ตามที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. ได้แจ้งให้ บริษัท นิวส์ เน็ตเวิร์ค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ NEWS ชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมนั้น บริษัทของเรียนชี้แจงดังนี้
1.การที่บริษัทฯ ปรับเปลี่ยนมูลค่าที่ตราไว้ (Par Value) จาก 5 บาทมาเป็น 1 บาท เพื่อให้หุ้นสามัญของบริษัทมีมูลค่าที่ตราไว้ใกล้เคียงกับมูลค่าที่ตราไว้ของหุ้นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai เพื่อความสะดวกในการเปรียบเทียบมูลค่าของนักลงทุน อีกทั้ง เพื่อเป็นการเพิ่มสภาพคล่องให้กับหุ้นของบริษัท ซึ่งที่ผ่านมา นับตั้งแต่ปี 2558 ซึ่งบริษัทมีการเปลี่ยนมูลค่าที่ตราไว้จากหุ้นละ 1 บาทเป็นหุ้นละ 5 บาทนั้น สภาพคล่องของหุ้นสามัญของบริษัทมีแนวโน้มลดลงอย่างเห็นได้ชัด
ดังนั้น การปรับลดมูลค่าที่ตราไว้ (แตกพาร์) จะช่วยให้สามารถกระจายหุ้นให้กับนักลงทุนรายย่อยได้มากขึ้น ส่งผลให้หุ้นสามัญของบริษัทมีสภาพคล่องที่ดีมากขึ้น
ด้วยเหตุผลดังกล่าว คณะกรรมการบริษัทฯ จึงเห็นว่า การปรับเปลี่ยนมูลค่าที่ตราไว้ (Par Value) จะเป็นประโยชน์โดยรวมต่อทั้งบริษัทฯ และผู้ถือหุ้น กอปรกับการเปลี่ยนแปลงมูลค่าที่ตราไว้ดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ รวมถึงไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ถือหุ้นทั้งในแง่ของ Price Dilution และ Control Dilution แต่อย่างใด
2.รายละเอียด และแผนการเพิ่มทุนที่ชัดเจน
บริษัทฯ ขอเรียนชี้แจงว่า จากการประมาณการผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปัจจุบันพบว่า บริษัทฯ ยังประสบผลขาดทุนจากการดำเนินงาน โดยมีสาเหตุมาจากการดำเนินงานในธุรกิจโทรทัศน์ในระบบดิจิตอลที่กำลังมีปัญหาการดำเนินงานทั้งอุตสาหกรรม และจากความล่าช้าในการดำเนินการต่างๆ ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงประสบปัญหาอื่นๆ ในช่วงเวลาเปลี่ยนถ่ายระบบออกอากาศจากระบบอนาล็อกเป็นระบบดิจิตอล ไม่ว่าจะเป็นการประชาสัมพันธ์การรับรู้ของประชาชนในโทรทัศน์ระบบดิจิตอล การพิจารณายกเลิกระบบอนาล็อก ซึ่งต้องใช้เวลาอีกอย่างน้อย 3 ปี การแจกกล่องโทรทัศน์ระบบดิจิตอลที่ยังไม่สามารถดำเนินการได้อย่างทั่วถึง รวมถึงการเร่งรัดผู้ลงทุนโครงข่ายที่ยังล่าช้ากว่าประมาณการ
ส่งผลให้ค่าโฆษณาที่เป็นรายได้สำคัญที่สุดของอุตสาหกรรมนี้ไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ อย่างไรก็ตาม จากการหารือกับหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง และจากแนวทางที่หน่วยงานรัฐดำเนินการแก้ไข รวมถึงให้ความช่วยเหลือในหลายๆ ด้าน เช่น การสนับสนุนค่าโครงข่าย การปรับการคำนวณค่าธรรมเนียมใบอนุญาตรายปี เชื่อว่าตั้งแต่ปี 2561 มาตรการดังกล่าวจะทำให้ผู้ประกอบการหลายรายมีผลประกอบการที่ดีขึ้น และสามารถคุ้มทุนได้ภายใน 5 ปี
ดังนั้น เพื่อให้บริษัทฯ ยังคงสามารถดำเนินงานในธุรกิจทีวีดิจิตอลในช่วงเปลี่ยนผ่านระบบออกอากาศได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงเพื่อเป็นการบรรเทาผลกระทบที่เกิดจากการขาดทุนอันเป็นผลมาจากธุรกิจทีวีดิจิตอล คณะกรรมการบริษัทฯ จึงมีความเห็นว่า บริษัทจึงจำเป็นต้องมีการการเพิ่มทุนของบริษัทเพื่อนำมาใช้คืนภาระหนี้ข้างต้น และเพื่อลดต้นทุนทางการเงินในการดำเนินงานของบริษัท ซึ่งหากบริษัทไม่สามารถเสนอขายหุ้นให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (Rights Offering) และ/หรือผู้ถือหุ้นเดิมไม่ใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่ได้ออก และเสนอขายครบทั้งจำนวนได้ บริษัทก็จะพิจารณาจัดสรรเงินทุนที่ได้รับให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ตามที่กำหนดตามความจำเป็น และสมควรตามความเหมาะสมภายใต้กรอบ เพื่อประโยชน์สูงสุดของบริษัท
ในระหว่างการจัดหาแหล่งเงินทุนให้เพียงพอ นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการจัดหาแหล่งเงินอื่นมาเสริมสภาพคล่องในระหว่างรอการเพิ่มทุน ซึ่งคาดว่าจะมีภาระหนี้เพิ่มขึ้นประมาณ 100 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท และบริษัทในเครือ ส่วนที่เหลือ คือ ส่วนที่คาดว่า จะจ่ายเป็นผลตอบแทนให้แก่นักลงทุนในรูปของดอกเบี้ย จำนวนไม่เกิน 34 ล้านบาท และหากไม่ได้ใช้ บริษัทจะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของกลุ่มบริษัทต่อไป
เมื่อใช้คืนหนี้ดังกล่าวแล้ว บริษัทจะมีจำนวนเงินส่วนที่เหลือประมาณ 1,244 ล้านบาท บริษัทสำรองเงินไว้ใช้เป็นเงินทุนการใช้เงินทุนหมุนเวียน และการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง และสามารถเสริมสร้างศักยภาพการทำงานของกลุ่มบริษัทในระยะยาว
สำหรับในรอบ 36 เดือนถัดจากนี้ กลุ่มบริษัท คาดว่า จะมีการใช้เงินทุนในการดำเนินงานทั้งเงินทุนหมุนเวียน ประมาณ 1,060 ล้านบาท โดยมีรายละเอียดดังนี้ ธุรกิจโทรทัศน์ระบบดิจิตอล-สปริงนิวส์ การใช้เงินทุนดำเนินงานดังกล่าวจะอยู่ในระดับเดียวกับปีก่อน และคาดว่าจะดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในปีต่อๆ ไป เนื่องจากการปรับโครงสร้างธุรกิจ โครงสร้างองค์กร และโครงสร้างผลตอบแทน โดยในธุรกิจโทรทัศน์ระบบดิจิตอล จะมีค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่เป็นค่าใช้จ่ายคงที่ และการซื้อ Content ทั้งใน และต่างประเทศ รวมถึงธุรกิจสื่อเมื่อปี 2559 สปริงนิวส์ได้เข้าทำสัญญาเป็นพันธมิตรกับสถานีข่าว CNN ซึ่งเป็นสถานีข่าวอันดับหนึ่งของโลก เพื่อเป็นการยกระดับมาตรฐานของช่องสปริงนิวส์ ทั้งในแง่การบริหาร การทำข่าว และการพัฒนาบุคลากรเพื่อตอบรับ และตอบสนองกลุ่มเป้าหมายหลัก ดังนั้น จึงมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากสัญญาดังกล่าว รวมถึงค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงสถานี และเทคโนโลยีเพื่อให้แข่งขันกับผู้ประกอบการรายอื่นได้
ธุรกิจวิทยุ-สปริงเรดิโอ สามารถสร้างชื่อเสียงเป็นที่รู้จักของกลุ่มผู้ฟังในระยะเวลาเพียง 1 ปี ซึ่งแม้ว่ามีค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่จะเป็นค่าใช้จ่ายคงที่ เช่น ค่าเช่าสถานี ค่าเช่าสถานที่ ค่าพนักงาน และค่าจัดรายการก็ตาม แต่ก็มีการปรับเพิ่มอัตราค่าใช้จ่าย อาทิ ค่าสัญญากับสำนักงาน คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ค่าใช้จ่ายปรับปรุงห้องออกอากาศในแต่ละปีค่อนข้างสูง ดังนั้น จึงจำเป็นต้องใช้เงินทุนหมุนเวียน
ธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์-หนังสือพิมพ์ ฐานเศรษฐกิจ เนื่องจากการดำเนินงานช่วงปีแรกยังมีภาระค่าสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิ และดำเนินงานในระยะเริ่มแรก ซึ่งเงินทุนหมุนเวียนส่วนใหญ่จะนำไปใช้ในการดำเนินงาน เช่น ค่าจัดพิมพ์หนังสือพิมพ์ ค่าจัดส่งหนังสือพิมพ์ ค่าเช่าสำนักงาน
ธุรกิจ News Media แม้ว่าแนวโน้มรายได้ของธุรกิจ News Media มีแนวโน้มดีขี้น แต่เนื่องจากธุรกิจนี้มีการแข่งขันสูง และกลุ่มลูกค้า มีการเปลี่ยนแปลงความต้องการตลอดเวลา ดังนั้น จึงจำเป็นต้องใช้เงินทุนหมุนเวียนมีการปรับปรุงพัฒนาเทคโนโลยี และการตลาดให้ทันสมัย และตอบสนองความต้องการของลูกค้า
ธุรกิจด้านคอมพิวเตอร์ งานด้านสิ่งแวดล้อม และชีวอนามัย จะต้องเป็นงานที่ต้องมีการลงทุนในเครื่องคอมพิวเตอร์ โปรแกรมอุปกรณ์ด้านชีวอนามัย และรายงานผลในมูลค่าที่สูงไปก่อน และจะได้รับการผ่อนชำระในภายหลัง ทั้งนี้ แนวโน้มการดำเนินธุรกิจของบริษัท และบริษัทในเครือภายใต้ปัจจัยที่มีอยู่ในปัจจุบันนับแต่นี้ต่อไป น่าจะอยู่ในช่วงที่ดีขึ้นกว่าปีก่อน ดังจะเห็นได้จากผลประกอบการในปี 2559 ของบริษัทมีผลขาดทุนจากการดำเนินงานลดลงจากปีก่อนๆ
ทั้งนี้ บริษัทจะสำรองเงินไว้ จำนวน 184 ล้านบาท เพื่อลงทุนขยายธุรกิจแต่ละส่วนงาน เพื่อที่จะสามารถขยายฐานรายได้ของกลุ่มบริษัทออกไปได้อย่างกว้างขวาง และครอบคลุมลูกค้าเป้าหมาย โดยเฉพาะเป็นการเสริมความแข็งแกร่งในด้านรายได้ และการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทฯ ได้อย่างมั่นคงในอนาคต อาทิ การลงทุนในธุรกิจสื่อกลางแจ้งระบบดิจิตอล หรือในส่วนธุรกิจชีวอนามัยมีแผนการลงทุนเพื่อขยายธุรกิจให้เป็นที่ปรึกษาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อมครบวงจร เพื่อรองรับการเปิดเขตประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ซึ่งบริษัทอาจพิจารณาลงทุนในหลายรูปแบบทั้งการดำเนินงานเอง หรือร่วมทุนกับผู้ที่มีความชำนาญเฉพาะด้าน ตลอดจนโครงการใหม่ๆ ที่เป็นสื่อหรือธุรกิจต่อเนื่อง หรือเสริมศักยภาพสามารถต่อยอดรายได้ให้กับกลุ่มบริษัทได้เป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตาม โครงการดังกล่าวกำลังอยู่ระหว่างการศึกษาในรายละเอียด และเป็นไปได้ของประมาณการทางการเงินในระยะยาว ซึ่งยังคงมีความเสี่ยงที่สำคัญที่เกิดจากสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน อาจทำให้อัตราการใช้กำลังการผลิตไม่ได้ตามที่ประมาณการไว้ อันจะส่งผลโดยตรงต่อผลตอบแทนจากการลงทุน (IRR) โดยหลังจากการศึกษาในรายละเอียดแล้วเสร็จ ก็จะต้องมีการเจรจาต่อรองในขั้นสุดท้าย และนำเสนอต่อคณะกรรมการพิจารณาการลงทุน คณะกรรมการบริษัท เพื่อพิจารณารวมทั้งแจ้ง และ/หรือขออนุมัติจากผู้ถือหุ้นแล้วแต่กรณีต่อไป
หากการศึกษารายละเอียดดังกล่าว พบสิ่งที่เป็นสาระสำคัญต่อการพิจารณาการเข้าลงทุน หรือมูลค่าลงทุนอาจสูงเกินไปจนกระทบต่ออัตราผลตอบแทนจากการลงทุนที่บริษัทฯ ได้ตั้งเอาไว้ (ร้อยละ 12) ก็จะชะลอการพิจารณาเอาไว้ก่อน และแสวงหาโครงการอื่นที่ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่ามาทดแทน โดยบริษัทจะพิจารณาการลงทุน และความเสี่ยงในการเข้าลงทุนแต่ละโครงการอย่างรอบคอบ และดำเนินการตามกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด
เงินที่ได้รับจากการเพิ่มทุนจะทำให้บริษัทมีฐานะทางการเงินที่มั่นคงขึ้น และสามารถขยายการดำเนินธุรกิจได้ครอบคลุมตามนโยบายของบริษัทได้มากขึ้น จะเป็นการลงทุนที่สามารถสร้างผลกำไรจากการดำเนินการอันจะส่งผลดีต่อมูลค่าหุ้นของบริษัทในอนาคต ทั้งนี้ หากการลงทุนไม่เป็นไปตามคาดการณ์ บริษัทจะนำเงินดังกล่าวไปเสริมในส่วนเงินทุนหมุนเวียนต่อไป โดยการลงทุนดังกล่าวไม่น่าจะมีผลกระทบต่อผลกำไรของบริษัทลดลงแต่อย่างใด เนื่องจากเป็นการลงทุนที่หวังผลในระยะยาว และไม่มีนัยสำคัญ
1.การที่บริษัทฯ ปรับเปลี่ยนมูลค่าที่ตราไว้ (Par Value) จาก 5 บาทมาเป็น 1 บาท เพื่อให้หุ้นสามัญของบริษัทมีมูลค่าที่ตราไว้ใกล้เคียงกับมูลค่าที่ตราไว้ของหุ้นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai เพื่อความสะดวกในการเปรียบเทียบมูลค่าของนักลงทุน อีกทั้ง เพื่อเป็นการเพิ่มสภาพคล่องให้กับหุ้นของบริษัท ซึ่งที่ผ่านมา นับตั้งแต่ปี 2558 ซึ่งบริษัทมีการเปลี่ยนมูลค่าที่ตราไว้จากหุ้นละ 1 บาทเป็นหุ้นละ 5 บาทนั้น สภาพคล่องของหุ้นสามัญของบริษัทมีแนวโน้มลดลงอย่างเห็นได้ชัด
ดังนั้น การปรับลดมูลค่าที่ตราไว้ (แตกพาร์) จะช่วยให้สามารถกระจายหุ้นให้กับนักลงทุนรายย่อยได้มากขึ้น ส่งผลให้หุ้นสามัญของบริษัทมีสภาพคล่องที่ดีมากขึ้น
ด้วยเหตุผลดังกล่าว คณะกรรมการบริษัทฯ จึงเห็นว่า การปรับเปลี่ยนมูลค่าที่ตราไว้ (Par Value) จะเป็นประโยชน์โดยรวมต่อทั้งบริษัทฯ และผู้ถือหุ้น กอปรกับการเปลี่ยนแปลงมูลค่าที่ตราไว้ดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ รวมถึงไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ถือหุ้นทั้งในแง่ของ Price Dilution และ Control Dilution แต่อย่างใด
2.รายละเอียด และแผนการเพิ่มทุนที่ชัดเจน
บริษัทฯ ขอเรียนชี้แจงว่า จากการประมาณการผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปัจจุบันพบว่า บริษัทฯ ยังประสบผลขาดทุนจากการดำเนินงาน โดยมีสาเหตุมาจากการดำเนินงานในธุรกิจโทรทัศน์ในระบบดิจิตอลที่กำลังมีปัญหาการดำเนินงานทั้งอุตสาหกรรม และจากความล่าช้าในการดำเนินการต่างๆ ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงประสบปัญหาอื่นๆ ในช่วงเวลาเปลี่ยนถ่ายระบบออกอากาศจากระบบอนาล็อกเป็นระบบดิจิตอล ไม่ว่าจะเป็นการประชาสัมพันธ์การรับรู้ของประชาชนในโทรทัศน์ระบบดิจิตอล การพิจารณายกเลิกระบบอนาล็อก ซึ่งต้องใช้เวลาอีกอย่างน้อย 3 ปี การแจกกล่องโทรทัศน์ระบบดิจิตอลที่ยังไม่สามารถดำเนินการได้อย่างทั่วถึง รวมถึงการเร่งรัดผู้ลงทุนโครงข่ายที่ยังล่าช้ากว่าประมาณการ
ส่งผลให้ค่าโฆษณาที่เป็นรายได้สำคัญที่สุดของอุตสาหกรรมนี้ไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ อย่างไรก็ตาม จากการหารือกับหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง และจากแนวทางที่หน่วยงานรัฐดำเนินการแก้ไข รวมถึงให้ความช่วยเหลือในหลายๆ ด้าน เช่น การสนับสนุนค่าโครงข่าย การปรับการคำนวณค่าธรรมเนียมใบอนุญาตรายปี เชื่อว่าตั้งแต่ปี 2561 มาตรการดังกล่าวจะทำให้ผู้ประกอบการหลายรายมีผลประกอบการที่ดีขึ้น และสามารถคุ้มทุนได้ภายใน 5 ปี
ดังนั้น เพื่อให้บริษัทฯ ยังคงสามารถดำเนินงานในธุรกิจทีวีดิจิตอลในช่วงเปลี่ยนผ่านระบบออกอากาศได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงเพื่อเป็นการบรรเทาผลกระทบที่เกิดจากการขาดทุนอันเป็นผลมาจากธุรกิจทีวีดิจิตอล คณะกรรมการบริษัทฯ จึงมีความเห็นว่า บริษัทจึงจำเป็นต้องมีการการเพิ่มทุนของบริษัทเพื่อนำมาใช้คืนภาระหนี้ข้างต้น และเพื่อลดต้นทุนทางการเงินในการดำเนินงานของบริษัท ซึ่งหากบริษัทไม่สามารถเสนอขายหุ้นให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (Rights Offering) และ/หรือผู้ถือหุ้นเดิมไม่ใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่ได้ออก และเสนอขายครบทั้งจำนวนได้ บริษัทก็จะพิจารณาจัดสรรเงินทุนที่ได้รับให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ตามที่กำหนดตามความจำเป็น และสมควรตามความเหมาะสมภายใต้กรอบ เพื่อประโยชน์สูงสุดของบริษัท
ในระหว่างการจัดหาแหล่งเงินทุนให้เพียงพอ นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการจัดหาแหล่งเงินอื่นมาเสริมสภาพคล่องในระหว่างรอการเพิ่มทุน ซึ่งคาดว่าจะมีภาระหนี้เพิ่มขึ้นประมาณ 100 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท และบริษัทในเครือ ส่วนที่เหลือ คือ ส่วนที่คาดว่า จะจ่ายเป็นผลตอบแทนให้แก่นักลงทุนในรูปของดอกเบี้ย จำนวนไม่เกิน 34 ล้านบาท และหากไม่ได้ใช้ บริษัทจะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของกลุ่มบริษัทต่อไป
เมื่อใช้คืนหนี้ดังกล่าวแล้ว บริษัทจะมีจำนวนเงินส่วนที่เหลือประมาณ 1,244 ล้านบาท บริษัทสำรองเงินไว้ใช้เป็นเงินทุนการใช้เงินทุนหมุนเวียน และการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง และสามารถเสริมสร้างศักยภาพการทำงานของกลุ่มบริษัทในระยะยาว
สำหรับในรอบ 36 เดือนถัดจากนี้ กลุ่มบริษัท คาดว่า จะมีการใช้เงินทุนในการดำเนินงานทั้งเงินทุนหมุนเวียน ประมาณ 1,060 ล้านบาท โดยมีรายละเอียดดังนี้ ธุรกิจโทรทัศน์ระบบดิจิตอล-สปริงนิวส์ การใช้เงินทุนดำเนินงานดังกล่าวจะอยู่ในระดับเดียวกับปีก่อน และคาดว่าจะดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในปีต่อๆ ไป เนื่องจากการปรับโครงสร้างธุรกิจ โครงสร้างองค์กร และโครงสร้างผลตอบแทน โดยในธุรกิจโทรทัศน์ระบบดิจิตอล จะมีค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่เป็นค่าใช้จ่ายคงที่ และการซื้อ Content ทั้งใน และต่างประเทศ รวมถึงธุรกิจสื่อเมื่อปี 2559 สปริงนิวส์ได้เข้าทำสัญญาเป็นพันธมิตรกับสถานีข่าว CNN ซึ่งเป็นสถานีข่าวอันดับหนึ่งของโลก เพื่อเป็นการยกระดับมาตรฐานของช่องสปริงนิวส์ ทั้งในแง่การบริหาร การทำข่าว และการพัฒนาบุคลากรเพื่อตอบรับ และตอบสนองกลุ่มเป้าหมายหลัก ดังนั้น จึงมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากสัญญาดังกล่าว รวมถึงค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงสถานี และเทคโนโลยีเพื่อให้แข่งขันกับผู้ประกอบการรายอื่นได้
ธุรกิจวิทยุ-สปริงเรดิโอ สามารถสร้างชื่อเสียงเป็นที่รู้จักของกลุ่มผู้ฟังในระยะเวลาเพียง 1 ปี ซึ่งแม้ว่ามีค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่จะเป็นค่าใช้จ่ายคงที่ เช่น ค่าเช่าสถานี ค่าเช่าสถานที่ ค่าพนักงาน และค่าจัดรายการก็ตาม แต่ก็มีการปรับเพิ่มอัตราค่าใช้จ่าย อาทิ ค่าสัญญากับสำนักงาน คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ค่าใช้จ่ายปรับปรุงห้องออกอากาศในแต่ละปีค่อนข้างสูง ดังนั้น จึงจำเป็นต้องใช้เงินทุนหมุนเวียน
ธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์-หนังสือพิมพ์ ฐานเศรษฐกิจ เนื่องจากการดำเนินงานช่วงปีแรกยังมีภาระค่าสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิ และดำเนินงานในระยะเริ่มแรก ซึ่งเงินทุนหมุนเวียนส่วนใหญ่จะนำไปใช้ในการดำเนินงาน เช่น ค่าจัดพิมพ์หนังสือพิมพ์ ค่าจัดส่งหนังสือพิมพ์ ค่าเช่าสำนักงาน
ธุรกิจ News Media แม้ว่าแนวโน้มรายได้ของธุรกิจ News Media มีแนวโน้มดีขี้น แต่เนื่องจากธุรกิจนี้มีการแข่งขันสูง และกลุ่มลูกค้า มีการเปลี่ยนแปลงความต้องการตลอดเวลา ดังนั้น จึงจำเป็นต้องใช้เงินทุนหมุนเวียนมีการปรับปรุงพัฒนาเทคโนโลยี และการตลาดให้ทันสมัย และตอบสนองความต้องการของลูกค้า
ธุรกิจด้านคอมพิวเตอร์ งานด้านสิ่งแวดล้อม และชีวอนามัย จะต้องเป็นงานที่ต้องมีการลงทุนในเครื่องคอมพิวเตอร์ โปรแกรมอุปกรณ์ด้านชีวอนามัย และรายงานผลในมูลค่าที่สูงไปก่อน และจะได้รับการผ่อนชำระในภายหลัง ทั้งนี้ แนวโน้มการดำเนินธุรกิจของบริษัท และบริษัทในเครือภายใต้ปัจจัยที่มีอยู่ในปัจจุบันนับแต่นี้ต่อไป น่าจะอยู่ในช่วงที่ดีขึ้นกว่าปีก่อน ดังจะเห็นได้จากผลประกอบการในปี 2559 ของบริษัทมีผลขาดทุนจากการดำเนินงานลดลงจากปีก่อนๆ
ทั้งนี้ บริษัทจะสำรองเงินไว้ จำนวน 184 ล้านบาท เพื่อลงทุนขยายธุรกิจแต่ละส่วนงาน เพื่อที่จะสามารถขยายฐานรายได้ของกลุ่มบริษัทออกไปได้อย่างกว้างขวาง และครอบคลุมลูกค้าเป้าหมาย โดยเฉพาะเป็นการเสริมความแข็งแกร่งในด้านรายได้ และการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทฯ ได้อย่างมั่นคงในอนาคต อาทิ การลงทุนในธุรกิจสื่อกลางแจ้งระบบดิจิตอล หรือในส่วนธุรกิจชีวอนามัยมีแผนการลงทุนเพื่อขยายธุรกิจให้เป็นที่ปรึกษาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อมครบวงจร เพื่อรองรับการเปิดเขตประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ซึ่งบริษัทอาจพิจารณาลงทุนในหลายรูปแบบทั้งการดำเนินงานเอง หรือร่วมทุนกับผู้ที่มีความชำนาญเฉพาะด้าน ตลอดจนโครงการใหม่ๆ ที่เป็นสื่อหรือธุรกิจต่อเนื่อง หรือเสริมศักยภาพสามารถต่อยอดรายได้ให้กับกลุ่มบริษัทได้เป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตาม โครงการดังกล่าวกำลังอยู่ระหว่างการศึกษาในรายละเอียด และเป็นไปได้ของประมาณการทางการเงินในระยะยาว ซึ่งยังคงมีความเสี่ยงที่สำคัญที่เกิดจากสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน อาจทำให้อัตราการใช้กำลังการผลิตไม่ได้ตามที่ประมาณการไว้ อันจะส่งผลโดยตรงต่อผลตอบแทนจากการลงทุน (IRR) โดยหลังจากการศึกษาในรายละเอียดแล้วเสร็จ ก็จะต้องมีการเจรจาต่อรองในขั้นสุดท้าย และนำเสนอต่อคณะกรรมการพิจารณาการลงทุน คณะกรรมการบริษัท เพื่อพิจารณารวมทั้งแจ้ง และ/หรือขออนุมัติจากผู้ถือหุ้นแล้วแต่กรณีต่อไป
หากการศึกษารายละเอียดดังกล่าว พบสิ่งที่เป็นสาระสำคัญต่อการพิจารณาการเข้าลงทุน หรือมูลค่าลงทุนอาจสูงเกินไปจนกระทบต่ออัตราผลตอบแทนจากการลงทุนที่บริษัทฯ ได้ตั้งเอาไว้ (ร้อยละ 12) ก็จะชะลอการพิจารณาเอาไว้ก่อน และแสวงหาโครงการอื่นที่ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่ามาทดแทน โดยบริษัทจะพิจารณาการลงทุน และความเสี่ยงในการเข้าลงทุนแต่ละโครงการอย่างรอบคอบ และดำเนินการตามกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด
เงินที่ได้รับจากการเพิ่มทุนจะทำให้บริษัทมีฐานะทางการเงินที่มั่นคงขึ้น และสามารถขยายการดำเนินธุรกิจได้ครอบคลุมตามนโยบายของบริษัทได้มากขึ้น จะเป็นการลงทุนที่สามารถสร้างผลกำไรจากการดำเนินการอันจะส่งผลดีต่อมูลค่าหุ้นของบริษัทในอนาคต ทั้งนี้ หากการลงทุนไม่เป็นไปตามคาดการณ์ บริษัทจะนำเงินดังกล่าวไปเสริมในส่วนเงินทุนหมุนเวียนต่อไป โดยการลงทุนดังกล่าวไม่น่าจะมีผลกระทบต่อผลกำไรของบริษัทลดลงแต่อย่างใด เนื่องจากเป็นการลงทุนที่หวังผลในระยะยาว และไม่มีนัยสำคัญ
