บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI ส่งหนังสือชี้แจงตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. กรณีไม่เพิ่มทุนในบริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOK ระบุว่า คณะกรรมการบริษัท เห็นว่า บริษัทควรมุ่งเน้นการดำเนินงานตามแผนปฏิรูปของบริษัทเป็นอันดับหนึ่ง เนื่องจากมีประเด็นที่ต้องดำเนินการหลายประเด็น อย่างไรก็ตาม บริษัทพร้อมให้ความร่วมมือในฐานะผู้ถือหุ้น เพื่อสนับสนุนให้สายการบินนกแอร์ สามารถพลิกฟื้น และเดินหน้าต่อไปได้อย่างยั่งยืน ถึงแม้ว่าการไม่เพิ่มทุนครั้งนี้จะทำให้สัดส่วนการถือครองหุ้นของบริษัทในสายการบินนกแอร์ลดลง และคณะกรรมการบริษัทยังได้มอบหมายให้ผู้แทนของบริษัทที่เป็นคณะกรรมการของสายการบินนกแอร์เข้าไปร่วมแก้ไข
อนึ่ง ก่อนหน้านี้คณะกรรมการของบริษัทได้ตระหนักถึงสถานการณ์ของสายการบินนกแอร์ ที่ขาดสภาพคล่อง และจำเป็นจะต้องได้รับเงินทุนเพิ่มสำหรับการดำเนินงาน จึงได้มีมติในการประชุมเมื่อวันที่ 12 เมษายน 2560 เห็นชอบให้ผู้แทนของบริษัทไปร่วมลงมติเห็นชอบการเพิ่มทุนของสายการบินนกแอร์ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ถือหุ้นอื่นๆ ได้ซื้อหุ้นเพิ่มทุนตามแต่จะเห็นสมควร แต่ในการประชุมครั้งดังกล่าว คณะกรรมการบริษัทยังไม่ได้มีมติว่า จะให้บริษัทจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนในการนี้หรือไม่ เพราะยังต้องรอศึกษาความเหมาะสม และความคุ้มค่าในการลงทุนเพิ่มในสายการบินนกแอร์ เพื่อประกอบการตัดสินใจก่อน
ต่อมา เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2560 ได้มีการประชุมคณะกรรมการบริษัท เพื่อพิจารณาเรื่องการจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนสายการบินนกแอร์ ซึ่งคณะกรรมการบริษัทได้พิจารณาจากรายงานของคณะทำงานเฉพาะกิจ (Special Task Force) ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อพิจารณาความเหมาะสม และความคุ้มค่าการลงทุนในสายการบินนกแอร์เพิ่มขึ้น ภายใต้สภาวการณ์ของบริษัทในปัจจุบัน ประกอบกับข้อมูล และความเห็นอื่นๆ
เมื่อพิจารณาแล้ว คณะกรรมการบริษัทมีความเห็นว่า บริษัทยังไม่สมควรลงทุนเพิ่มในสายการบินนกแอร์ โดยสาระสำคัญประกอบการพิจารณา คือ ความพร้อมของบริษัท และสายการบินนกแอร์ ภายใต้สภาวการณ์ปัจจุบัน แต่บริษัทจะยังคงให้ความร่วมมือในฐานะผู้ถือหุ้น เพื่อสนับสนุนให้สายการบินนกแอร์สามารถพลิกฟื้น และเดินหน้าต่อไปได้อย่างยั่งยืน และคณะกรรมการบริษัทยังได้มอบหมายให้ผู้แทนของบริษัทที่เป็นคณะกรรมการของสายการบินนกแอร์ เร่งกำกับดูแล และให้ความช่วยเหลือสายการบินนกแอร์ ให้สามารถดำเนินการตามแผนฟื้นฟูให้สำเร็จโดยเร็วที่สุด
ปัจจุบัน THAI เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 ของ NOK ด้วยสัดส่วน 39.2% ขณะที่ NOK ได้เพิ่มทุนจดทะเบียนมากกว่าเท่าตัวเป็นระดับ 1.41 พันล้านบาท โดยออกหุ้นใหม่ 781.25 ล้านหุ้น พาร์หุ้นละ 1 บาท จัดสรรหุ้นเพิ่มทุนไม่เกิน 625 ล้านหุ้น เสนอขายผู้ถือหุ้นเดิมในอัตราส่วน 1 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ที่ราคาหุ้นละ 2.40 บาท กำหนดจองซื้อระหว่างวันที่ 16-19 และ 22 พ.ค.60
พร้อมกันนี้ NOK ได้จัดสรรหุ้นเพิ่มทุนไม่เกิน 156.25 ล้านหุ้น รองรับการใช้สิทธิแปลงสภาพของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ (วอร์แรนต์) NOK-W1 ที่จะออกวอร์แรนต์ไม่เกิน 156.25 ล้านหน่วย อายุ 3 ปี ที่จะจัดสรรให้ฟรีแก่ผู้ถือหุ้นเดิมที่จองซื้อหุ้นเพิ่มทุนในอัตราส่วน 4 หุ้นเพิ่มทุนใหม่ต่อ 1 วอร์แรนต์ โดยมีอัตราการใช้สิทธิ 1 วอร์แรนต์ต่อ 1 หุ้นใหม่ที่ราคาหุ้นละ 5 บาท
อนึ่ง ก่อนหน้านี้คณะกรรมการของบริษัทได้ตระหนักถึงสถานการณ์ของสายการบินนกแอร์ ที่ขาดสภาพคล่อง และจำเป็นจะต้องได้รับเงินทุนเพิ่มสำหรับการดำเนินงาน จึงได้มีมติในการประชุมเมื่อวันที่ 12 เมษายน 2560 เห็นชอบให้ผู้แทนของบริษัทไปร่วมลงมติเห็นชอบการเพิ่มทุนของสายการบินนกแอร์ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ถือหุ้นอื่นๆ ได้ซื้อหุ้นเพิ่มทุนตามแต่จะเห็นสมควร แต่ในการประชุมครั้งดังกล่าว คณะกรรมการบริษัทยังไม่ได้มีมติว่า จะให้บริษัทจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนในการนี้หรือไม่ เพราะยังต้องรอศึกษาความเหมาะสม และความคุ้มค่าในการลงทุนเพิ่มในสายการบินนกแอร์ เพื่อประกอบการตัดสินใจก่อน
ต่อมา เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2560 ได้มีการประชุมคณะกรรมการบริษัท เพื่อพิจารณาเรื่องการจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนสายการบินนกแอร์ ซึ่งคณะกรรมการบริษัทได้พิจารณาจากรายงานของคณะทำงานเฉพาะกิจ (Special Task Force) ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อพิจารณาความเหมาะสม และความคุ้มค่าการลงทุนในสายการบินนกแอร์เพิ่มขึ้น ภายใต้สภาวการณ์ของบริษัทในปัจจุบัน ประกอบกับข้อมูล และความเห็นอื่นๆ
เมื่อพิจารณาแล้ว คณะกรรมการบริษัทมีความเห็นว่า บริษัทยังไม่สมควรลงทุนเพิ่มในสายการบินนกแอร์ โดยสาระสำคัญประกอบการพิจารณา คือ ความพร้อมของบริษัท และสายการบินนกแอร์ ภายใต้สภาวการณ์ปัจจุบัน แต่บริษัทจะยังคงให้ความร่วมมือในฐานะผู้ถือหุ้น เพื่อสนับสนุนให้สายการบินนกแอร์สามารถพลิกฟื้น และเดินหน้าต่อไปได้อย่างยั่งยืน และคณะกรรมการบริษัทยังได้มอบหมายให้ผู้แทนของบริษัทที่เป็นคณะกรรมการของสายการบินนกแอร์ เร่งกำกับดูแล และให้ความช่วยเหลือสายการบินนกแอร์ ให้สามารถดำเนินการตามแผนฟื้นฟูให้สำเร็จโดยเร็วที่สุด
ปัจจุบัน THAI เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 ของ NOK ด้วยสัดส่วน 39.2% ขณะที่ NOK ได้เพิ่มทุนจดทะเบียนมากกว่าเท่าตัวเป็นระดับ 1.41 พันล้านบาท โดยออกหุ้นใหม่ 781.25 ล้านหุ้น พาร์หุ้นละ 1 บาท จัดสรรหุ้นเพิ่มทุนไม่เกิน 625 ล้านหุ้น เสนอขายผู้ถือหุ้นเดิมในอัตราส่วน 1 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ที่ราคาหุ้นละ 2.40 บาท กำหนดจองซื้อระหว่างวันที่ 16-19 และ 22 พ.ค.60
พร้อมกันนี้ NOK ได้จัดสรรหุ้นเพิ่มทุนไม่เกิน 156.25 ล้านหุ้น รองรับการใช้สิทธิแปลงสภาพของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ (วอร์แรนต์) NOK-W1 ที่จะออกวอร์แรนต์ไม่เกิน 156.25 ล้านหน่วย อายุ 3 ปี ที่จะจัดสรรให้ฟรีแก่ผู้ถือหุ้นเดิมที่จองซื้อหุ้นเพิ่มทุนในอัตราส่วน 4 หุ้นเพิ่มทุนใหม่ต่อ 1 วอร์แรนต์ โดยมีอัตราการใช้สิทธิ 1 วอร์แรนต์ต่อ 1 หุ้นใหม่ที่ราคาหุ้นละ 5 บาท