สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพิ่งประกาศลงโทษผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนรายล่าสุด ในความผิดฐานใช้ข้อมูลภายในแสวงหาประโยชน์จากการซื้อขายหุ้น (อินไซเดอร์เทรดดิ้ง) โดยปรับเป็นเงินกว่า 10 ล้านบาท
ผู้บริหารบริษัท เดมโก้ จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น DEMCO ที่ถูกจับได้ว่าใช้อินไซเดอร์ ประกอบด้วย นายสุวัฒน์ จรดล อดีตกรรมการและผู้บริหารเดมโก้ และนายสุกฤษฎิ์ จรดล เจ้าของบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ที่สนับสนุนและให้ความช่วยเหลือการกระทำผิด
ก.ล.ต.ระบุว่า นายสุวัฒน์ กรรมการและผู้บริหารที่ดูแลสายงานจัดซื้อและคลังสินค้าของเดมโก้ รู้ว่า บริษัทต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายจำนวน 263 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงงานก่อสร้าง 2 โครงการที่เกิดความบกพร่องระหว่างระยะเวลารับประกันผลงาน
ค่าใช้จ่ายปรับปรุงงานก่อสร้าง มีนัยต่อผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2558 แต่ก่อนที่เดมโก้จะประกาศงบการเงิน ซึ่งขาดทุนสุทธิ 160 ล้านบาท นายสุวัฒน์ได้ขายหุ้นเดมโก้ออกผ่านบัญชีนายสุกฤษฎิ์ จำนวน 2,216,000 หุ้น ก.ล.ต.จึงพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่ง
ปรับนายสุวัฒน์ 7,463,337.50 บาท และส่งคืนผลประโยชน์ที่ได้จากการใล้อินไซเดอร์เทรดดิ้งจำนวน5,970,670 บาท และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนเป็นเวลา 2 ปี ปรับนายสุกฤษฎิ์เป็นเงิน333,333.33 บาท ซึ่งบุคคลทั้งสองยินยอม
เมื่อเสียค่าปรับ ยอมจ่ายคืนผลประโยชน์ที่ได้จากอินไซด์ คดีเดมโก้ก็จบลงอย่างง่ายดาย ไม่มีการดำเนินคดีอาญาต่อ และเป็นเหตุที่ทำให้กรรมการหรือผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน ไม่กลัวการกระทำผิด ไม่เกรงพ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และไม่หวั่นไหวบทลงโทษของก.ล.ต.
เพราะถ้าพลาด ถูกจับได้ ยอมจ่ายค่าปรับ ก็สามรรถปิดคดีได้
แต่จะมีอินไซเดอร์สักกี่รายที่ถูกก.ล.ต.จับ และมีอินไซเดอร์อีกกี่สิบกี่ร้อยราย ที่หลุดรอดลอยนวล เพราะก.ล.ต.แกะรอยไม่เจอ หรือบางกรณีไม่มีการตรวจสอบด้วยซ้ำ
บทลงโทษคนที่กระทำผิดกฎหมายตลาดหลักทรัพย์ฯ ควรที่จะต้องทบวนกันใหม่หรือไม่ เพื่อให้คนที่กระทำผิดเกิดความเกรงกลัว และช่วยให้นักลงทุนได้รับการปกป้องมากขึ้น
แนวคิดที่ว่า หากดำเนินมาตรการกำกับดูแลที่เข้มงวด ออกกฎระเบียบควบคุมที่หยุมหยิมมากเกินไป จะไม่มีบริษัทเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหุ้น นักลงทุนจะไม่เข้ามาลงทุนนั้น ควรปรับเปลี่ยนแนวคิดได้แล้ว
เพราะมาตรการกำกับดูแลที่อ่อนแอ กฎระเบียบควบคุมที่ไม่เข้มงวด และบทลงโทษที่เบา จ่ายค่าปรับก็จบ จึงทำให้การปราบโกง การแก้ปัญหาการเอารัดเอาเปรียบในตลาดหุ้นไม่บรรลุเป้าหมาย ทั้งที่ปราบกันมากว่า 40 ปีแล้ว
การลงโทษและขึ้นบัญชีดำอดีตผู้บริหารเดิมโก้ ดูเหมือนว่า ปัญหาในบริษัทจดทะเบียนแห่งนี้จะได้รับการสะสางแล้ว
แต่ถ้าย้อนดูอดีตพฤติกรรมความเคลื่อนไหวของหุ้นตัวนี้ เคยมีพฤติกรรมไม่ปกติธรรมดาตั้งแต่ช่วงหลายปีก่อนแล้ว โดยเป็นหุ้นร้อน เล่นกันแรง ข่าวลือ ข่าวปล่อย หรือการสร้างข่าวมีมากมาย จนนักลงทุนรายย่อยแห่เข้าไปเก็งกำไร และติดหุ้นกันอยู่ไม่น้อย
จำนวนผู้ถือหุ้นรายย่อยเดมโก้มีทั้งสิ้น 12,870 ราย ซึ่งส่วนใหญ่น่าจะ ”ติดดอย” และยังหาทางลงไม่เจอ
การจับอินไซเดอร์เดมโก้ ทำให้ต้องย้อนถึงพฤติกรรมหุ้นตัวนี้ในอดีต ในช่วงที่เป็นหุ้นร้อนยอดนิยม ราคาถูกลากขึ้นอย่างหวือหวา ซึ่งอาจมีใครอยู่เบื้องหลังสร้างราคา
พฤติกรรมเดมโก้ในอดีตคงไม่ถูกขุดคุ้ย แต่พฤติกรรมอินไซด์ที่ถูกเปิดโปง ทำให้ต้องขึ้นบัญชีดำหุ้นตัวนี้ ในฐานะหุ้นที่ต้องเฝ้าระวังการลงทุน