หุ้นบริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด(มหาชน) หรือหุ้นEARTH กำลังอยู่ในอาการโคม่า เพราะข่าวร้ายกระหน่ำ โดยช่วงเวลาเพียงเดือนเศษ ราคาทรุดหนักกว่า 70% และไม่มีท่าทีว่าจะฟื้นง่ายๆ
เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคมที่ผ่านมา ราคาหุ้นเอิร์ธปิดที่ 4.36 บาท ล่าสุดวันที่ 9 มิถุนายนปิดที่ 1.20 บาท ขณะที่ผู้ถือหุ้นใหญ่ ทยอยขายหุ้นทิ้ง
ราคาหุ้นเอิร์ธส่งสัญญาณไม่ดี ตั้งแต่วันที่ 11 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยถูกเทขาย จนราคาติดฟลอร์ ก่อนที่ฝ่ายบริหารบริษัท จะออกมาชี้แจงว่า อยู่ระหว่างตรวจสอบหาสาเหตุที่ทำให้ราคาหุ้นปรับตัวลง โดยยืนยันว่า บริษัทฯยังดำเนินงานตามปกติ มีความมั่นคงและแข็งแรงทางการเงิน
รวมทั้งชี้แจงด้วยว่า วันที่ 12 พฤษภาคมหรือวันรุ่งขึ้น คณะกรรมการบริษัทฯจะประชุมพิจารณารับรองงบการเงินไตรมาสแรกปี 2560
วันที่ 12 พฤษภาคม ราคาหุ้นเอิร์ธถูกเทขาย จนราคารูดติดฟลอร์เป็นวันที่สอง ก่อนค่ำวันเดียวกัน บริษัทฯจะแจ้งงบการเงินมาที่ตลาดหลักทรัพย์ ปรากฏว่า มีผลขาดทุนสุทธิ 68.93 ล้านบาท จากระยะเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 111.89 ล้านบาท
หุ้นเอิร์ธที่รูดมหาราช 2 วันติด มีคำอธิบายทันที หลังการประกาศงบการเงินไตรมาสแรก ซึ่งพลิกจากกำไรงามๆในปีก่อน กลับมาขาดทุนในปีนี้
ทำไมหุ้นจึงทรุดลงล่วงหน้า ก่อนที่ฝ่ายบริหารจะประกาศงบการเงิน คำตอบคือ น่าจะมีคนนำข้อมูลภายในมาใช้แสวงหาประโยชน์จากการซื้อขาย ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ควรเข้าไปตรวจสอบ เพื่อควานหาตัว”อินไซเดอร์”ที่เอาเปรียบนักลงทุนทั่วไป
ตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคม ผู้ถือหุ้นใหญ่ ได้ทยอยขายหุ้นเอิร์ธออก โดยเฉพาะกลุ่มพิหเคนทร์ ซึ่งทยอยขายหุ้น จนสัดส่วนการถือหุ้นลดลงจาก 40% ของทุนจดทะเบียน เหลือประมาณ 29% ของทุนจดทะเบียน
การเทขายหุ้นของกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ ส่งผลกระทบเชิงจิตวิทยาการลงทุน และทำให้ราคาหุ้นเฮิร์ธทรุดตัวลงอีก ขณะที่นักลงทุนรู้สึกหวั่นไหว ไม่เข้าใจว่า ทำไมผู้ถือหุ้นใหญ่จึงทยอยทิ้งหุ้น
กระทั่งค่ำวันที่ 7 มิถุนายน เอิร์ธได้ส่งคำชี้แจง การผิดนัดชำระหนี้ตั๋วแลกเงิน(ตั๋วบี/อี) จำนวน40 ล้านบาท ทำให้นักลงทุนเกิดความตื่นตระหนกอีกครั้ง และพากันเทขายหุ้นทิ้ง จนหุ้นเอิร์ธติดฟลอร์เมื่อในวันที่ 8 มิถุนายน
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ขอให้ฝ่ายบริษัทเอิร์ธ ชี้แจงเพิ่มเติมการผิดนัดชำระหนี้ในวันที่ 8 มิถุนายน ซึ่งวันที่ 9 มิถุนายน บริษัทฯได้ชี้แจงตั๋วบี/อี ที่จะครบกำหนดในเดือนมิถุนายนและเดือนกรกฏาคมนี้ ปรากฏว่า มียอดหนี้ครบกำหนดรวมทั้งสิ้น 470 ล้านบาท
ฝ่ายบริหารเอิร์ธระบุว่า อยู่ระหว่างเจรจาผ่อนผันการชำระหนี้ และพิจารณาวงเงินสินเชื่อเป็นกรณี
พิเศษกับธนาคารพาณิชย์ เพื่อทบทวนและให้สามรรถกลับมาใช้วงเงินได้ตามปกติ
คำชี้แจงฝ่ายบริหารเอิร์ธ ส่งสัญญาณเป็นนัยว่า ตั๋วบี/อีวงเงินอีก 470 ล้านบาท คงผิดนัดชำระหนี้อีก
ทำไมผู้ถือหุ้นใหญ่เอิร์ธ จึงทยอยขายหุ้นทิ้ง น่าจะมีคำตอบอีกเหมือนกัน หลังการประกาศผิดนัดชำระหนี้ ซึ่งสะท้อนว่า บริษัทกำลังมีปัญหาฐานะทางการเงิน
คนที่ติดหุ้นเอิร์ธในมือ ตอนนี้อยู่ในสภาพกินไม่ได้ นอนไม่หลับ เพราะไม่รู้ว่าอนาคตของหุ้นตัวนี้จะเป็นอย่างไร แนวโน้มผลประกอบการจะทรุดหนักต่อเนื่องหรือไม่ ฐานะการเงินมีปัญหารุนแรงขนาดไหน
และการที่ผู้ถือหุ้นใหญ่ ทยอยขายหุ้นทิ้ง จะเป็นไปหรือไม่ว่า ผู้ถือหุ้นใหญ่อาจเห็นแล้วว่า เอิร์ธกำลังแย่ จึงชิงเผ่นก่อน
แต่การเผ่นของผู้ถือหุ้นใหญ่และฝ่ายบริหารเอิร์ธมีประเด็นที่ปล่อยผ่านไปไม่ได้ เพราะมีการขายหุ้นทิ้ง ก่อนประกาศข่าวร้าย
และราคาหุ้นเอิร์ธที่ถุกทุบรูดติดฟลอร์ทั้งสองรอบ ก็เป็นการรูดติดฟลอร์ ก่อนที่ฝ่ายบริหารบริษัทฯจะประกาศข่าวร้ายทั้งสองครั้ง
ข่าวร้ายชิ้นแรกคือ ผลดำเนินงานไตรมาสแรกที่ขาดทุน ข่าวร้ายชิ้นที่สองคือ การประกาศผิดนัดชำระหนี้ตั๋วบี/อี
ใครเทขายหุ้น จนราคาทรุดติดฟลอร์ ก่อนประกาศข่าวร้ายทั้งสองรอบ ตลาดหลักทรัพย์ต้องเข้าไปตรวจสอบ เพื่อนำตัวอินไซเดอร์มาประจานให้สาธารณะชนรับรู้กันหน่อยแล้ว
