xs
xsm
sm
md
lg

NIDA มองรัฐบาลจัดทำงบฯ ปี 61 แบบขาดดุลเพิ่มขึ้น 6.1% ตอบโจทย์กระตุ้นเศรษฐกิจ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


NIDA มองรัฐบาลจัดทำงบฯปี 61 แบบขาดดุลเพิ่มขึ้น 6.1% ตอบโจทย์กระตุ้นเศรษฐกิจ ด้วยการจัดสรรงบการลงทุนเพิ่มขึ้น 20.2% เพื่อมุ่งหวังให้เกิดผลทางเศรษฐกิจ และเชิงบวกต่อการขับเคลื่อนเชิงนโยบาย และมุ่งเน้นพัฒนาสร้างรากฐานที่สำคัญต่อการพัฒนาประเทศ

นายมนตรี โสคติยานุรักษ์ ผู้อำนวยการหลักสูตรการจัดการภาครัฐและภาคเอกชนสำหรับนักบริหาร (MPPM Executive program) สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) กล่าวว่า รัฐบาลได้กำหนดวงเงินงบประมาณรายจ่ายปี 61 ไว้ที่ 2.9 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 6.1% ซึ่งเป็นงบประมาณแบบขาดดุล โดยหากวิเคราะห์โครงสร้างงบประมาณรายจ่ายปี 61 จะพบว่า รัฐบาลมีรายจ่ายประจำเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 2.4% รายจ่ายเพื่อการลงทุนเพิ่มขึ้น 20.2% และการจ่ายชำระคืนต้นเงินกู้เพิ่มขึ้น 7.1% โดยงบประมาณรายรับจะถูกจัดสรรเป็นรายได้ 84.5% และเป็นเงินกู้ 15.5% ทำให้ต้องกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 15.4% หรือประมาณ 6 หมื่นล้านบาท

"งบปี 61 เราเห็นความมุ่งมั่นของรัฐบาลใช้นโยบายการคลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยการจัดสรรงบการลงทุนเพิ่มขึ้น 20.2% เพื่อมุ่งหวังให้เกิดผลทางเศรษฐกิจ และเชิงบวกต่อการขับเคลื่อนเชิงนโยบาย และมุ่งเน้นพัฒนาสร้างรากฐานที่สำคัญต่อการพัฒนาประเทศ เนื่องจากการตัวเลขการส่งออกของไทยยังมีความเสี่ยงจากค่าเงินบาทที่แข็งค่า ภาคครัวเรือนมีภาระหนี้มาก และภาคการลงทุนภาคเอกชนที่ยังทรงตัวอยู่ ดังนั้น การจัดสรรงบประมาณขาดดุลเช่นนี้ถือว่าค่อนข้างตอบโจทย์การกระตุ้นเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี" นายมนตรี กล่าว

ทั้งนี้ การกู้เงินชดเชยดังกล่าวอาจสร้างความกังวลต่อความยั่งยืนทางการคลังของประเทศอยู่บ้าง แต่หากพิจารณาสัดส่วนหนี้สาธารณะคงค้างต่อ GDP อยู่ที่ 42.6% ยังต่ำกว่ากรอบความยั่งยืนทางการคลังที่กำหนดไม่เกิน 60% ทำให้การกู้เงินดังกล่าวไม่น่ากังวลเท่าใดนัก หากเม็ดเงินกู้ดังกล่าวถูกใช้จ่ายไปเพื่อการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และโครงการเพื่อสนับสนุนการเชื่อมต่อความร่วมมือ AEC ตลอดจนการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ EEC ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศได้ในระยะยาว

นายมนตรี กล่าวว่า หากพิจารณาการจัดสรรงบประมาณตามยุทธศาสตร์จะพบว่า ภาครัฐมุ่งเน้นใช้จ่ายเงินเพื่อพัฒนา และเสริมสร้างศักยภาพคน โดยมีการใช้จ่ายเงินงบประมาณสูงที่สุด หรือเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 151.2% เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษา และการเรียนรู้ตลอดชีวิต หวังแก้ปัญหาความยากจน และสร้างความมั่งคั่ง และช่วยขับเคลื่อน Thailand 4.0

รองลงมา ได้แก่ ยุทธศาสตร์การปรับสมดุล และพัฒนาระบบบริหารการจัดการภาครัฐเพิ่มขึ้นถึง 131.4% เพื่อปฏิรูประบบราชการให้มีประสิทธิภาพ อันเป็นรากฐานในการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ โดยกระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงมหาดไทย เป็นกระทรวงที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณสูงสุด คิดเป็นสัดส่วน 17.6% และ 12.3% ของวงเงินงบประมาณตามลำดับ ขณะที่การจัดสรรงบกลางที่ไม่ระบุวัตถุประสงค์ในการใช้งานได้งบลดลง 2.9% แต่ก็เป็นการจัดสรรงบประมาณมากที่สุดมากเป็นอันดับ 2 รองจากกระทรวงศึกษาธิการ โดยมีสัดส่วนอยู่ที่ 13.6% ของงบประมาณทั้งหมด
กำลังโหลดความคิดเห็น