พฤกษาฯ แจงผลดำเนินงาน 9 เดือน ลดลงตามภาวะตลาด กำไร 4,068 ล้านบาท ลดลง 13.2% รายได้ 33,113 ล้านบาท ขณะที่ยอดขายทรงตัว 34,662 ล้านบาท ส่วนความคืบหน้าปรับโครงการองค์กรอยู่ระหว่างเสนอซื้อหลักทรัพย์ กำหนดแล้วเสร็จ 23 พ.ย.นี้
นายชาลี มาดาน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการเงินและบริหารความเสี่ยง บริษัทพฤกษา เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ PS ชี้แจงผลการดำเนินงานของบริษัทฯ และบริษัทย่อย สำหรับงวดสามเดือน และเก้าเดือน สิ้นสุด 30 กันยายน 2559 ดังนี้ บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิสำหรับไตรมาส 3/2559 จำนวน 928 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 10.2 ของรายได้รวม ลดลงร้อยละ 43 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1,629 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิสำหรับรอบ 9 เดือน 4,068 ล้านบาท (กำไรต่อหุ้น 1.82 บาท) คิดเป็นร้อยละ 12.3 ของรายได้รวม คิดเป็นลดลงร้อยละ 13.4 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 4,687 ล้านบาท
ไตรมาส 3/2559 บริษัทฯ และบริษัทย่อย มียอดขาย 13,027 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,511 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 23.9 เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2558 สำหรับรอบ 9 เดือน ปี 2559 บริษัทฯ และบริษัทย่อยมียอดขายรวม 34,662 ล้านบาท เมื่อเทียบกับยอดขายรวม 9 เดือนของปี 2558 เท่ากับ 34,455 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 207 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.6 สำหรับรอบ 9 เดือนของปี 2559 มีการเปิดโครงการใหม่ จำนวน 52 โครงการ มูลค่าโครงการเท่ากับ (Project value) 42,145 ล้านบาท เมื่อเทียบกับการเปิดโครงการใหม่ในช่วง 9 เดือนของปีก่อน 36 โครงการรวม (Project Value) 35,641 ล้านบาท โดยในปีนี้เน้นการเปิดโครงการของกลุ่มทาวน์เฮาส์ 42 โครงการ มูลค่ารวม 28,049 ล้านบาท และบ้านเดี่ยว 7 โครงการ มูลค่า 6,569 ล้านบาท และคอนโดมิเนียม จำนวน 3 โครงการ มูลค่า 7,527 ล้านบาท
ไตรมาส 3/2559 มีการเปิดโครงการใหม่ จำนวน 25 โครงการ มูลค่า 22,431 ล้านบาท ซึ่งส่งผลต่อยอดขายรอรับรู้รายได้ของบริษัท (Backlog) ที่เพิ่มขึ้น โดยยอดขายที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่ของไตรมาส 3/2559 เมื่อเทียบกับปีก่อนมาจากการเปิด 2 โครงการคอนโดมิเนียมใหม่ ได้แก่ โครงการพลัม คอนโด รามคำแหง และโครงการ พลัม คอนโด ปิ่นเกล้า เป็นต้น ขณะที่ในไตรมาส 3 ปีที่แล้ว มีการเปิดโครงการคอนโดมิเนียมใหม่เพียง 1 โครงการ คือ โครงการพลัม เซ็นทรัล สเตชั่น
สำหรับรายได้รอบ 9 เดือน บริษัทมีรายได้ 33,113 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 2.3 เมื่อเทียบกับรายได้ในรอบเดียวกันของปีก่อน สำหรับไตรมาส 3/59 บริษัทฯ มีรายได้ 9,143 ล้านบาท ลดลง 2,321 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 20.2 เทียบกับไตรมาส 3/58 สาเหตุสำคัญส่วนหนึ่งมาจากมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาลที่สิ้นสุดไปในไตรมาส 2/59 ทำให้กลุ่มผู้บริโภคตัดสนใจโอนกรรมสิทธิ์ในช่วงเวลาดังกล่าวค่อนข้างมากก่อนที่มาตรการจะสิ้นสุดลง
ทั้งนี้ ในรอบ 9 เดือน บริษัทรายได้อสังหาฯ 32,978 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากทาวน์เฮาส์ 16,204 ล้านบาท ซึ่งเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์หลักของบริษัท รายได้จากคอนโดมิเนียม 10,062 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.3 เนื่องจากในรอบ 9 เดือนมีโครงการคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จ และสามารถโอนกรรมสิทธิ์ได้หลายโครงการ ส่วนการรับรู้รายได้จากบ้านเดี่ยว จำนวน 6,594 ล้านบาท ลดลง 920 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 12.2 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ณ 30 กันยายน บริษัทมีโครงการที่อยู่ระหว่างการขาย (Active Project) จำนวน 181 โครงการ มูลค่ารวมโครงการ (Total project value) 186,533 ล้านบาท แบ่งเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ ดังนี้ ทาวน์เฮาส์ จำนวน 113 โครงการ มูลค่ารวม 87,746 ล้านบาท บ้านเดี่ยวจำนวน 42 โครงการ มูลค่ารวม 45,251 ล้านบาท คอนโดมิเนียม 26 โครงการ มูลค่า 53,536 ล้านบาท
ณ วันที่ 30 กันยายน 2559 บริษัทฯ หนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ย ประกอบด้วยเงินกู้ยืมระยะสั้นจากสถาบันการเงิน 2,758 ล้านบาท และหุ้นกู้ จำนวน 18,000 ล้านบาท แบ่งเป็นส่วนที่ถึงกำหนดชำระภายในปีนี้ 6,000 ล้านบาท และหุ้นกู้ระยะยาว จำนวน 12,000 ล้านบาท โดยในรอบระยะเวลา 9 เดือน มีการชำระคืนหุ้นกู้ จำนวน 6,000 ล้านบาท และออกหุ้นกู้ จำนวน 4,000 ล้านบาท แบ่งเป็นชุดที่ 1 จำนวน 2,300 ล้านบาท ระยะเวลา 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 2.05 ชำระดอกเบี้ยทุกๆ 3 เดือน ชุดที่ 2 จำนวน 1,700 ล้านบาท ระยะเวลา 3 ปี 6 เดือน อัตราดอกเบี้ย 2.08 ชำระดอกเบี้ยทุก 3 เดือน ทั้งนี้ เพื่อใช้เงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ
ส่วนแผนการปรับโครงสร้างของบริษัทฯ ซึ่งได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นเมื่อ 28 เมษายนที่ผ่านมา ตามแผนการปรับโครงสร้างกิจการของบริษัท ซึ่งได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทเมื่อวันที่ 28 เมษายน 2559 บริษัทได้จัดตั้งบริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) เพื่อทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์หมดของบริษัทฯ โดยแลกเปลี่ยนกับหลักทรัพย์ประเภทเดียวกันที่ออก และเสนอขาย โดยพฤกษา โฮลดิ้ง ในอัตราหลักทรัพย์ 1:1 โดยพฤกษา โฮลดิ้ง ได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ให้ทำการเสนอขายหลักทรัพย์ที่ออกใหม่เป็นที่เรียบร้อย โดยมีระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 19 ตุลาคม 2559 ถึงวันที่ 23 พฤศจิกายน 2559 รวม 25 วันทำการ ซึ่งภายหลังการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์เสร็จสิ้น หุ้นสามัญของพฤกษา โฮลดิ้ง จะเข้าเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย แทนหุ้นสามัญของบริษัทฯ ซึ่งจะถูกเพิกถอนออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในวันเดียวกัน