โบรกฯ เผยนักลงทุนเริ่มกังวลปัญหาตั๋วบีอีลาม แนะลงทุนรอบคอบ เข้าถึงงบการเงิน ตรวจหาสภาพคล่อง ห่วงอนาคต บจ.ออกตั๋วบีอียากขึ้น และมีต้นทุนเพิ่ม ด้านหุ้นไทยสัปดาห์นี้จับตาเฟด ขึ้นดอกเบี้ยแน่นอน แนวต้านแรก 1,575 จุด
นายชาตรี โรจนอาภา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์และพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคทีบี (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ขณะนี้นักลงทุนรายย่อย เริ่มมีการสอบถามนักวิเคราะห์เกี่ยวกับบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ที่ออกตั๋วแลกเงินระยะสั้น (บีอี) หลังจากที่มีหลายบริษัทเกิดปัญหาผิดนัดชำระหนี้ตั๋วบีอี จนส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นร่วงลงอย่างหนัก โดยเฉพาะบริษัทขนาดกลาง และเล็ก ที่ไม่มีเครดิตเรทติง หรือมีเรทติง
ดังนั้น แนะนำให้นักลงทุนศึกษาข้อมูล และงบการเงินของบริษัทที่เข้าไปลงทุนอย่างรอบคอบว่า มีการออกตั๋วบีอีมากหรือไม่ และมีสภาพคล่องเป็นอย่างไร หรือสอบถามนักวิเคราะห์เพื่อความมั่นใจของนักลงทุน
“ยอมรับว่า แม้สถานการณ์การผิดนัดชำระหนี้ตั๋วบีอี มีไม่มากเมื่อเทียบกับการออกตราสารหนี้ภาพรวม แต่ในอนาคตก็มีความเป็นห่วงเหมือนกัน โดยเฉพาะบริษัทเล็กๆ ที่สภาพคล่องไม่มาก เพราะการออกตั๋วบีอี จะต้นทุนต่ำกว่าการไปกู้แบงก์ และสามารถนำเงินไปใช้จ่ายได้รวดเร็ว อย่างไรก็ตาม กระแสข่าวที่ออกมา เชื่อว่า ในอนาคตหลายบริษัทอาจจะออกตั๋วบีอี ได้ยากขึ้น ซึ่งอาจสุ่มเสี่ยงต่อต้นทุนที่สูง และกำไรอาจลดลงหากไปใช้ช่องทางในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนแหล่งอื่นที่มีต้นทุนสูงกว่า” นายชาตรี กล่าว
อย่างไรก็ตาม การออกตราสารหนี้ในส่วนของบริษัทขนาดใหญ่ เช่น SET 100 นั้น นักลงทุนส่วนใหญ่ไม่มีความกังวล เพราะบริษัทมีเครดิตเรทติง และที่สำคัญส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องของสภาพคล่องมากนัก
สำหรับภาพรวมของตลาดหุ้นไทยช่วงวันที่ 12-16 มิ.ย.นี้ นักลงทุนจะให้ความสำคัญในการติดตามผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 13-14 มิ.ย.นี้ ซึ่งนักเคราะห์คาดว่า เฟดน่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% แน่นอน และที่สำคัญ ตลาดรับรู้ข้อมูลดังกล่าวมาพอสมควร ดังนั้น เชื่อว่าภาพรวมตลาดหุ้นไทยได้รับผลกระทบไม่มากนัก
ขณะที่หุ้นที่นักลงทุนเข้ามาเก็งกำไรในระยะสั้นกันมากช่วงนี้ คือ หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ที่ส่วนหนึ่งจะได้รับอานิสงส์โครงการรถไฟฟ้าของรัฐบาลตามเส้นทางต่างๆ ที่นักลงทุนประเมินว่า ความต้องการคอนโดฯ และบ้านของประชาชนจะมีมากขึ้น และที่สำคัญ จะทำให้ราคาที่อยู่อาศัยปรับราคาตามไปด้วย อย่างไรก็ตาม ภาพรวมของกลุ่มอสังหาฯ ถือว่ากำไรสุทธิยังไม่โดดเด่นในปีนี้ ยกเว้นบางบริษัทเท่านั้น
นายคณฆัส จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า ในสัปดาห์นี้คาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวผันผวนกรอบแคบ ประเมินแนวรับ 1,558-1,553 จุด แนวต้านแรก 1,575 จุด ถัดไป 1,583 จุด