“คลัง” ปัดข้อเสนอ “เบสท์ริน” นำเงินประกัน 3.4 พัน ล. จ่ายค่ารถเมล์เอ็นจีวี เพื่อนำรถออกจากท่าเรือแหลมฉบังนั้น เป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น และเป็นการขอที่ไม่สมเหตุสมผล
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงกรณีที่บริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป ผู้ชนะประมูลรถเมล์ใช้ก๊าซธรรมชาติ (เอ็นจีวี) เสนอให้กระทรวงการคลัง นำเงิน 3,389 ล้านบาท มาเป็นเงินประกันรถเมล์คันละ 4.8 ล้านบาท โดยระบุว่า การเสนอมาแบบนั้น มันฟังไม่ขึ้นอยู่แล้ว และไม่สมเหตุสมผลในเรื่องที่กล่าวอ้างมา เพราะระเบียบมันไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากคู่สัญญาที่ทำไว้ขึ้นอยู่กับองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ไม่ได้เกี่ยวข้องกับกระทรวงการคลัง
ด้าน นายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวว่า การตรวจสอบรถโดยสารที่ใช้เชื้อเพลิงธรรมชาติ (เอ็นจีวี) ของบริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัด ทางกรมศุลกากร ได้ส่งเจ้าหน้าที่เดินทางไปหารือ และตรวจสอบข้อมูลร่วมกับกรมศุลกากรของประเทศมาเลเซียแล้วว่า รถเอ็นจีวีดังกล่าวผลิตที่ประเทศมาเลเซียหรือไม่ และเป็นไปตามข้อตกลงสนธิสัญญาเขตการค้าเสรีกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน (ฟอร์มดี) ที่ออกโดยหน่วยงานจากมาเลเซียจริงหรือไม่
“หลังจากนี้คงต้องรอเอกสาร และรายละเอียดทั้งหมดว่ามีข้อเท็จจริงเป็นเช่นไร โดยกรมศุลกากรจะยึดตามข้อกฎหมาย และความถูกต้องทั้งหมด ส่วนการที่บริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป เสนอให้กระทรวงการคลัง นำเงินที่ต้องจ่ายให้บริษัทประมาณ 3,389 ล้านบาท จะมาเป็นเงินประกันรถเมล์คันละ 4.8 ล้านบาทเพื่อนำรถออกมาจากท่าเรือก็ขึ้นอยู่ที่นโยบาย แต่กรมศุลกากรมีหน้าที่ตรวจสอบความถูกต้องเท่านั้น”
ก่อนหน้านี้ นายเค่อ นัว หลิน ประธานบริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัด ผู้ชนะประมูลรถเมล์ NGV แถลงกรณีกรมศุลกากร อายัดรถโดยสารปรับอากาศ NGV รวม 99 คัน ที่ท่าเรือแหลมฉบัง ว่า การที่กรมศุลกากรอายัดรถ ทำให้การส่งมอบรถให้ ขสมก.ล่าช้า หรืออาจทำให้ไม่สามารถส่งมอบรถให้กับ ขสมก.ได้ทันในวันที่ 29 ธ.ค.2559 และจำเป็นต้องยอมจ่ายค่าปรับ และต้องเร่งดำเนินการนำรถออกมาให้ได้ไม่เกิน 3 เดือนนับจากวันส่งมอบ ไม่งั้นก็จะถูกยกเลิกสัญญา ซึ่งได้คำนวณระยะเวลาทั้งหมดจากวงเงินประกัน
ทั้งนี้ ทางบริษัทยืนยันว่า จะไม่วางหลักประกันทางการเงินกับกรมศุลกากรเพิ่มเติม เพื่อขอให้นำรถเมล์ออกจากท่าเรือแหลมฉบังก่อน เพราะได้ลงทุนกับโครงการดังกล่าวไปมากแล้ว พร้อมระบุว่า เตรียมทำหนังสือเสนอให้ทางกระทรวงการคลัง นำวงเงินการจัดซื้อรถเมล์ที่กระทรวงการคลังจะต้องจ่ายให้กับบริษัทมาใช้แทนเงินประกันในการนำรถเมล์ NGV ดังกล่าวออกจากพื้นที่ และนำมาให้ประชาชนใช้บริการ