นายทวีลาภ ฤทธาภิรมย์ กรรมการผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)(BBL) เปิดเผยว่า ธนาคารยังคงแผนธุรกิจเดิมที่จะเปิดเพิ่มสาขาอีก 20 แห่งในปีนี้ โดยจะพิจารณาในพื้นที่ที่ยังมีความต้องการใช้ธุรกรรมในสาขา หรือแหล่งธุรกิจ แหล่งชุมชนใหม่ ซึ่งที่ผ่านมา ธนาคารยังไม่เห็นปริมาณการใช้ธุรกรรมลดลงอย่างมีนัยสำคัญ สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากลูกค้าของธนาคารเป็นลูกค้าธุรกิจที่ยังต้องใช้การทำธุรกรรมต่างๆ ในสาขาอยู่ และในสาขาบางส่วนก็มีศูนย์ธุรกิจอยู่ ดังนั้น จึงยังไม่มีแนวทางการลดสาขาในช่วงนี้ แต่ก็จะมีการทบทวนอยู่เป็นระยะๆ ไป
“เราเข้าใจว่า พฤติกรรมของผู้บริโภคโดยรวมนั้น เปลี่ยนไปใช้ช่องทางอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น อันนี้เป็นพฤติกรรมของภาพรวม แต่กลุ่มลูกค้าของธนาคาร ที่เป็นกลุ่มธุรกิจที่อาจจะยังมีความจำเป็นต้องใช้ช่องทางสาขาอยู่เป็นส่วนใหญ่ ปริมาณธุรกิจในสาขา โดยเฉพาะสาขาในห้างสรรพสินค้านั้น ยังเติบโตต่อเนื่อง ขณะที่พื้นที่ความเป็นเมืองก็อาจจะมีบางส่วนเปลี่ยนไป หรือเพิ่มขึ้นตามแนวรถไฟฟ้าบ้าง อย่างอื่นบ้าง ก็คิดว่าตรงนั้นก็ยังต้องการสาขาธนาคารอยู่ และถึงแม้ช่องทางอิเล็กทรอนิกส์จะเข้ามามีบทบาทมากขึ้น แต่จุดเริ่มต้นก็ต้องเริ่มที่สาขาก่อน เราจึงยังให้ความสำคัญกับสาขาอยู่ ส่วนจะมีอุปกรณ์ทางอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เสริมเข้ามมาก็เป็นได้ ขึ้นอยู่กับความเหมาะสม”
ทั้งนี้ จากข้อมูลจำนวนสาขาของธนาคารพาณิชย์จากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ณ สิ้นปี 2559 ธนาคารกรุงเทพ มีสาขารวมทั่วประเทศ 1,157 สาขา และในช่วงที่ผ่านมา ของปีได้เปิดเพิ่มจำนวน 7 แห่ง
สำหรับการติดตั้งอุปกรณ์รับชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ (EDC) แก่ร้านค้า และหน่วยงานภาครัฐทั่วประเทศรวม 560,000 จุด ภายในเดือนมีนาคม 2561 ภายใต้แผนยุทธศาสตร์ระบบชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ (National e-Payment) นั้น ก็อยู่ระหว่างการดำเนินการ และทบทวนแผนงานต่างๆ เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ในส่วนของธนาคารคงยังไม่มีการออกโปรโมชันเพิ่มเติม เพราะต้องรอดูผลของโปรโมชันต่างๆ ที่ออกไปก่อนหน้านี้ด้วย
นายทวีลาภ กล่าวอีกว่า เราก็พยายามหาเหตุผลอยู่ว่า ทำไมผู้ประกอบการถึงยังไม่สนใจ หรือไม่กล้าที่จะติดเครื่องอีดีซี แต่ก็มีบางกลุ่มที่ยอมรับ และติดตั้งทันทีที่เจ้าหน้าที่เสนอ และโปรโมชันต่างๆ ที่ทำกันมาก็ถือว่ามากแล้วระดับหนึ่ง ซึ่งผมคิดว่า ส่วนหนึ่งมาจากการสื่อสาร หรือทำความเข้าใจที่ยังไม่มากพอ ก็ต้องทบทวนในหลายๆ ด้าน เพื่อให้ดำเนินการได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ในระยะต่อๆ ไป
ล่าสุด ธนาคารกรุงเทพ ได้เป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการของโครงการ Bangkok Bank CycleFest 2017 โปรแกรมการแข่งขันจักรยานที่สร้างสรรค์ขึ้นเพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์โดยได้ร่วมรุ่น และประเภทสำหรับการปั่นที่หลากหลายไว้อย่างครบครัน ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Ride for All” ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 11-12 พฤศจิกายน 2560 โดยคาดว่า จะมีอยู่เข้ร่วมกว่า 3,000 คน
สำหรับผู้สนใจ สามารถลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วมการแข่งขันได้ที่ www.bangkokbankcyclefest.com และสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าบัตรเครดิต และบัตรเดบิตบีเฟิสต์ ธนาคารกรุงเทพ 600 ท่านแรกที่ลงทะเบียน และชำระเงินด้วยบัตรธนาคารกรุงเทพ รับส่วนลดพิเศษจากราคา 20-25%
“เราเข้าใจว่า พฤติกรรมของผู้บริโภคโดยรวมนั้น เปลี่ยนไปใช้ช่องทางอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น อันนี้เป็นพฤติกรรมของภาพรวม แต่กลุ่มลูกค้าของธนาคาร ที่เป็นกลุ่มธุรกิจที่อาจจะยังมีความจำเป็นต้องใช้ช่องทางสาขาอยู่เป็นส่วนใหญ่ ปริมาณธุรกิจในสาขา โดยเฉพาะสาขาในห้างสรรพสินค้านั้น ยังเติบโตต่อเนื่อง ขณะที่พื้นที่ความเป็นเมืองก็อาจจะมีบางส่วนเปลี่ยนไป หรือเพิ่มขึ้นตามแนวรถไฟฟ้าบ้าง อย่างอื่นบ้าง ก็คิดว่าตรงนั้นก็ยังต้องการสาขาธนาคารอยู่ และถึงแม้ช่องทางอิเล็กทรอนิกส์จะเข้ามามีบทบาทมากขึ้น แต่จุดเริ่มต้นก็ต้องเริ่มที่สาขาก่อน เราจึงยังให้ความสำคัญกับสาขาอยู่ ส่วนจะมีอุปกรณ์ทางอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เสริมเข้ามมาก็เป็นได้ ขึ้นอยู่กับความเหมาะสม”
ทั้งนี้ จากข้อมูลจำนวนสาขาของธนาคารพาณิชย์จากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ณ สิ้นปี 2559 ธนาคารกรุงเทพ มีสาขารวมทั่วประเทศ 1,157 สาขา และในช่วงที่ผ่านมา ของปีได้เปิดเพิ่มจำนวน 7 แห่ง
สำหรับการติดตั้งอุปกรณ์รับชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ (EDC) แก่ร้านค้า และหน่วยงานภาครัฐทั่วประเทศรวม 560,000 จุด ภายในเดือนมีนาคม 2561 ภายใต้แผนยุทธศาสตร์ระบบชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ (National e-Payment) นั้น ก็อยู่ระหว่างการดำเนินการ และทบทวนแผนงานต่างๆ เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ในส่วนของธนาคารคงยังไม่มีการออกโปรโมชันเพิ่มเติม เพราะต้องรอดูผลของโปรโมชันต่างๆ ที่ออกไปก่อนหน้านี้ด้วย
นายทวีลาภ กล่าวอีกว่า เราก็พยายามหาเหตุผลอยู่ว่า ทำไมผู้ประกอบการถึงยังไม่สนใจ หรือไม่กล้าที่จะติดเครื่องอีดีซี แต่ก็มีบางกลุ่มที่ยอมรับ และติดตั้งทันทีที่เจ้าหน้าที่เสนอ และโปรโมชันต่างๆ ที่ทำกันมาก็ถือว่ามากแล้วระดับหนึ่ง ซึ่งผมคิดว่า ส่วนหนึ่งมาจากการสื่อสาร หรือทำความเข้าใจที่ยังไม่มากพอ ก็ต้องทบทวนในหลายๆ ด้าน เพื่อให้ดำเนินการได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ในระยะต่อๆ ไป
ล่าสุด ธนาคารกรุงเทพ ได้เป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการของโครงการ Bangkok Bank CycleFest 2017 โปรแกรมการแข่งขันจักรยานที่สร้างสรรค์ขึ้นเพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์โดยได้ร่วมรุ่น และประเภทสำหรับการปั่นที่หลากหลายไว้อย่างครบครัน ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Ride for All” ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 11-12 พฤศจิกายน 2560 โดยคาดว่า จะมีอยู่เข้ร่วมกว่า 3,000 คน
สำหรับผู้สนใจ สามารถลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วมการแข่งขันได้ที่ www.bangkokbankcyclefest.com และสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าบัตรเครดิต และบัตรเดบิตบีเฟิสต์ ธนาคารกรุงเทพ 600 ท่านแรกที่ลงทะเบียน และชำระเงินด้วยบัตรธนาคารกรุงเทพ รับส่วนลดพิเศษจากราคา 20-25%