โบรกฯ ทองชี้ตลาดทุนยังกังวลกระแสข่าวเฟด ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง กดดันราคาทองคำยังแกว่งในทิศทางขาลง แนะนักลงทุนรอความชัดเจน หากทองคำไม่หลุด 1,250 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ ทองคำจะเคลื่อนไหวแกว่งตัวในกรอบแคบ
นายณัฐพงศ์ หิรัณยศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์ จำกัด (MTS Gold Group) กล่าวว่า ทิศทางราคาทองคำในช่วงนี้ยังปรับตัวลดลงต่อเนื่อง ท่ามกลางความกังวลว่า เฟดจะทำการปรับลดงบดุลลงมา หลังจากที่เฟด ตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยแล้ว จึงทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐยังอยู่ในทิศทางแข็งค่าแถวระดับ 94.44 จุด จากระดับ 94.25 จุดวานนี้ (15 มิ.ย.) ด้านค่าเงินบาทอ่อนค่าขึ้นไปแตะ 34.00 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ และเช้านี้แข็งลงมาเล็กน้อยที่ 33.96 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่กองทุน SPDR ขายทองคำออกมาอีก 1.19 ตัน โดยปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 853.68 ตัน สำหรับภาพรวมยังได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ ประกอบกับตลาดมองว่า ประเด็นทางการเมืองน่าจะไม่รุนแรงนัก ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐฯ ส่วนใหญ่ออกมาดีขึ้น นำโดย Jobless Claims และข้อมูลภาคการผลิตที่ดีขึ้น จึงกดดันทำให้ราคาทองคำปรับตัวลดลงมาทดสอบ 1,250 เหรียญสหรัฐ สำหรับคืนนี้ต้องติดตามข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ ภาคอสังหาริมทรัพย์ และคาดว่าน่าจะไม่สำคัญต่อตลาดมากนัก
อย่างไรก็ตาม หากวิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิคแล้วกลับพบว่า ในเชิงเทคนิคระยะสั้นทองคำยังมีความผันผวนขึ้นลงในกรอบ 1,250 เหรียญสหรัฐ ซึ่งถือเป็นแนวรับสำคัญ และแนวต้านสำคัญ 1,270 เหรียญสหรัฐ ทั้งนี้ หากทองคำหลุด 1,250 เหรียญสหรัฐ ลงมา จะทำให้แนวโน้มในระยะกลางกลับเป็นขาลงอีกครั้ง ขณะที่ภาพรวมราคาทองคำยังมีความไม่แน่นอนจากเนื้อข่าวที่เข้ามากระทบ ด้านราคาทองคำไทยจะมีแนวรับ 20,200 บาทต่อบาททองคำ และแนวต้าน 20,450 บาทต่อบาททองคำ หากทองคำไทยหลุด 20,200 บาทต่อบาททองคำ จะลงมาทดสอบ 20,000 บาทต่อบาททองคำ
ขณะที่กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ แนะนำนักลงทุนรอความชัดเจน หากทองคำไม่หลุด 1,250 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ ทองคำจะเคลื่อนไหวแกว่งตัวในกรอบแคบ แต่หากหลุดลงมาให้ทำการตัดขาดทุนที่ระดับราคา 1,248 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์