นักวิเคราะห์เผยตัวเลข ศก.จีน ที่ออกมาดีกว่าคาด ช่วงหนุนดัชนีหุ้นไทยภาคเช้าดีดขึ้นแรงกว่า 11 จุด กลับมายืนเหนือระดับ 1,500 จุด ซึ่งเป็นการปรับขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาค
นายภาดล วรรณรัตน์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงใกล้ปิดเทรดภาคเช้าปรับตัวขึ้นกว่า 10 จุด เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวก คาดว่าจะเป็นการรับผลจากที่ตัวเลขเศรษฐกิจจีนออกมาดีกว่าตลาดคาด ทำให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับปัญหาเศรษฐกิจจีนไปได้บ้าง
อนึ่ง สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือน ต.ค. อยู่ที่ระดับ 51.2 เพิ่มขึ้นจากเดือน ก.ย. ที่ระดับ 50.4
นอกจากนี้ การที่ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวขึ้นมายืนเหนือระดับ 1,500 จุด ทำให้ภาพรวมเป็นบวก ขณะที่ตลาดฯ ก็ยังไม่มีปัจจัยลบเข้ามาด้วย
อย่างไรก็ดี ตลาดฯ ยังคงรอดูผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในคืนวันที่ 2 พ.ย. ซึ่งคาดว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ย และรอผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในช่วงต่อไปด้วย พร้อมให้แนวรับ 1,500 จุด ส่วนแนวต้าน 1,510-1,520 จุด
นายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้เคลื่อนไหวอยู่ในแดนบวก คล้ายกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย โดยได้รับปัจจัยบวกมาจากตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการบริการของจีน เดือน ต.ค. ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 54.0 จากเดือน ก.ย. อยู่ที่ระดับ 53.7 และธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) วันนี้มีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ -0.1%
ประกอบกับตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของไทยเดือน ต.ค.59 ขยายตัวได้ 0.34% เมื่อเทียบกับ ต.ค.58 และเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ขยายตัวได้ 0.16% ซึ่งถือว่าขยายตัวได้ค่อนข้างดี ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยดีดตัวขึ้น
ด้านภาวะตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปิดที่ระดับ 1,504.02 จุด เพิ่มขึ้น 8.30 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +0.55% มูลค่าการซื้อขาย 26,110.63 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายชัยยศ กล่าวว่า ตลาดฯ น่าจะยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในแดนบวกได้ต่อ พร้อมให้แนวรับ 1,495 จุด ส่วนแนวต้าน 1,505-1,510 จุด