วินท์คอม เทคโนโลยี ปลื้มบริษัทลูกในพม่า ชนะการประมูลงานโอนย้ายระบบของ “KBZ BANK” ธนาคารพาณิชย์เอกชนระดับชั้นนำของพม่า มูลค่า 200 ล้านบาท เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจธนาคารในอีก 3 ปีข้างหน้า ด้านผู้บริหาร “ทรงศรี ศรีรุ่งเรืองจิต” เผยเตรียมความพร้อมยื่นไฟลิ่ง สำนักงาน ก.ล.ต. ภายในไตรมาส 3/2560 นี้ หวังระดมทุนขยายธุรกิจกลุ่มประเทศ CLM หนุนผลงานทั้งปีรายได้แตะ 2,000 ล้านบาท
นางทรงศรี ศรีรุ่งเรืองจิต กรรมการผู้จัดการบริษัท วินท์คอม เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ VINTCOM เปิดเผยว่า บริษัท วินท์คอม เทคโนโลยี (เมียนม่า) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย โดย บริษัท วินท์คอม เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) ถือหุ้น 100% ได้ชนะการประมูลงานของ KBZ BANK ซึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์เอกชนที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง (Private Commercial Bank) ของประเทศพม่า เป็นผู้ดำเนินการในโครงการ “Core Banking and Internet Banking System Hardware and Software Upgrade and Migration” ซึ่งมีมูลค่าไทยราวกว่า 200 ล้านบาท
ทั้งนี้ การประมูลงานดังกล่าวบริษัทฯ ได้นำเสนอ Product ของ Oracle ทั้ง Suite ซึ่งได้แก่ Hardware, Software, Cloud Solution รวมถึงการอบรมผู้ใช้งาน SuperCluster Zero Data Loss Recovery Appliance และ Web Logic เป็นต้น โดยลักษณะของโครงการ คือ การโอนย้ายระบบ Core banking และ Internet banking มาสู่ระบบใหม่ที่ล้ำสมัย และมีประสิทธิภาพ การประมวลผลที่ทรงพลังเพื่อรองรับปริมาณงานที่เพิ่มขึ้น ตามการเจริญเติบโต และรองรับการขยายตัวของธนาคารไม่น้อยกว่า 3 ปีข้างหน้า ทั้งศูนย์คอมพิวเตอร์หลัก (DC) และศูนย์สำรอง (DR) ของธนาคารเอง
“การประมูลงานในครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของบริษัท วินท์คอม เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) ที่มีการขยายฐานไปประเทศ CLM ตั้งแต่ปลายปี 2559 โครงการนี้ถือเป็นการประกาศศักยภาพในการเติบโตของบริษัทฯ ในต่างประเทศ และจะมีแผนเติบโตอย่างต่อเนื่องในประเทศเพื่อนบ้านอีกด้วย” นางทรงศรี กล่าว
บริษัทฯ เชื่อว่า ผลการดำเนินงานในปีนี้จะมีการเติบโตอย่างโดดเด่น โดยตั้งเป้ารายได้ทั้งปีแตะระดับ 2,000 ล้านบาท โดยเป็นสัดส่วนรายได้ 65% มาจากรายได้การดำเนินธุรกิจตัวแทนการจำหน่าย และอีก 35% จะมาจากการให้บริการหลังการขายด้านไอซีทีแบบครบวงจร
นอกจากนี้ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วินท์คอม เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงความคืบหน้าการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ว่า บริษัทฯ จะสามารถทำการยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนเป็นครั้งแรกต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) มีแผนที่จะยื่นคำขอให้รับหุ้นสามัญของบริษัทเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เพื่อขอเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ อย่างเร็วสุด คาดว่าไตรมาส 3/2560 นี้ โดยมี บริษัท แอดไวเซอรี่ พลัส จำกัด เป็นบริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน
สำหรับเม็ดเงินระดมทุนในครั้งนี้ บริษัทฯ จะนำไปขยายการลงทุนในกลุ่มประเทศกัมพูชา ลาว และพม่า หรือ CLM หลังจากได้รับการแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนการจำหน่ายสินค้า Palo Alto Networks อย่างเป็นทางการ และตั้งเป้ายอดขายจากกลุ่มประเทศดังกล่าวทั้งปีประมาณ 270 ล้านบาท