อธิบดีกรมศุลกากร ยอมรับปี 2560 จัดเก็บรายได้ต่ำกว่าเป้า 13,000 ล้านบาท เปิดโครงการพันธมิตรศุลกากรเพิ่มช่องทางการสื่อสารกับเอกชน
นายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวภายหลังเป็นประธานการเปิดโครงการพันธมิตรศุลกากร ว่า การจัดเก็บรายได้จากภาษีศุลกากรในช่วง 8 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2560 ต่ำกว่าหมายที่ตั้งไว้ 10,000 ล้านบาท เนื่องจากผลจากการปรับโครงสร้างภาษีทำให้รายได้ลดลงไป 4,000 ล้านบาท และการใช้สิทธิพิเศษจากการเปิดเสรีการค้า หรือ เอฟทีเอ ทำให้รายได้ลดลงอีก 4,000 ล้านบาท และ ผู้ประกอบการนำรถยนต์ไปประกอบที่ประเทศอื่น และ นำกลับเข้าไทย โดยใช้เอกสารฟอร์มดี ภายใต้สิทธิประโยชน์การนำเข้าของกลุ่มอาเซียน ทำให้กรมฯเสียรายได้ไปอีก 2,000 ล้านบาท ซึ่งกรมฯยอมรับว่าการจัดเก็บรายได้ปีงบประมาณ 2560 พลาดเป้าไป 13,000 ล้านบาท แต่กรมฯจะปรับแนวทางเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษี เข้มงวดการใช้สิทธิพิเศษให้ถูกต้องมากขึ้น และปราบปรามผู้ฉวยโอกาสสำแดงราคาเท็จ เพื่อให้การจัดเก็บรายได้ของกรมฯในปีนี้ได้ไม่ต่ำกว่า 100,000 ล้านบาท แม้จะพลาดเป้าที่ตั้งไว้ 120,500 ล้านบาท ก็ตาม
นายกุลิศ กล่าวว่า กรมฯได้เปิดตัวโครงการพันธมิตรศุลกากร เพื่อเพิ่มช่องทางการการสื่อสารกับภาคเอกชนและผู้ประกอบการในการให้คำแนะนำ และประสานงาน ทั้งพิธีการศุลกากร ราคา การสำแดงถิ่นกำเนิด สิทธิประโยชน์ต่างๆ และ กฎหมายศุลกากร ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ศุลกากรจากส่วนกลาง ประสานงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ในท้องถิ่น เพื่อแก้ปัญหาและให้คำปรึกษาได้อย่างรวดเร็ว ลดค่าใช้จ่าย และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานด้านศุลกากรให้โปร่งใส และเป็นธรรม ซึ่งในระยะแรก จะเริ่มนำร่องใน 8 กลุ่มสินค้าที่มีการนำเข้า และส่งออกมากที่สุด ได้แก่ สินค้าเกษตร, สินค้าเภสัชกรรม, พลาสติก, สินค้าเหล็กและผลิตภัณฑ์จากเหล็ก ,เครื่องจักร, สินค้าไอที และยานพาหนะ และวันนี้ได้มีการมอบใบรับรองการเป็นสมาชิกพันธมิตรศุลกากรให้แก่บริษัทที่ร่วมลงทะเบียนเป็นสมาชิกจำนวน 325 บริษัท