xs
xsm
sm
md
lg

เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์คฯ ซื้อหนี้เพิ่มจาก AEONTS มูลค่า 6.65 พันล้านบาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส ประกาศซื้อหนี้เพิ่มจาก AEONTS มูลค่า 6.65 พันล้านบาท หนุนพอร์ตบริหารหนี้เฉียดเป้าที่ 1.1 แสนล้านบาท แถมมีลุ้นปลายปีนี้อาจมีประกาศดีลซื้อหนี้เพิ่มอีก “ปิยะ พงษ์อัชฌา” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เผยช่วงต่อจากนี้อาจเห็นมิติใหม่ของ JMT พร้อมโฟกัสธุรกิจบริหารหนี้ ครองมาร์เกตแชร์เบอร์หนึ่งต่อเนื่องในอนาคต ด้านบทวิเคราะห์ บล.เอเซียพลัส ระบุ JMT แกร่ง แนะนำซื้อ ให้ราคาเหมาะสม 30 บาท

นายปิยะ พงษ์อัชฌา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT ผู้ประกอบธุรกิจให้บริการติดตามเร่งรัดหนี้ บริหารหนี้ด้อย คุณภาพระดับแนว หน้าของไทย ประกาศข่าวดี ลงนามในสัญญาซื้อหนี้ด้อยคุณภาพของสินเชื่อบัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคล กับบริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) จํากัด (มหาชน) หรือ AEONTS โดยสัญญามีมูลค่าหนี้คงค้างตามสิทธิ 6,645 ล้านบาท เข้าใกล้เป้าหมายทั้งปีจะมีพอร์ตบริหารหนี้แตะ 1.1 แสนล้านบาท เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ ยังอยู่ระหว่างซื้อหนี้เข้ามาบริหารเพิ่มอย่างต่อเนื่องอีก หากขั้นตอนการ ทำเอกสารแล้วเสร็จทันในปีนี้ จะประกาศแจ้งให้นักลงทุนทราบในลำดับถัดไป

อย่างไรก็ตาม ภาพรวมหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ NPL ในระบบมีตัวเลขที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ตามข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทย สัดส่วนหนี้ NPL ต่อสินเชื่อรวมในไตรมาส 3/2559 อยู่ที่ 2.89% นับเป็นยอดสูงสุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา สอดคล้องกับสถาบันการเงินต่างๆ ที่มีการขายหนี้ออกมาอย่างต่อเนื่อง เป็นโอกาสของ JMT ให้เข้าไปประมูลซื้อหนี้เพิ่ม เนื่องจากสถาบันการเงินเหล่านี้ต้องการบริษัทฯ ที่มีคุณภาพ และมาตรฐานในการเข้ามาดำเนินการ ที่สำคัญ คือ ต้องมีเงินทุนเพียงพอที่จะเข้าไปซื้อหนี้ด้อยคุณภาพก้อนใหญ่ ส่งผลให้ปัจจุบัน JMT ครองมาร์เกตแชร์เบอร์หนึ่งในธุรกิจอย่างต่อเนื่องได้ และแม้ในสภาวะที่เศรษฐกิจที่ยังมีความเปราะบางอยู่ JMT ก็สามารถจัดเก็บหนี้จากลูกค้าได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ด้วยกลยุทธ์ และการบริหารจัดการที่ดี จึงมั่นใจว่า ทิศทางธุรกิจของ JMT ในช่วงต่อจากนี้จะเติบโตตามแผนงานที่วางไว้ได้

“JMT มีพอร์ตบริหารหนี้ทะลุ 1 แสนล้านบาท เรียบร้อยแล้ว และเฉียดเป้าหมายทั้งปีที่วางไว้ โดยตั้งเป้าจะซื้อหนี้ด้อยคุณภาพมาบริหารเพิ่มในปีนี้อีก 2 หมื่นล้านบาท หรือมีพอร์ตบริหารหนี้ทั้งปี 2559 แตะ 1.1 แสนล้านบาท ขณะที่ปัจจุบันยังมีสถาบันการเงินที่อยู่ระหว่างรอทำสัญญากับบริษัทฯ เพิ่มอีก และหนี้ด้อยคุณภาพส่วนใหญ่ที่ซื้อมามีคุณภาพมากขึ้น จึงมั่นใจจะส่งผลดีต่อบริษัทฯ ให้เติบโตได้อย่างแข็งแกร่งในระยะยาว และด้วยภาพรวมธุรกิจบริหารหนี้มีแนวโน้มเติบโตสูง ทำให้ก่อนหน้า นี้ บริษัทฯ ลดสัดส่วนการถือหุ้นใน บริษัท เจ ฟินเทคฯ (เดิมชื่อ บ.เจเอ็มที พลัสฯ) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ทำธุรกิจสินเชื่อลงเหลือ 9.1% จากเดิมที่ถือ 100% ให้แก่บริษัทแม่ JMART ทำให้ภาระการจัดหาเงินทุน และสำรองหนี้เบาตัวไปมาก และสามารถโฟกัสเฉพาะธุรกิจบริหารหนี้ได้อย่างมี ประสิทธิภาพมากขึ้น” นายปิยะ กล่าว

บทวิเคราะห์ บล.เอเซียพลัส ระบุว่า JMT พอร์ตบริหารลูกหนี้ที่ขึ้นทะลุหลัก 1 แสนล้านบาทไปแล้ว จากการซื้อหนี้เข้ามาบริหารอย่างต่อเนื่องภายใต้เป้าหมาย 2 หมื่นล้านบาท ในปี 2559 และอีก 3 หมื่นล้านบาท ในปี 2560 ซึ่งจะทยอยสร้างรายได้เข้ามาต่อเนื่อง ภายใต้ปัจจัยแวดล้อมที่เอื้ออำนวยขึ้นในปี 2560 จากมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ทำให้สถานการณ์ติดตาม และเรียกเก็บหนี้ราบรื่นขึ้น ภาพรวม NPL ของสถาบันการเงินที่เชื่อว่า จะยังเพิ่มขึ้น และทำพีกในช่วงกลางปี 2560 ทำให้มีพอร์ตลูกหนี้ให้เลือกซื้ออีกมาก และความได้เปรียบที่เกิดขึ้น ภายหลังจากการลดสัดส่วนเงินลงทุนใน บ.เจ ฟินเทคฯ ทำให้สัดส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยจ่ายต่อทุนลดลงต่ำกว่า 1 เท่า ณ สิ้นปี 2559 เพิ่มกำลังความพร้อมให้บริษัทฯ ในการประมูลซื้อหนี้เข้ามาบริหารได้อีก มาก

แนะนำซื้อ พร้อมปรับเพิ่ม Fair value ปี 2560 เป็น 30 บาท (เดิม 20.75 บาท) โดยปรับ target PBV กลับขึ้นไปที่ระดับ 6 เท่า (เดิม 4.29 เท่า) เท่ากับค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี


กำลังโหลดความคิดเห็น