท และถูกขึ้นบัญชีดำ ห้ามนายเชิดชูและนายชัย เป็นบุคลากรในตลาดทุน 3 ปี
     แต่โทษทางสังคมนั้นหนักกว่า เพราะก่อพฤติกรรมเป็นที่น่าอับอาย ตอกย้ำความมัวหมองของกลุ่มมโสภณพนิช เนื่องจากถูกจับอินไซด์อย่างต่อเนื่อง
     กลายเป็นเจ้ามือหุ้นรายใหญ่ที่นิยมการเอารัดเอาเปรียบนักลงทุนทั่วไป

     หุ้นในกลุ่มโสภณพนิชนับจากนี้ คงต้องจับตากันเป็นกรณีพิเศษแล้ว เพราะมีพฤติกรรมไม่น่าไว้วางใจ โดยเฉพาะการใช้ข้อมูลภายใน ซึ่งเกิดขึ้นซ้ำซาก ถูกจับได้หลายครั้งยังไม่เข็ดหลาบ
     บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด(มหาชน) เป็นบริษัทประกันชื่อเสียงดี หุ้นจัดเป็นหุ้นดี มีปัจจัยพื้นฐานรองรับ เหมาะสำหรับการถือลงทุนระยะยาว
     แต่ภาพพจน์ดีๆขององค์กร กำลังถูกทำลาย จากผู้บริหารและผู้ถือหุ้นใหญ่ขององค์กร เพราะสอบตกด้านธรรมาภิบาล และไม่น่าเชื่อว่า กลุ่มโสภณพนิชที่มีเงินเหลือเฟือ ไม่ขัดสนอะไร ทำไมจึงลงมาหาเศษหาเลยกับเงินเพียงไม่กี่ล้านบาท
      ไม่น่าเชื่อว่า กลุ่มโสภณพนิชจะเป็นอินไซเดอร์ในตลาดหุ้นตัวยง
กำลังโหลดความคิดเห็น