ที.ซี.เจ. เอเซีย มั่นใจรายได้ปีนี้เติบโต 10% ตามเป้า หลังอวดงบ Q1/60 กำไรทะลัก 27.19 ลบ. ตามรายได้เพิ่มขึ้น 63.4% มาอยู่ที่ 281.31 ลบ. ด้านผู้บริหารเผยมีแผนสั่งซื้อเครื่องจักรกลรองรับโครงการในอนาคต ตามแผนที่ได้ระดมทุน พร้อมระบุ TCJ-W2 ลงเทรดวันแรก (13 มิ.ย. 60) นักลงทุนตอบรับอย่างอบอุ่น
ดร. ทรงวุฒิ ไกรภัสสร์พงษ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ที.ซี.เจ. เอเซีย จำกัด (มหาชน) หรือ TCJ ผู้จัดจำหน่ายสินค้าประเภทเครื่องจักรกลหนักในงานก่อสร้าง ยานยนต์อุตสาหกรรม ทั้งผลิต และจัดจำหน่ายสินค้าโลหะ โดยเฉพาะเหล็กกล้าไร้สนิม (สแตนเลส) และยังเป็นผู้ให้บริการติดตั้ง และตบแต่งด้วยสแตนเลสบนสถานีรถไฟฟ้า ที่ได้รับความเชื่อมั่นจากลูกค้าเป็นอย่างสูง เปิดเผยว่า บริษัทฯ คาดผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/60 มีทิศทางเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเป็นไปตามภาวะอุตสาหกรรมที่มีการฟื้นตัว ประกอบกับบริษัทฯ มีธุรกิจที่หลากหลาย โดยเฉพาะกลุ่มการให้เช่าเครื่องจักรกลหนัก ประเภทเครนยก กลุ่มการขายเครื่องจักรกลหนัก กลุ่มสินค้าผลิตภัณฑ์โลหะ และกลุ่มท่อเหล็กกล้าไร้สนิม ที่มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง ดังนั้น บริษัทฯ จึงมั่นใจภาพรวมในปีนี้รายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 10% จากปีก่อนที่มีรายได้ 1,245.38 ล้านบาท
สำหรับผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1 ปี 2560 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2560 บริษัทฯ และบริษัทฯ ย่อย มีกำไร 27.19 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1/59 ที่มีกำไร 1.98 ล้านบาท โดยรายได้รวมของบริษัทฯ และบริษัทฯ ย่อย จำนวน 459.64 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากในไตรมาส 1 ปี 2559 ที่มีรายได้รวม 281.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 63.4% ซึ่งรายได้ที่เพิ่มขึ้นมาจากรายได้จากการขายราว 313.38 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 121.1% ประกอบด้วยกลุ่มสินค้าผลิตภัณฑ์โลหะ ทั้งจากการผลิต และจำหน่ายท่อเหล็กกล้าไร้สนิม และการจำหน่ายแผ่นเหล็ก รวมถึงการจำหน่ายเครื่องจักรสำหรับอุตสาหกรรมก่อสร้าง
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังรับรู้รายได้จากการรับเหมาติดตั้งราว 26.98 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงไตรมาสเดียวกันของปี 2559 เท่ากับ 146.3% จากผลงานที่ติดตั้งเพิ่มเติมในช่วงไตรมาส 1 ของโครงการรับเหมาต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา
นายทัสชน ลีลาประชากุล ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ เปิดเผยว่า ปัจจุบัน บริษัทฯ ได้มีส่วนร่วมในธุรกิจที่หลายหลาก โดยสามารถแบ่งได้ตามอุตสาหกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นงานโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ อุตสาหกรรมก่อสร้าง หรืองานอสังหาริมทรัพย์ “TCJ” ได้เข้าไปมีส่วนร่วมตั้งแต่งานฐานล่างสุดจนถึงงานตบแต่ง นอกจากนี้ TCJ ยังได้รับงานตบแต่งสถานีรถไฟฟ้า ซึ่งเป็นงานที่มีมูลค่าสูง โดยถือว่าเป็นผลจากการที่บริษัทฯ สั่งสมประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญที่มีมายาวนาน ทำให้ “TCJ” ได้รับความไว้วางใจให้เป็นผู้ประกอบ และติดตั้งโลหะภัณฑ์ (Metal Fabricator) ที่ให้บริการครบวงจร และไม่เพียงความเชี่ยวชาญด้านเครื่องจักรกลอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ บริษัทฯ ยังคงให้ความสำคัญกับงานในทุกขนาด ทุกโครงการ ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้มีการวางแผนสั่งซื้อเครื่องจักรกลหนักเพิ่มในประเภทที่เหมาะสม เพื่อรองรับโครงการในอนาคต ต่อยอดจากพื้นฐานธุรกิจเดิม ตามแผนที่ได้ระดมทุนไป
ดร. ทรงวุฒิ กล่าวเสริมว่า เมื่อช่วงปลาย พ.ค. ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้นในอัตรา 4 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ในราคาเสนอขายหุ้นละ 10 บาท พร้อมทั้งได้รับวอร์แรนต์ จำนวน 2 หน่วยฟรี โดยใบสำคัญแสดงสิทธิซื้อหุ้น บริษัท ที.ซี.เจ. เอเซีย จำกัด (มหาชน) ชุดที่ 2 หรือ TCJ-W2 ได้เข้าทำการซื้อขายวันที่ 13 มิ.ย. 2560 เป็นวันแรก และพบว่าได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างอบอุ่น และบรรยากาศการซื้อขายในชั่วโมงเทรดเป็นไปอย่างคึกคัก ปริมาณการซื้อขายหนาแน่น โดย TCJ-W2 เปิดตลาดที่ 2.16 บาทต่อหน่วย ระหว่างชั่วโมงการซื้อขายราคาปรับตัวสูงสุดที่ 3.06 บาทต่อหน่วย และปิดตลาดที่ระดับดังกล่าวด้วยมูลค่าการซื้อขายกว่า 130.47 ล้านบาท
ทั้งนี้ TCJ -W2 มีอัตราใช้สิทธิ 1 วอร์แรนต์ต่อ 1 หุ้น โดยมีอายุใบสำคัญแสดงสิทธิภายใน 3 ปี ในราคาการใช้สิทธิที่ 10.00 บาทต่อหุ้น ซึ่งสามารถใช้สิทธิได้ครั้งแรกในวันศุกร์ที่ 30 มิ.ย. 2560 และใช้สิทธิได้ครั้งสุดท้ายในวันที่ 5 มิ.ย. 2563
ดร. ทรงวุฒิ กล่าวอีกว่า บริษัทฯ ได้เงินจากการเพิ่มทุนราวเกือบ 200 ล้านบาท ส่งผลให้ปัจจุบัน ฐานะการเงินมีสภาพที่คล่องขึ้น เพียงพอสำหรับรองรับแผนการขยายธุรกิจในอนาคต และผลักดันให้มีการเติบโตอย่างยั่งยืนได้ โดยบริษัทฯ จะนำเงินไปซื้อเครื่องจักร และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรองรับการขยายตัวของภาคธุรกิจโดยรวม และจากโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor : EEC) ของภาครัฐ