xs
xsm
sm
md
lg

เอพีฯ เผย 9 เดือนรายได้ลดฉุดกำไรเหลือ 1,437 ล้านบาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ภูมิพัฒน์ สินาเจริญ
“เอพี” แจงผลดำเนินงานไตรมาส 3/59 กำไร 456.6 ล้านบาท ลด 38.7% สาเหตุจากรายได้ลดลง 19.1% เหลือ 4,448.3 ล้านบาท ขณะที่ 9 เดือนกำไร 1,437 ล้านบาท

นายภูมิพัฒน์ สินาเจริญ เลขานุการ บริษัทเอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ชี้แจงผลการดำเนินงานสำหรับไตรมาส 3 ปี 2559 ว่า มีกำไรสุทธิ 456.6 ล้านบาท ลดลงจาก 745.8 ล้านบาท ในงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า หรือลดลงร้อยละ 38.7 โดยมีสาเหตุหลักมาจากรายได้รวมลดลงจาก 5,498.9 ล้านบาท ในไตรมาส 3 ปี 2558 เป็น 4,448.3 ล้านบาท ในไตรมาส 3 ปี 2559 หรือลดลงร้อยละ 19.1

สำหรับรายได้งวด 9 เดือนของปีนี้ จำนวน 13,235.98 ลดลง 19.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 16,419.173 ล้านบาท ขณะที่มีกำไรสำหรับงวด 9 เดือนปี 2559 จำนวน 1,437 ล้านบาท ลดลง 5.11% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสำหรับงวด 9 เดือน จำนวน 1,947.324 ล้านบาท

ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาตามประเภทของสินค้าพบว่า สินค้าแนวราบในไตรมาสนี้รับรู้รายได้ 3,452 ล้านบาท ยังสามารถเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเติบโตร้อยละ 12.5 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า สำหรับโครงการแนวสูงในไตรมาสนี้รับรู้รายได้ 763 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นโครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่

อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้นจากร้อยละ 34.1 ในไตรมาส 3 ปี 2558 มาเป็นร้อยละ 35.2 แม้ว่าในบางโครงการจะมีการทำการแข่งขันด้านราคาอัตรากำไรขั้นต้นของโครงการทั้งแนวราบ และแนวสูงยังอยู่ในระดับที่น่าพึงพอใจ อัตรากำไรแนวราบเท่ากับร้อยละ 31.2 และคอนโดมิเนียมเท่ากับร้อยละ 34.6 ซึ่งในไตรมาสนี้บริษัทมีรายได้ค่าบริหารจัดการจากโครงการร่วมทุน แบ่งเป็นรายได้จากค่าธรรมเนียมการขาย 854.5 ล้านบาท และรายได้จากค่าธรรมเนียมการบริหารจัดการ 24.1 ล้านบาทตามลำดับ

ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อรายได้ ลดลงจาก 958.7 ล้านบาท มาเป็น 935.2 ล้านบาท หรือลดลงคิดเป็นร้อยละ 2.5 ทั้งนี้ มาจากการควบคุมค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น อย่างไรก็ตาม เมื่อคิดเป็นอัตราส่วนร้อยละของรายได้ซึ่งเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 17.4 มาเป็นร้อยละ 21 เนื่องมาจากงานครบรอบ 25 ปี เอพี ไทยแลนด์ รวมทั้งการจัดแคมเปญใหญ่ภายใต้นาม เอพี สเปซ คอนเนค

นอกจากนี้ ในไตรมาส 3 ของปีก่อนหน้า มีการรับรู้รายได้จากการขายเงินลงทุนของบริษัท AP เอกมัย ให้แก่ MJRI (subsidiary of Mitsubishi Estate Corporation) มูลค่า 155 ล้านบาท จากสาเหตุดังกล่าวข้างต้น ทำให้บริษัทมีกำไรสุทธิลดลงเป็น 456.6 ล้านบาท ในไตรมาส 3 ปี 2559 หรือคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิที่ร้อยละ 10.3 ลดลงร้อยละ 38.7 จากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า


กำลังโหลดความคิดเห็น