xs
xsm
sm
md
lg

วอร์แรนต์ “ที.ซี.เจ. เอเซีย” เทรดนักลงทุนตอบรับอบอุ่น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“ที.ซี.เจ. เอเซีย” วอรแรนต์ 2 หรือ TCJ-W2 ลงเทรดวานนี้วันแรก (13 มิ.ย. 2560) นักลงทุนตอบรับอย่างอบอุ่น โดยบรรยากาศเข้าซื้อขายในวันแรกราคาทะยานแตะ 3.06 บาทต่อหน่วย ผู้บริหารมั่นใจภาพรวมในปีนี้รายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 10% จากปีก่อนที่ 1,245.38 ล้านบาท

บริษัท ที.ซี.เจ. เอเซีย จำกัด (มหาชน) หรือ TCJ ได้ขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น ในอัตรา 4 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ในราคาเสนอขายหุ้นละ 10 บาท พร้อมทั้งได้รับวอร์แรนต์ จำนวน 2 หน่วยฟรี โดยใบสำคัญแสดงสิทธิซื้อหุ้น บริษัท ที.ซี.เจ. เอเซีย จำกัด (มหาชน) ชุดที่ 2 หรือ TCJ-W2 ได้เข้าทำการซื้อขายวานนี้ (13 มิ.ย. 2560) เป็นวันแรก และพบว่า ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างอบอุ่น และบรรยากาศการซื้อขายในชั่วโมงเทรดเป็นไปอย่างคึกคัก ปริมาณการซื้อขายหนาแน่น
 
โดย TCJ-W2 เปิดตลาดที่ 2.16 บาทต่อหน่วย ระหว่างชั่วโมงการซื้อขายราคาปรับตัวสูงสุดที่ 3.06 บาทต่อหน่วย และปิดตลาดที่ระดับดังกล่าว ด้วยมูลค่าการซื้อขายกว่า 130.47 ล้านบาท

ทั้งนี้ TCJ -W2 มีอัตราใช้สิทธิ 1 วอร์แรนต์ต่อ 1 หุ้น โดยมีอายุใบสำคัญแสดงสิทธิภายใน 3 ปี ในราคาการใช้สิทธิที่ 10.00 บาทต่อหุ้น ซึ่งสามารถใช้สิทธิได้ครั้งแรกในวันศุกร์ที่ 30 มิ.ย. 2560 และใช้สิทธิได้ครั้งสุดท้ายในวันที่ 5 มิ.ย. 2563
 
ดร.ทรงวุฒิ ไกรภัสสร์พงษ์ ประธานกรรมการบริหาร TCJ ผู้จัดจำหน่ายสินค้าประเภทเครื่องจักรกลหนักในงานก่อสร้าง ยานยนต์อุตสาหกรรม ทั้งผลิต และจัดจำหน่ายสินค้าโลหะ โดยเฉพาะเหล็กกล้าไร้สนิม (สแตนเลส) และยังเป็นผู้ให้บริการติดตั้ง และตบแต่งด้วยสแตนเลส บนสถานีรถไฟฟ้า ที่ได้รับความเชื่อมั่นจากลูกค้าเป็นอย่างสูง เปิดเผยว่า บริษัทฯ มั่นใจภาพรวมในปีนี้รายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 10% จากปีก่อนที่มีรายได้ 1,245.38 ล้านบาท
 
ทิศทางของรายได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากกลุ่มสินค้าผลิตภัณฑ์โลหะ ทั้งจากการผลิต และจำหน่ายท่อเหล็กกล้าไร้สนิม และการจำหน่ายแผ่นเหล็ก รวมถึงการจำหน่ายเครื่องจักรสำหรับอุตสาหกรรมก่อสร้าง นอกจากนี้ บริษัทยังรับรู้รายได้จากการรับเหมาติดตั้งเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

อีกทั้ง บริษัทยังได้รับเงินจากการเพิ่มทุนราวเกือบ 200 ล้านบาท ส่งผลให้ปัจจุบัน ฐานะการเงินมีสภาพที่คล่องขึ้น โดยบริษัทฯ จะนำเงินไปซื้อเครื่องจักร และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรองรับการขยายตัวของภาคธุรกิจโดยรวม และจากโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor : EEC) ของภาครัฐ
กำลังโหลดความคิดเห็น