บอร์ด “ซุปเปอร์ บล๊อก” ไฟเขียวบริษัทย่อย “SSE-HK1” ลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ขนาดกำลังการผลิต 20 เมกะวัตต์ มูลค่าโครงการ 792.501 ล้านบาท สัมปทานระยะเวลา 25 ปี ที่นครเทียนจิน ประเทศจีน ด้านผู้บริหารคาดผลิต และจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ได้ภายในปีนี้ ระบุเป้าหมายอนาคตชัดเจน คือ การสร้างธุรกิจให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง สร้างผลตอบแทนที่ดีไม่ทำให้นักลงทุนผิดหวัง
นายจอมทรัพย์ โลจายะ ประธานกรรมการ บริษัท ซุปเปอร์ บล๊อก จำกัด (มหาชน) (SUPER) เปิดเผยว่า คณะกรรมการของบริษัทฯ มีมติอนุมัติให้ SUPER SOLAR ENERGY (HONG KONG) 1 Co.,Ltd. (SSE-HK1) ซึ่งถือหุ้นร้อยละ 100 ของทุนจดทะเบียน โดย SUPER ENERGY GROUP (HONG KONG) Co.,Ltd. ซึ่งถือหุ้นร้อยละ 100 ของทุนจดทะเบียน โดยบริษัท ซุปเปอร์ โซล่าร์ เอนเนอร์ยี จํากัด (SSE) ซึ่งถือหุ้นร้อยละ 100 ของทุนจดทะเบียน โดยบริษัท ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี กรุ๊ป จํากัด (SUPERE) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ เข้าทํารายการลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้น (Share Purchase Agreement : SPA) เพื่อลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในเมืองเทียนจิน (Tianjin) จังหวัดหนิงเหอ (Ninghe) สาธารณรัฐประชาชนจีน ขนาดกําลังการผลิตของโครงการตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า 20 เมกะวัตต์ โดยมีมูลค่ารวมของโครงการประมาณ 152 ล้านหยวน หรือคิดเป็นประมาณ 792.501 ล้านบาท
“SSE-HK1 มีความประสงค์จะเข้าลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ขนาดกําลังการผลิตตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า 20 เมกะวัตต์ ซึ่งได้รับสัมปทานในการขายไฟฟ้าให้แก่รัฐบาลจีนเป็นระยะเวลา 25 ปี โดยปัจจุบัน โครงการก่อสร้างแล้วเสร็จ 100% โดยจะสามารถจำหน่ายไฟฟ้าในเชิงพาณิชย์ได้ภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2559 ซึ่งจะสร้างรายได้ที่แน่นอน และมั่นคงให้กับบริษัทฯ และบริษัทย่อย สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นในอนาคต” นายจอมทรัพย์ กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทฯ จะได้รับประโยชน์จากการเข้าลงทุนในโครงการดังกล่าว คือ 1.ส่งเสริมนโยบายในการขยายฐานธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนไปยังต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น 2.ช่วยให้บริษัทฯ มีแหล่งรายได้ที่แน่นอนต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 25 ปี และสร้างผลตอบแทนให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ และ 3.ทําให้บริษัทฯ มีการเติบโตของทรัพย์สินอย่างต่อเนื่อง
ประธานกรรมการ บริษัท ซุปเปอร์ บล๊อก จำกัด (มหาชน) (SUPER) กล่าวอีกว่า การเข้าลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในสาธารณรัฐประชาชนจีนครั้งนี้ถือเป็นโครงการแรก และคาดว่า ในช่วงที่เหลือจะเห็นการขยายการลงทุนโรงไฟฟ้าทั้งในประเทศจีน และประเทศญี่ปุ่น เพิ่มเติมอีก ซึ่งเป็นไปตามแผนงานขยายการลงทุนในต่างประเทศ ส่งผลให้ยอด COD เพิ่มขึ้นเป็น 800 เมกะวัตต์ และภายในสิ้นปีนี้จะมี COD เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะมีเป้าหมายที่ชัดเจน คือ การสร้างธุรกิจให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดี และไม่ทำให้ผู้ถือหุ้นผิดหวัง