“พฤกษาฯ” เผยครึ่งปีบริษัท และบริษัทย่อยมีรายได้รวมเท่ากับ 23,970 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.9% โดยรายได้หลักจากการขายอสังหาฯ ยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ชี้กลุ่มผลิตภัณฑ์ทาวน์เฮาส์แรงหนุนรายได้เท่ากับ 11,463 ล้านบาท คอนโดฯ 7,535 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 39.7 จากยอดโอนกรรมสิทธิ์หลายโครงการ กลุ่มทาวน์เฮาส์มีกำไรสูง 33.2 รองลงมาคอนโดฯ ส่งผลกำไรสุทธิครึ่งปีกว่า 3,100 ล้านบาท แจงไตรมาส 2 มียอดขาย 11,811 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 20.3 มีกำไรสุทธิ 1,873 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 13.7 เปิดโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการสูงถึง 168 โครงการ มูลค่า 171,785 ล้านบาท โครงการทาวน์เฮาส์ คอนโดฯ พอร์ตรวมกว่า 1.3 แสนล้านบาท
นายชาลีมาดาน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานการเงินและบริหารความเสี่ยง บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ “PS” กล่าวถึงบริษัทฯ และบริษัทย่อยสำหรับรายได้ช่วงสามเดือน และ 6 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย.59 ว่า ในไตรมาส 2 มียอดขาย 11,811 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 20.3 เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2559 และเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.7 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
สำหรับรอบ 6 เดือน ปี 2559 บริษัทฯ และบริษัทย่อยมียอดขายรวมเท่ากับ 21,635 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนเท่ากับ 23,939 ล้านบาท ลดลง 2,304 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 9.6 เนื่องจากในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2559 มีการเปิดโครงการใหม่จำนวน 27 โครงการ ซึ่งมีจำนวนโครงการที่เปิดใหม่เท่ากับครึ่งปีแรกของปีก่อน แต่มูลค่าโครงการรวม (Project Value) ลดลง 5,658 ล้านบาท โดยมีมูลค่าโครงการรวมในครึ่งปีแรกเท่ากับ 19,641 ล้านบาท เน้นการเปิดโครงการของกลุ่มทาวน์เฮาส์ จำนวน 25 โครงการ มูลค่ารวม 16,078 ล้านบาท และบ้านเดี่ยว 1 โครงการ มูลค่า 1,011 ล้านบาท และอาคารชุดจำนวน 1 โครงการ มูลค่า 2,552 ล้านบาท
สำหรับรอบ 6 เดือน มีรายได้รวมเท่ากับ 23,970 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,553 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.9 เมื่อเทียบกับรายได้รวมของรอบเดียวกันในปีก่อน โดยการเพิ่มขึ้นหลักมากจากรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้น 1,536 ล้านบาท และจากรายได้อื่นเพิ่มขึ้น 17 ล้านบาท แสดงให้เห็นว่า บริษัทยังมีการเพิ่มขึ้นของรายได้อสังหาฯ ซึ่งเป็นรายได้หลักได้อย่างต่อเนื่อง
สำหรับไตรมาส 2/2558 บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีรายได้จากการขายที่ดินเปล่า มูลค่า 568 ล้านบาท ดังนั้น หากเปรียบเทียบเฉพาะรายได้จากการขายอสังหาฯ แล้วในไตรมาส 2/2559 บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีรายได้จากการขายอสังหาฯ เพิ่มขึ้น 147 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2558 แบ่งเป็น รายได้จากทาวน์เฮาส์เพิ่มขึ้น 542 ล้านบาท รายได้จากบ้านเดี่ยวลดลง 330 ล้านบาท รายได้จากอาคารชุด และจากส่วนงานต่างประเทศลดลง 44 ล้านบาท และ 26 ล้านบาท ตามลำดับ
สำหรับรอบระยะเวลาหกเดือน มีรายได้อสังหาฯ เท่ากับ 23,894 ล้านบาท แบ่งเป็น รายได้จากบ้านทาวน์เฮาส์เท่ากับ 11,463 ล้านบาท ซึ่งยังเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์หลักของบริษัทฯ และบริษัทย่อย ลำดับถัดมา เป็นรายได้จากอาคารชุดเท่ากับ 7,535 ล้านบาท ซึ่งรายได้เพิ่มขึ้น 2,143 ล้านบาทเมื่อเทียบกับรอบเดียวกันของปีก่อน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 39.7 เนื่องจากในรอบหกเดือน อาคารชุดหลายโครงการที่สร้างเสร็จ และสามารถโอนกรรมสิทธิ์ได้ จึงส่งผลให้รายได้จากกลุ่มอาคารชุดเพิ่มขึ้นมาก โครงการอาคารชุดที่มีการโอนกรรมสิทธิ์ในปี 2559 เช่น พลัมคอนโด พหลโยธิน 89, พลัมคอนโด พาร์ค รังสิต, The Tree อินเตอร์เชนจ์ เป็นต้น และรายได้จากบ้านเดี่ยวเท่ากับ 4,805 ล้านบาท ลดลง 431 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 8.2
ในส่วนของต้นทุนขายอสังหาริมทรัพย์ไตรมาส 2 เท่ากับ 9,285 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 67.9 ของรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ ในขณะที่ต้นทุนขายอสังหาริมทรัพย์ไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เท่ากับ 9,492 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 67.5 ของรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์
ส่วนงวด 6 เดือน มีต้นทุนขายอสังหาริมทรัพย์เท่ากับ 16,190 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 67.8 ของรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ ในขณะที่ต้นทุนรอบระยะเวลาเดียวกันของปีก่อนเท่ากับ 14,976 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 67.0 ของรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ อัตราต้นทุนขายเพิ่มขึ้นจากการที่บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีการปรับแบบผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพสูงขึ้น และมีความทันสมัยมากขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคในปัจจุบัน โดยเฉพาะส่วนของกลุ่มอาคารชุด อีกทั้งในรอบครึ่งปีแรกของปี 2559 รายได้ของกลุ่มอาคารชุดมีสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นสูงสุด เมื่อเทียบกับกลุ่มผลิตภัณฑ์อื่น ส่งผลให้อัตราต้นทุนขายสูงขึ้น ประกอบกับในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ต้นทุนค่าที่ดินเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะที่ดินแนวเส้นรถไฟฟ้า จึงส่งผลให้ต้นทุนขายอสังหาริมทรัพย์รวมเพิ่มขึ้น
สำหรับไตรมาส 2 ทาวน์เฮาส์มีกำไรขั้นต้น ร้อยละ 32.9 บ้านเดี่ยว ร้อยละ 31.1 และอาคารชุด ร้อยละ 30.9 ในส่วนของงวดครึ่งปี กลุ่มทาวน์เฮาส์มีกำไรขั้นต้น ร้อยละ 33.2 บ้านเดี่ยว ร้อยละ 31.1 และอาคารชุด ร้อยละ 31.7 (เทียบกับงวดเดียวกันของปี 58 ทาวน์เฮาส์ ร้อยละ 32.9 บ้านเดี่ยว ร้อยละ 33.4 และอาคารชุด ร้อยละ 33.6 )
ทั้งนี้ ในส่วนของกำไรสุทธิไตรมาส 2 เท่ากับ 1,873 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 13.7 ของรายได้รวม และกำไรสุทธิสำหรับรอบระยะเวลาหกเดือนเท่ากับ 3,139 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 13.1 ของรายได้รวม เพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 2.6 ของรอบระยะเวลาเดียวกันของปีก่อน
และ ณ วันที่ 30 มิ.ย.59 บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีโครงการที่ยังดำเนินงานอยู่ (Active Project) จำนวน 168 โครงการ มูลค่ารวมโครงการ 171,785 ล้านบาท แบ่งเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ทาวน์เฮาส์ จำนวน 102 โครงการ มูลค่ารวม 80,164 ล้านบาท บ้านเดี่ยว จำนวน 37 โครงการ มูลค่ารวม 40,255 ล้านบาท คอนโดมิเนียม จำนวน 29 โครงการ มูลค่ารวม 51,366 ล้านบาท
สำหรับหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ย ณ วันที่ 30 มิ.ย.59 เป็นหนี้หุ้นกู้ จำนวน 18,000 ล้านบาท แบ่งเป็นส่วนที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปี จำนวน 4,000 ล้านบาท และหุ้นกู้ระยะยาว จำนวน 14,000 ล้านบาท โดยในรอบระยะเวลา 6 เดือน มีการชำระคืนหุ้นกู้ จำนวน 6,000 ล้านบาท และออกหุ้นกู้ จำนวน 4,000 ล้านบาท.
