หลังจากผ่านขั้นตอนการเลือกบ้านหรือคอนโดตามแบบที่ชอบ ทำเลที่ใช่ สาธารณูปโภคที่ตอบโจทย์แล้ว “การกู้บ้าน” ก็คือขั้นตอนสำคัญขั้นต่อไปที่ต้องทำเพื่อให้ได้ที่อยู่อาศัยตรงใจมาครอบครอง
เคล็ดลับที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการกู้บ้านมีดังนี้
• “การพิจารณารายได้” แต่ละธนาคารมีหลักการพิจารณาปล่อยกู้ไม่ต่างกันเท่าใดนัก โดยพิจารณาจากรายได้ ซึ่งหมายถึงเงินเดือน หรือรายได้จากการประกอบธุรกิจ (ผู้ที่มีอาชีพอิสระหรือธุรกิจเป็นของตัวเอง พิจารณาจากความแน่นอนของรายได้ที่จะเกิดขึ้นในแต่ละเดือน จากหลักฐานอย่างเช่นบัญชีธนาคาร เอกสารแสดงการเสียภาษี สัญญาจ้าง หรือสถานที่ประกอบการค้าขายหรือสัญญาเช่า) ทั้งนี้โดยปกติแล้วธนาคารใช้หลักประเมินความสามารถในการผ่อนชำระหนี้ของลูกหนี้โดย ยึดหลักที่ 40% ของรายได้ต่อเดือนของลูกหนี้
ยกตัวอย่าง บ้านราคา 2 ล้านบาท ประมาณการผ่อนธนาคารต่อเดือนอยู่ที่ 15,000 บาท ซึ่งนั่นหมายความว่า ผู้กู้ต้องมีฐานเงินเดือนอยู่ที่ 37,500 บาทต่อเดือน
37,500 x 40% = 15,000 บาท
ทั้งนี้ภาระค่าใช้จ่ายอื่นๆ อาทิ ค่าผ่อนรถ หนี้สินบัตรเครดิตก็จะถูกนำมาประกอบการพิจารณาด้วย
• “ซ้อมผ่อนบ้านก่อนผ่อนจริง” โดยเมื่อธนาคารประมาณจำนวนการผ่อนคร่าวๆ มาให้แล้ว เทคนิคแรกที่ควรใช้คือการสร้างวินัยการเงิน นั่นคือซ้อมผ่อนบ้านก่อนผ่อนจริง ลองเก็บเงินตามจำนวนที่ต้องใช้ผ่อนบ้านในแต่ละเดือน เอาไว้โดยในส่วนนี้ไม่นำไปใช้จ่าย ถ้ายังสามารถใช้เงินที่เหลืออยู่ได้อย่างไม่ติดขัด นั่นก็หมายความว่าคุณพร้อมที่จะผ่อนบ้านได้อย่างสบาย
• “กู้ร่วม” หลายคนสงสัยว่า หากเงินเดือนไม่มาก และยังมีภาระค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีกด้วย แปลว่าจะหมดหวังเรื่องการกู้บ้านเลยใช่ไหม? คำตอบคือ ไม่ใช่ เพราะยังมีทางออกคือการกู้ร่วม ซึ่งปัจจุบันเปิดกว้างให้ผู้กู้ร่วมหมายถึงผู้สมัครใจจะเป็นลูกหนี้ร่วมกัน (สมัยก่อนผู้กู้ร่วมต้องมีความสัมพันธ์ทางเชื้อสายเท่านั้น แต่ปัจจุบันไม่จำเป็น) โดยผู้กู้ร่วมและผู้กู้หลักต้องมีคุณสมบัติผ่านเกณฑ์การพิจารณาของธนาคารที่ปล่อยกู้
ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจกู้ซื้อบ้าน หรือกำลังอยู่ในขั้นตอนกู้บ้าน ควรจัดเตรียมเอกสารให้ครบถ้วน และใส่ใจรายละเอียดเรื่องดอกเบี้ยต่างๆ ที่ธนาคารนำเสนอ
หมายเหตุ : หลักการการพิจารณาสินเชื่ออาจเปลี่ยนแปลงไปตามปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง และธนาคารที่ท่านเลือกใช้บริการเพื่อขอวงเงินสินเชื่อ โปรดเช็คข้อมูลกับธนาคารที่ท่านขอสินเชื่ออีกครั้ง
สนับสนุนข้อมูลโดย บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) คิด สร้างสรรค์คุณค่า เพื่อลูกค้า www.pruksa.com
เคล็ดลับที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการกู้บ้านมีดังนี้
• “การพิจารณารายได้” แต่ละธนาคารมีหลักการพิจารณาปล่อยกู้ไม่ต่างกันเท่าใดนัก โดยพิจารณาจากรายได้ ซึ่งหมายถึงเงินเดือน หรือรายได้จากการประกอบธุรกิจ (ผู้ที่มีอาชีพอิสระหรือธุรกิจเป็นของตัวเอง พิจารณาจากความแน่นอนของรายได้ที่จะเกิดขึ้นในแต่ละเดือน จากหลักฐานอย่างเช่นบัญชีธนาคาร เอกสารแสดงการเสียภาษี สัญญาจ้าง หรือสถานที่ประกอบการค้าขายหรือสัญญาเช่า) ทั้งนี้โดยปกติแล้วธนาคารใช้หลักประเมินความสามารถในการผ่อนชำระหนี้ของลูกหนี้โดย ยึดหลักที่ 40% ของรายได้ต่อเดือนของลูกหนี้
ยกตัวอย่าง บ้านราคา 2 ล้านบาท ประมาณการผ่อนธนาคารต่อเดือนอยู่ที่ 15,000 บาท ซึ่งนั่นหมายความว่า ผู้กู้ต้องมีฐานเงินเดือนอยู่ที่ 37,500 บาทต่อเดือน
37,500 x 40% = 15,000 บาท
ทั้งนี้ภาระค่าใช้จ่ายอื่นๆ อาทิ ค่าผ่อนรถ หนี้สินบัตรเครดิตก็จะถูกนำมาประกอบการพิจารณาด้วย
• “ซ้อมผ่อนบ้านก่อนผ่อนจริง” โดยเมื่อธนาคารประมาณจำนวนการผ่อนคร่าวๆ มาให้แล้ว เทคนิคแรกที่ควรใช้คือการสร้างวินัยการเงิน นั่นคือซ้อมผ่อนบ้านก่อนผ่อนจริง ลองเก็บเงินตามจำนวนที่ต้องใช้ผ่อนบ้านในแต่ละเดือน เอาไว้โดยในส่วนนี้ไม่นำไปใช้จ่าย ถ้ายังสามารถใช้เงินที่เหลืออยู่ได้อย่างไม่ติดขัด นั่นก็หมายความว่าคุณพร้อมที่จะผ่อนบ้านได้อย่างสบาย
• “กู้ร่วม” หลายคนสงสัยว่า หากเงินเดือนไม่มาก และยังมีภาระค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีกด้วย แปลว่าจะหมดหวังเรื่องการกู้บ้านเลยใช่ไหม? คำตอบคือ ไม่ใช่ เพราะยังมีทางออกคือการกู้ร่วม ซึ่งปัจจุบันเปิดกว้างให้ผู้กู้ร่วมหมายถึงผู้สมัครใจจะเป็นลูกหนี้ร่วมกัน (สมัยก่อนผู้กู้ร่วมต้องมีความสัมพันธ์ทางเชื้อสายเท่านั้น แต่ปัจจุบันไม่จำเป็น) โดยผู้กู้ร่วมและผู้กู้หลักต้องมีคุณสมบัติผ่านเกณฑ์การพิจารณาของธนาคารที่ปล่อยกู้
ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจกู้ซื้อบ้าน หรือกำลังอยู่ในขั้นตอนกู้บ้าน ควรจัดเตรียมเอกสารให้ครบถ้วน และใส่ใจรายละเอียดเรื่องดอกเบี้ยต่างๆ ที่ธนาคารนำเสนอ
หมายเหตุ : หลักการการพิจารณาสินเชื่ออาจเปลี่ยนแปลงไปตามปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง และธนาคารที่ท่านเลือกใช้บริการเพื่อขอวงเงินสินเชื่อ โปรดเช็คข้อมูลกับธนาคารที่ท่านขอสินเชื่ออีกครั้ง
สนับสนุนข้อมูลโดย บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) คิด สร้างสรรค์คุณค่า เพื่อลูกค้า www.pruksa.com