“ออลล่า” ตุน Backlog 324 ล้านบาท รับรู้รายได้ไตรมาส 4 ปี 59 เป็นต้นไป พร้อมเดินหน้าเข้ารับงานใหม่มั่นใจปีหน้าผลงานโดดเด่น หลังการลงทุนในอุตสาหกรรมต่างๆ ฟื้นตัวชัดเจน
นายองอาจ ปัณฑุยากร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ออลล่า จำกัด (มหาชน) หรือ ALLA ผู้ผลิต จำหน่าย และติดตั้งอุปกรณ์ขนถ่ายวัสดุอุปกรณ์ และสินค้าในโรงงานอุตสาหกรรม และคลังสินค้าต่างๆ เปิดเผยว่า ในปัจจุบัน บริษัทฯ มีงานในมือเพื่อรอรับรู้รายได้ หรือ Backlog อยู่ประมาณ 324 ล้านบาท โดยจะสามารถทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ไปจนถึงปีหน้า โดย Backlog จำนวนดังกล่าวส่วนใหญ่เป็นงานเครน และรอกไฟฟ้าสำหรับหลายอุตสาหกรรม โดยเฉพาะโรงไฟฟ้า ซึ่งมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคตตามความต้องการก่อสร้างโรงไฟฟ้าที่เพิ่มมากขึ้น
ขณะเดียวกัน บริษัทฯ อยู่ในระหว่างการเจรจาเพื่อเข้ารับงานใหม่ๆ จากลูกค้าในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น ค้าปลีก รถยนต์ โรงไฟฟ้า และรถไฟฟ้า เป็นต้น ทั้งนี้ จากมูลค่า Backlog ดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงการฟื้นตัวของการลงทุนในอุตสาหกรรมต่างๆ ที่ทยอยปรับตัวสูงขึ้น หลังจาก 2-3 ปีที่ผ่านมา การลงทุนของทั้งภาครัฐ และเอกชนอยู่ในภาวะชะลอตัว ซึ่งถือว่าเป็นช่วงจุดต่ำสุดของบริษัทฯ
โดยคาดว่าตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นไป ผลประกอบการของบริษัทฯ จะกลับมาเติบโตได้อย่างโดดเด่นตามการลงทุนของอุตสาหกรรมต่างๆ ที่เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงการเดินหน้าขยายตลาดไปยังภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะในประเทศอินโดนีเซีย ที่คาดว่าจะสามารถเซ็นสัญญา MOU ข้อตกลงในการจัดตั้งบริษัทร่วมที่อินโดนีเซีย ได้ภายในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ซึ่งในประเทศอินโดนีเซีย ถือว่าเป็นตลาดที่ใหญ่ และมีความต้องการใช้อุปกรณ์ขนถ่ายวัสดุอุปกรณ์ และสินค้าในโรงงานอุตสาหกรรม และคลังสินค้าต่างๆ ที่สูง เนื่องจากภูมิประเทศที่เป็นเกาะทำให้มีคลังสินค้า และท่าเทียบเรือเป็นจำนวนมาก ซึ่งการขยายตลาดในต่างประเทศจะเป็นการเพิ่มช่องทางการสร้างรายได้ให้กับบริษัทฯ ในอนาคต
“ช่วงที่ผ่านมา ถือว่าเป็นช่วงที่การลงทุนของอุตสาหกรรมต่างๆ ชะลอตัวลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งถือว่าในตอนนี้บริษัทฯ ได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว จากสัญญาณการลงทุนที่เริ่มเพิ่มสูงขึ้น อันจะเห็นได้จากตัวเลข Backlog ของบริษัทฯ ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และยังคงมีอีกหลายงานที่อยู่ในระหว่างเจรจาเพื่อเข้ารับงานในหลากหลายอุตสาหกรรม ทำให้เรามั่นใจว่า ในปีหน้าผลการดำเนินงานของบริษัทฯจะกลับมาเติบโตอย่างโดดเด่น” นายองอาจ กล่าว