บล.เอเชีย เวลท์ คาดสัปดาห์นี้ปัจจัยต่างประเทศยังคงกดดันตลาดหุ้น โดยเฉพาะประเด็นธนาคารกลางสหรัฐฯ ปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้แน่ ซึ่งความเป็นไปได้มากกว่า 90% ที่จะขึ้นดอกเบี้ยร้อยละ 0.25% แนะจับตา เทเรซา เมย์ หากไม่สามารถตั้งรัฐบาลได้ มีโอกาสที่อังกฤษจะต้องเปลี่ยนขั้วการเมือง ประเมิน SET Index สัปดาห์นี้เคลื่อนไหวในกรอบแคบ 1,562-1,572 จุด
นายวรุตม์ ศิวะศริยานนท์ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย เวลท์ จำกัด กล่าวว่า ปัจจัยติดตามสัปดาห์นี้ ฝรั่งเศสเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรรอบแรกเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (11 มิ.ย.) ซึ่งผลการเลือกตั้งเมื่อนับคะแนนมากกว่า 90% พรรคการเมืองของประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง และพรรคที่เป็นพันธมิตรนำมาห่างจนตลาดคาดว่า จะชนะด้วยเสียงข้างมากในผลสุดท้าย โดยจะมีการเลือกรอบ 2 ในวันอาทิตย์หน้านี้ (18 มิ.ย.)
ขณะที่ด้านการประชุมคณะกรรมการธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ในวันที่ 13-14 มิ.ย.นี้ ตลาดคาดการณ์ว่า มีความเป็นไปได้มากกว่า 90% ที่จะขึ้นดอกเบี้ย 25 จุด และคาดว่า Fed จะขึ้นดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้ ทั้งนี้ การขึ้นดอกเบี้ยของ Fed น่าจะส่งผลดีในระยะยาวต่อหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ของไทยด้วย แต่จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งน่าจะยังคงไม่เกิดขึ้นในอีกหลายไตรมาส
นอกจากนี้ สัปดาห์นี้จะต้องติดตามผลการประชุมของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ในวันที่ 16 มิ.ย. ด้านอังกฤษนั้น หลังจากผลการเลือกตั้งในสัปดาห์ก่อน ทำให้มีโอกาสที่อังกฤษจะต้องเปลี่ยนรัฐบาล หากเทเรซา เมย์ ไม่สามารถตั้งรัฐบาลได้ ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) จะประชุมในวันที่ 15 มิ.ย. ไม่น่าจะขึ้นดอกเบี้ยได้ใน 2 ปีข้างหน้าจากเรื่อง Brexit
“จากปัจจัยต่างประเทศที่มีความไม่แน่นอนสูง ทำให้คาดว่า ตลาดหุ้นในสัปดาห์นี้จะไปไหนได้ไม่ไกล โดยนักลงทุนส่วนหนึ่งอาจหลีกเลี่ยงสินทรัพย์เสี่ยง เช่น หุ้น ไปลงทุนในพันธบัตร ทองคำ ฯลฯ ด้านเม็ดเงินลงทุนในเอเชียไม่น่าจะไหลกลับยุโรป เพราะมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นจากกรณีเลือกตั้งของอังกฤษ รวมถึงเม็ดเงินลงทุนในไทยยังคงอยู่ แต่จะอยู่มากในตลาดพันธบัตร สังเกตได้จากเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นมาก ทั้งนี้ คาด SET Index สัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวในกรอบแคบ 1,562-1,572 จุด”