เคทีบี (ประเทศไทย) ประเมินหุ้นไทยวันนี้ (23 ธ.ค.) ยังส่งสัญญาณไปทางลบ การซื้อขายเบาบาง และอาจทำให้ดัชนีผันผวน เน้นลงทุนเก็งกำไรช่วงสั้น หุ้นเด่น TISCO, PTTEP, TACC, CHO, BCH
นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ กลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด ประเมินตลาดหุ้นไทยในวันนี้ (23 ธ.ค.) ตัวเลข GDP ไตรมาสที่ 3 ของสหรัฐฯ ที่รายงานครั้งสุดท้ายปรับขึ้นจากรายงานครั้งก่อน 3.2% เป็น 3.5% และสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ที่ 3.3% แต่นักลงทุนมองตัวเลขดังกล่าวที่รายงานออกมาในช่วงคืนที่ผ่านมา ไปในทางลบ จากรายได้ส่วนบุคคลที่เพิ่มขึ้น แต่ต่ำกว่าคาด และตัวเลขเคลมการว่างงานสูงขึ้น เป็นเหตุให้ดัชนี Dow Jones ปรับตัวลง โดยที่ตลาดต่างประเทศทั้งสหรัฐฯ และยุโรป ซื้อขายในช่วง 2 สัปดาห์สุดท้ายของปีแบบไม่ค่อยดีนัก น่าจะเป็นเพราะรับรู้ปัจจัยสำคัญๆ ที่มากันครบแล้ว อีกทั้ง volume การซื้อขายเบาบางลง และต้นสัปดาห์หน้าจะเป็นวันคริสต์มาสอีกด้วย ยิ่งจะทำให้ตลาดหุ้นวันนี้ของเอเชียดูแผ่วตามกันไป
ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ ยังทรงตัวเหนือ 50 เหรียญสหรัฐได้ การลดกำลังการผลิตน้ำมัน 1.7-1.8 ล้านบาร์เรล/วัน มีความเป็นไปได้มากขึ้นตามลำดับ อิรักประกาศวานนี้ว่า จะเข้าร่วมโปรแกรมลดกำลังการผลิตด้วย เรายังคงมองราคาน้ำมัน และการลดกำลังการผลิตน้ำมัน เป็นปัจจัยบวกตัวหนึ่งของหุ้นกลุ่มน้ำมัน และตลาดหุ้นไทย
ดังนั้น ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ คาดว่าส่งสัญญาณไปในทางลบ เพราะเรายังไม่เห็นปัจจัยบวกตัวใดที่จะเข้ามาเปลี่ยนทิศทางตลาดได้ และการซื้อขายที่จะเบาบางลง จะยิ่งทำให้ดัชนีฯ ผันผวนได้มาก ข่าวที่เราเห็นส่วนใหญ่เป็นข่าวเฉพาะกลุ่มมากกว่า ส่วนหุ้นขนาดใหญ่นั้น แรงซื้อจะหายไปจากความกังวล หรือแรงขายของนักลงทุนต่างประเทศ
“กลยุทธ์การลงทุนนั้น การเคลื่อนไหวของดัชนีฯ ที่เป็น sideway อีกทั้งตลาดขาดข่าวบวกใหม่ๆ ที่จะเข้ามากระตุ้นให้นักลงทุนเข้ามาซื้อหุ้น นักลงทุนจึงอาจทำอะไรไม่ได้มากนัก และเหมาะกับการเก็งกำไรช่วงสั้นๆ มากกว่าสำหรับการเข้าเก็งกำไรช่วงสั้น หุ้นที่เราคาดว่า อาจได้รับความสนใจจากนักลงทุน อาทิ TISCO, PTTEP, TACC, CHO, BCH มองกรอบดัชนีวันนี้ที่ 1,498-1,510 จุด”