วินท์คอม เทคโนโลยี เตรียมยื่นไฟลิ่งขอเสนอขายหลักทรัพย์ไตรมาส 2 ปี 60 เดินหน้าขยายตลาดซอฟต์แวร์ และฮาร์ดแวร์ไปยังประเทศในกลุ่ม CLM ประเดิมทดสอบโมเดลธุรกิจพม่าที่แรก หวังปูทางสร้างความแข็งแกร่งของรายได้ ตั้งเป้ารายได้ 3 ปี แตะ 2,000 ล้านบาท จากปี 59 คาดอยู่ที่ระดับ 1,200 ล้านบาท
นางทรงศรี ศรีรุ่งเรืองจิต กรรมการผู้จัดการ บริษัทวินท์คอม เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) ผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ฮาร์ดแวร์ และซอฟท์แวร์ในลักษณะการขายแบบโซลูชั่น ยี่ห้อ “ออราเคิล” และ “ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์” รวมทั้งเป็นผู้นำการให้บริการ และให้คำปรึกษาด้านเทคโนโลยีสารสนเทศครบวงจร เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมในการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (Filing) เพื่อขออนุญาตต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอไอ (mai) โดยในเบื้องต้น คาดว่าจะสามารถยื่นไฟลิ่งได้ช่วงประมาณไตรมาส 2 ปี 2560
ขณะนี้บริษัทเร่งการขยายตลาดซอฟต์แวร์ และฮาร์ดแวร์ไปยังประเทศในกลุ่ม CLM คือ กัมพูชา ลาว และพม่า เพราะประเทศเหล่านี้อยู่ในช่วงการพัฒนาประเทศระบบซอฟต์แวร์ และฮาร์ดแวร์ จึงความสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจ
ล่าสุด ได้นำระบบซอฟต์แวร์ และฮาร์ดแวร์ไปทำการตลาดในประเทศพม่า ซึ่งได้การตอบรับที่ดีจากลูกค้าทั้งในหน่วยงานของภาครัฐ และเอกชน แต่ทั้งนี้ ก็ต้องใช้เวลาในการทำการตลาด เพราะ โครงการขนาดใหญ่ หรือการลงทุนต่างๆ ยังอยู่ระหว่างก่อสร้าง
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีการให้บริการให้คำปรึกษา การบริการหลังการขายที่ครบวงจรสำหรับสินค้าไอทีเพิ่มมากขึ้น และในอนาคตจะมีการขยายงานเข้าไปบำรุงรักษาผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับโทรศัพท์มือถือด้วย เพราะมีอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงกว่า ภายใต้การดูแลของบริษัท วีเซิร์ฟพลัส จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ถือหุ้นอยู่ 51% ซึ่งจะทำให้บริษัทฯ มีรายได้ที่มั่นคงมากขึ้น จากการดำเนินธุรกิจที่หลากหลายไม่อิงกับรายได้ธุรกิจใดธุรกิจหนึ่ง
“ปัจจุบัน บริษัทฯ เข้าประมูลงานจากหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน ซึ่งที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้วางระบบให้กับกรมสรรพากร ระบบของห้างแม็คโคร ระบบของ KTC เป็นต้น โดยใช้เวลาการติดตั้งประมาณ 6 เดือนถึง 1 ปี” นางทรงศรี กล่าว
พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้ภาย 3 ปี (59-61) แตะที่ระดับ 2,000 ล้านบาท จากปีนี้ที่คาดว่า จะมีรายได้อยู่ที่ระดับ 1,200 ล้านบาท ซึ่งมาจากการรับรู้รายได้จากการขายเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 71-79% ส่วนที่เหลือเป็นรายได้การให้บริการ