ภาพรวมราคาทองคำปี 2560 คาดเคลื่อนไหวคล้ายปีที่ผ่านมา จากแรงกดดันของนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่ ที่ผลักดันให้ดอลลาร์แข็งตัว แนะเก็งกำไรระยะสั้นสร้างโอกาสจากการแกว่งตัวของราคา ประเมินหากราคาทะลุ 1,260 เหรียญ/ออนซ์ มีโอกาสเข้าทดสอบ 1,375 เหรียญ/ออนซ์
“วรุต รุ่งขำ” ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส กล่าวถึงทิศทางราคาทองคำว่า ในปีที่ผ่านมา ราคาทองคำมีการแกว่งตัวสูง หรือค่อนข้างมาก โดยเปิดต้นปีที่บริเวณ 1,060 เหรียญ/ออนซ์ ถือเป็นระดับต่ำสุดของปี ต่อมา ราคาทองคำมีการทะยานขึ้น โดยเฉพาะในช่วงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยปรับตัวสร้างสถิติสูงสุดที่ 1,374 เหรียญ/สหรัฐ
“ตลอดปีราคาทองคำมีการทะยานขึ้น 314.67 เหรียญ/ออนซ์ หรือ 27.13% ถือว่าการแกว่งตัวจากระดับสูงสุดและต่ำสุด มีความผันผวนค่อนข้างสูง อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำเริ่มอ่อนตัวลงอย่างชัดเจนเมื่อการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีผลออกมาว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลืองตั้ง แต่มีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างแข็งกร้าว ทำให้ราคารทองคำปรับตัวลดลงเหลือปรับตัวเพิ่มขึ้นจากต้นปี 9% หรือเพิ่มขึ้น 90 กว่าเหรียญ/ออนซ์”
โดยปัจจัยที่นักลงทุนต้องติดตามจากนี้ มองไปที่การถูกกดดันอย่างต่อเนื่อง เมื่อธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ถึง 3 ครั้ง อาจจะต้องดูกันอีกครั้งว่าเศรษฐกิจในสหรัฐฯ จะแข็งแกร่งมากพอที่จะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ 3 ครั้งจริงหรือไม่ หากมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าสัญญาณที่ให้เอาไว้ หรือว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ ไม่สามารถปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ตามเป้าหมายที่เคยตั้งเอาไว้ ปัจจัยดังกล่าวอาจจะกลับเข้ามาหนุนให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นในปี 2560 ได้อีกครั้ง ทั้งนี้ อาจจะยังคงต้องจับตาดูทิศทางของเงินดอลลาร์สหรัฐ รวมถึงการเข้ามารับตำแหน่งประธานาธิปดีคนใหม่ นายโดนัลด์ ทรัมป์
เพราะหากทำตามที่ได้ส่งสัญญาณไว้ว่าจะกระตุ้นทิศทางเศรษฐกิจในฝั่งสหรัฐฯ ให้มีทิศทางการเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง สถานการณ์ดังกล่าวอาจกลับมากระตุ้นให้ดอลลาร์สหรัฐมีการแข็งค่ามากขึ้น และกลับมากดดันทองคำ
อย่างไรก็ตาม หากทำไม่ได้อย่างที่ได้ส่งสัญญาณเอาไว้ รวมถึงสถานการณ์เศรษฐกิจในฝั่งสหรัฐฯ หากได้รับผลกระทบการค้าจากการที่มีการกีดกัน ก็อาจเป็นปัจจัยอีกส่วนหนึ่งเข้ามาสนับสนุนการปรับตัวของราคาทองคำ
นอกจากนี้ ต้องติดตามสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ กับรัสเซีย และผลกระทบจากการถอนตัวออกจากกลุ่มสหภาพยุโรปของอังกฤษ ถือเป็นอีกปัจจัยที่ยังคงต้องจับตา หากสถานการณ์ดังกล่าวไม่เป็นผลบวกต่อเศรษฐกิจ และสร้างความผันผวนต่อตลาดเงินตลาดทุนอีกครั้ง ก็อาจเป็นปัจจัยให้ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นได้เช่นกัน
สำหรับกลยุทธ์การลงทุนประเมินว่าการเคลื่อนไหวของราคาทองคำน่าจะเป็นไปในทิศทางเดียวกับปีที่ผ่านมา หากดูการเคลื่อนไหวในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา จะเห็นว่าราคามีทิศทางขาลง แต่ปี 2559 ราคาทองคำสามารถดีดตัวขึ้นมาได้ โดยประเมินว่าปีนี้ทองคำจะแกว่งตัวในรูปแบบ Side Way เพื่อสร้างฐานในปีนี้ โดยกรอบด้านล้างประเมินที่ 1,122-1,090 เหรียญ/ออนซ์ หากราคาอ่อนตัวลงมาไม่ถึงระดับดังกล่าว เชื่อว่าจะดีขึ้นกว่าช่วงที่ผ่านมา และจุดทดสอบด้านบน 1,260 เหรียญ/ออนซ์ โดยนักลงทุนต้องติดตามอย่างใกล้ชิดว่าจะผ่านไปได้หรือไม่ หากผ่านไปได้จะมีลุ้นไปทดสอบจุดสูงสุดของปี 59 ที่ 1,375 เหรียญ/ออนซ์
“โดยรวมอยากให้นักลงทุนเน้นลงทุนระยะสั้นจากการแกว่งตัวของราคา เพราะแนวโน้มของราคาทองคำยังไม่เป็นทิศทางขาขึ้นอย่างชัดเจน นอกจากนี้ หากมีการเก็บสถิติส่วนตัวในช่วงที่ผ่านมาว่า เรามีการลงทุน และขาดทุนในช่วงใด จะสามารถช่วยปรับปรุงการลงทุนในปีนี้ได้แม่นยำมากขึ้น”
