xs
xsm
sm
md
lg

รายย่อยชี้ ก.ล.ต.หลงประเด็นปัญหาไอเฟค

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ตัวแทนผู้ถือหุ้นรายย่อย IFEC ชี้ ก.ล.ต.หลงประเด็นปัญหาไอเฟค มองเป็นเรื่องความขัดแย้งภายในองค์กร จึงไม่ยอมลงดาบเพื่อปกป้องนักลงทุน ปล่อย “หมอวิชัย” ทำผิดกฎหมาย ท้าทายอำนาจฝ่ายกำกับ ไร้กรรมการตรวจสอบ จนได้ใจ แอบขายโรงไฟฟ้า-จำนำหุ้น ICAP แลกยืดหนี้ตั๋วบี/อี ชี้ยังมองไม่เห็นอนาคตปลดเครื่องหมาย SP

นายชัยวัฒน์ พิทักษ์รักธรรม ตัวแทนผู้ถือหุ้นรายย่อย บริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (IFEC) เปิดเผยถึงกรณีผู้ถือหุ้นรายย่อยไอเฟค ไปยื่นหนังสือร้องเรียนถึงพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อร้องเรียน และขอความเป็นธรรมกรณีองค์กรของรัฐ 2 หน่วยงาน คือ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ไม่ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายเพื่อปกป้องผู้ลงทุนเพื่อให้ได้รับความเป็นธรรมว่า สำนักงาน ก.ล.ต.กำลังหลงประเด็น และมองว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นกับไอเฟค เป็นปัญหาภายใน เกิดจากความขัดแย้งของผู้บริหาร ทำให้ไม่เข้าไปก้าวก่าย โดย ก.ล.ต. ระบุว่า ได้มีการเชิญผู้บริหารเข้ามาประชุมร่วมกัน และหาทางแก้ปัญหาร่วมกันแล้ว แต่ในความเป็นจริง คือ ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นผลพวงมาจากการบริหารงานที่ผิดพลาด ส่อไปในทางไม่สุจริต และไม่คำนึงถึงหลักธรรมาภิบาล
 
ยกตัวอย่างที่เห็นได้อย่างชัดเจน คือ กรณีที่ประธานไอเฟค และกรรมการ แอบนำหุ้น บริษัท อินเตอร์ฟาร์อีสท์ แคป แมเนจเม้นท์ จำกัด (ICAP) ซึ่งเป็นบริษัทที่ถือหุ้นของโรงแรมดาราเทวี ในสัดส่วน 51% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วของบริษัท ซึ่งหากประเมินคร่าวๆ จากมูลค่าของโรงแรมดาราเทวี คิดเป็นมูลค่าประมาณ 2,000 ล้านบาท ไปจำนองเพื่อค้ำประกันหนี้ตั๋วบี/อี มูลค่าเพียง 100 ล้านบาท แล้วปล่อยให้มีการผิดชำระหนี้ ทั้งที่ไม่มีสิทธิ และอำนาจในการดำเนินการดังกล่าว โดยช่วงเวลานั้น กรรมการของไอเฟค เหลืออยู่เพียง 2 คนจากทั้งคณะมีจำนวน 9 คน

“แม้ประธานไอเฟค จะอ้างว่า การค้ำประกันดังกล่าวไม่ถูกต้องตามธุรกรรมปกติ และกรณีนี้ไม่มีผลทำให้บริษัทได้รับความเสียหาย ซึ่งผู้ถือหุ้นรายย่อยมองว่า ถือเป็นความเสี่ยงเป็นอย่างมาก และอาจก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อบริษัท และไม่รู้ว่าจะมีการสอดไส้อะไรอีกหรือไม่ เพราะในเวลานั้น ไม่มีคณะกรรมการตรวจสอบ หรือหน่วยงานใดเข้าไปตรวจสอบการบริหารงานของประธานไอเฟค” ตัวแทนผู้ถือหุ้นรายย่อยระบุ

นอกจากนี้ คณะกรรมการชุดดังกล่าวยังได้ทำธุรกรรมการขอกู้ยืมเงินจาก บริษัท อีสต์โคสท์ เฟอร์นิเทค จำกัด (มหาชน) (ECF) จำนวน 50 ล้านบาท โดยต้องเสียดอกเบี้ยในอัตรา 6.25% พร้อมกับนำหุ้นที่ IFEC ถืออยู่ในบริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เทอมอล พาวเวอร์ จำกัด (IFEC-T) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ IFEC ซึ่งทำธุรกิจโรงไฟฟ้าชีวมวลไปจำนำค้ำประกันการกู้ยืมเงิน ซึ่งโดยหลักการแล้ว ผู้ซื้อต้องเป็นผู้วางเงินมัดจำให้กับไอเฟค ไม่ใช่ไอเฟค ต้องไปทำสัญญาเงินกู้กับผู้ซื้อ

อีกประเด็น คือ ปัญหาภาระหนี้สินของไอเฟค จนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถชี้แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ถึงแนวทางการแก้ปัญหาหนี้ตั๋วแลกเงินระยะสั้น (บี/อี) เกือบ 3,000 ล้านบาท ซึ่งประธานไอเฟค อ้างว่า สามารถปรับโครงสร้างหนี้เรียบร้อยแล้ว 1,000 ล้านบาท แต่ก็ไม่ได้รับการยืนยันจากเจ้าหนี้ว่า มีการเจรจาจริงหรือไม่ โดยล่าสุด ไอเฟคจ่ายหนี้ดอกเบี้ยหุ้นกู้ได้เพียง 3.95 ล้านบาทเท่านั้น จากยอดที่จะต้องจ่ายในวันที่ 5 พฤษภาคม 2560 จำนวน 35.5 ล้านบาท ของมูลค่าหุ้นกู้ที่เสนอขายจำนวน 3,000 ล้านบาท โดยไอเฟค ระบุว่า จะจ่ายส่วนที่เหลือในวันที่ 14 มิถุนายนนี้ ทั้งที่ไอเฟค มีเงินจากการแปลงสภาพใบสำคัญแสดงสิทธิในการซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุน (IFEC-W-1) ประมาณ 37 ล้านบาท เพราะเหตุใด จึงไม่สามารถคืนหนี้ดอกเบี้ยให้กับเจ้าหนี้หุ้นกู้ได้

ล่าสุด เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคมที่ผ่านมา มีชายแต่งกายคล้ายทหาร และตำรวจ เข้ายึดโรงแรมดาราเทวี มีการเปลี่ยน GM ผู้บริหารโรงแรม และโอนเงินทุนหมุนเวียนของโรงแรม จำนวน 40 ล้านบาท ออกไป ซึ่งทำให้เกิดปัญหาด้านการเงินต่อโรงแรมดาราเทวีในทันที

“เห็นได้ชัดเจนว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นกับไอเฟค เป็นเรื่องการบริหารงานที่ผิดพลาด ส่อไปในทางไม่สุจริต ไร้ซึ่งธรรมาภิบาล ปกปิดข้อมูลทางบัญชี และการเงิน โดยไม่ยินยอมส่งงบบัญชีที่รับรองโดยผู้สอบบัญชี สร้างความเสียหายให้กับผู้ถือหุ้นรายย่อย ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา เราได้ทำหนังสือถึงสำนักงาน ก.ล.ต.ในฐานะผู้มีอำนาจดูแล แต่กลับวางเฉยไม่ดำเนินการใดๆ ยิ่งปล่อยนานวัน ปัญหาไอเฟค ยิ่งถลำลึก โดนแขวน SP มาเกือบครึ่งปี ยังไม่เห็นทางออก นั่นก็เพราะสำนักงาน ก.ล.ต. มองว่า เป็นปัญหาภายใน แล้วปัดความรับผิดชอบให้ผู้ถือหุ้นรักษาผลประโยชน์ตัวเอง ด้วยการเข้าประชุมผู้ถือหุ้น ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ก็เห็นอยู่แล้วว่า ประธานไอเฟคทำอะไร มีการใช้วิธีการลงคะแนนแบบเทคะแนน (Cumulative Voting) ในการเลือกตั้งกรรมการ ซึ่งเป็นวิธีที่ผิดกฎหมาย และระเบียบของบริษัท ในตอนนั้น เจ้าหน้าที่ของ ก.ล.ต.ที่เข้าสังเกตการณ์การประชุมก็เตือน แต่ประธานไอเฟค ก็ยังเดินหน้าต่อ โดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย แล้วอย่างนี้รายย่อยจะพึ่งใครได้ ถ้าไม่มีใครเข้าไปตรวจสอบ” ตัวแทนผู้ถือหุ้นรายย่อย กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น