หุ้นเพิ่มทุนของ บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOK จำนวน 1,135,999,882 หุ้นเริ่มซื้อขายวันที่ 2 มิถุนายน 2560
อนึ่ง มีการนำเสนอข่าวเมื่อวันที่ 5 มิ.ย.60 ว่า คณะกรรมการบริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOK จะพิจารณาการเพิ่มทุนใหม่รอบ 2 ในวันที่ 15 มิ.ย.นี้ หลังจากการเพิ่มทุนรอบแรกที่ขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม (RO) จำหน่ายไม่หมด โดยการเพิ่มทุนใหม่รอบนี้ จะเสนอขายหุ้นให้แก่นักลงทุนเฉพาะเจาะจง (PP) แต่จะเพิ่มทุนจำนวนเท่าไรต้องรอผลการประชุม
คณะกรรมการ NOK ได้มีมติเมื่อ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา อนุมัติเพิ่มทุนจดทะเบียน จำนวน 781.25 ล้านบาท จากทุนจดทะเบียนเดิม จำนวน 625 ล้านบาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่เป็น 1,406.25 ล้านบาท โดยออกหุ้นสามัญใหม่ จำนวน 781.25 ล้านหุ้น จัดสรรให้กับผู้ถือหุ้นเดิม จำนวน 625 ล้านหุ้น ในอัตรา 1 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ราคาเสนอขายหุ้นละ 2.40 บาท และอีก จำนวน 156.25 ล้านหุ้น รองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิ ครั้งที่ 1 (NOK-W1) ที่ออกให้ฟรีแก่ผู้ถือหุ้นเดิมที่จองซื้อหุ้นเพิ่มทุน
แต่ บมจ.การบินไทย ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ 39% ไม่ใช้สิทธิเพิ่มทุน ทำให้สัดส่วนการถือหุ้นลดลงเหลือ 21.57% ขณะเดียวกัน กลุ่มจุฬางกูร เข้าถือหุ้นใหญ่แทน 28.90%
ในเวลาต่อมา NOK แจ้งว่า สามารถขายหุ้นเพิ่มทุนดังกล่าวได้ 511 ล้านหุ้น และยังเหลือหุ้นที่ไม่สามารถจำหน่ายได้ จำนวน 114,000,118 หุ้น
อนึ่ง มีการนำเสนอข่าวเมื่อวันที่ 5 มิ.ย.60 ว่า คณะกรรมการบริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOK จะพิจารณาการเพิ่มทุนใหม่รอบ 2 ในวันที่ 15 มิ.ย.นี้ หลังจากการเพิ่มทุนรอบแรกที่ขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม (RO) จำหน่ายไม่หมด โดยการเพิ่มทุนใหม่รอบนี้ จะเสนอขายหุ้นให้แก่นักลงทุนเฉพาะเจาะจง (PP) แต่จะเพิ่มทุนจำนวนเท่าไรต้องรอผลการประชุม
คณะกรรมการ NOK ได้มีมติเมื่อ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา อนุมัติเพิ่มทุนจดทะเบียน จำนวน 781.25 ล้านบาท จากทุนจดทะเบียนเดิม จำนวน 625 ล้านบาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่เป็น 1,406.25 ล้านบาท โดยออกหุ้นสามัญใหม่ จำนวน 781.25 ล้านหุ้น จัดสรรให้กับผู้ถือหุ้นเดิม จำนวน 625 ล้านหุ้น ในอัตรา 1 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ราคาเสนอขายหุ้นละ 2.40 บาท และอีก จำนวน 156.25 ล้านหุ้น รองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิ ครั้งที่ 1 (NOK-W1) ที่ออกให้ฟรีแก่ผู้ถือหุ้นเดิมที่จองซื้อหุ้นเพิ่มทุน
แต่ บมจ.การบินไทย ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ 39% ไม่ใช้สิทธิเพิ่มทุน ทำให้สัดส่วนการถือหุ้นลดลงเหลือ 21.57% ขณะเดียวกัน กลุ่มจุฬางกูร เข้าถือหุ้นใหญ่แทน 28.90%
ในเวลาต่อมา NOK แจ้งว่า สามารถขายหุ้นเพิ่มทุนดังกล่าวได้ 511 ล้านหุ้น และยังเหลือหุ้นที่ไม่สามารถจำหน่ายได้ จำนวน 114,000,118 หุ้น