รองนายก “สมคิด” เผยรู้สึกพอใจตัวเลข ศก.ไตรมาส 3/59 ที่ออกมาเติบโตได้ 3.2% ยืนยัน รบ.พร้อมเข้าดูแลใกล้ชิด หากพบกว่า ศก.สาขาใดชะลอตัว แย้มแผนปี 60 เน้นการเติบโตจากภายใน เน้นทุกด้านให้เข้มแข็งไปพร้อมกัน รองรับการพัฒนาประเทศตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ กล่าวว่า ตนเองรู้สึกพอใจกับตัวเลขเศรษฐกิจ (จีดีพี) ไตรมาส 3 ของไทยปีนี้ที่ออกมาในอัตราร้อยละ 3.2 แม้ว่าการใช้จ่ายภาครัฐชะลอตัวเล็กน้อย แต่แรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจยังไปได้ดีจากปัจจัยหลายส่วน และเมื่อเทียบกับต่างประเทศนับว่าดีกว่าหลายประเทศในไตรมาส 3 เพราะสิงคโปร์ ขยายตัวร้อยละ 0.6 เกาหลี ขยายตัวร้อยละ 2 ส่วนประเทศเพื่อนบ้าน แม้ตัวเลขจะสูง ทั้งลาว กัมพูชา เมียนมา เนื่องจากขนาดเศรษฐกิจยังต่ำกว่าไทยหลายเท่า
ดังนั้น รัฐบาลจึงต้องหาทางดูแลในด้านที่มีศักยภาพ เช่น การท่องเที่ยว เพื่อนำรายได้เข้าประเทศ เพราะการใช้จ่ายช่วงนี้ยอมรับว่าชะลอตัว แต่หากด้านสาขาใดอ่อนแรง กระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เตรียมพร้อมออกมาตรการเข้ามาดูแล โดยเฉพาะการช่วยเหลือกลุ่มผู้มีรายได้น้อยในชุมชนเมือง เพื่อมีรายได้ยังชีพในเมืองหลวง หลังจากที่ผ่านมา ได้ช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยกลุ่มเกษตรกร
สำหรับในปี 2560 สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศราฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจขยายตัวได้ร้อยละ 3-4 ซึ่งทางนายกรัฐมนตรีได้มุ่งเน้นการสร้างสมดุลจากภายในประเทศ ทั้งการพัฒนาภาคเกษตร และอุตหสากรรม ให้เติบโตอย่างเข้มแข็งไปพร้อมกัน รองรับการพัฒนาประเทศตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 เพื่อให้เศรษฐกิจของประเทศขยายตัวจากภายใน
ดังนั้น การจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2561 นายกรัฐมนตรีจึงเน้นการจัดทำงบประมาณแบบบูรณาการแบบกลุ่มจังหวัด ด้วยการให้กลุ่มจังหวัดร่วมกับทั้งภาคองค์กรท้องถิ่น ส่วนราชการระดับท้องถิ่น เสนอแผนของบประมาณพัฒนา ถนน โครงสร้างพื้นฐาน การท่องเที่ยวในท้องถิ่น เพื่อนำงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนับแสนล้านบาท มาใช้ให้เกิดประโยชน์ และมีประสิทธิภาพ เพื่อส่งเสริมท้องถิ่นแปรรูปสินค้าเกษตร การท่องเที่ยว พัฒนาการผลิต การเสนองบประมาณในอนาคตจะเปิดทางให้การผ่านท้องถิ่น นอกเหนือจากการเสนอแผนพัฒนาจากส่วนกลาง