“พิมล ศรีวิกรม์” ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อุตสาหกรรมพรมไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TCMC มั่นใจการเข้าลงทุนในบริษัท ดีเอ็ม มิดแลนด์ส ลิมิเต็ด หรือ DMM ผู้ผลิตและจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์รายใหญ่ในสหราชอาณาจักร จำนวน 75% มูลค่า 26.25 ล้านปอนด์ เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด เนื่องจาก DMM เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายเก้าอี้โซฟาให้แก่ลูกค้าในสหราชอาณาจักร (อังกฤษ) เป็นอันดับที่ 2 ซึ่งมียอดขายเฉลี่ย 3,000 ล้านบาทต่อปี และมีส่วนแบ่งการตลาด 8% ของมูลค่าตลาดผู้ผลิตและจำหน่ายเก้าอี้โซฟาค้าส่งภายในสหราชอาณาจักร
รูปแบบเฟอร์นิเจอร์ที่ผลิตเป็นรูปแบบ “อังกฤษสากล” ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างกว้างขวางในทุกทวีป ทั้งตะวันออกกลาง และเอเซีย ทำให้เรามั่นใจว่า DMM จะสามารถขยายตลาดได้อย่างรวดเร็ว โดยเราจะทำตลาดควบคู่กับกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิม ไม่ใช่เรานั่งรอปันผลจากการบริหารงานของเขา อีกประการหนึ่ง การเข้าซื้อครั้งนี้เรามีเงินสดจำนวนหนึ่งใน DMM เพื่อใช้เป็นเงินหมุนเวียน นั่นหมายถึงมูลค่าที่เราจ่าย “จริง” ต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชีแล้ว ทำให้มั่นใจว่า TCMC จะสามารถรับรู้รายได้จากการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ได้อย่างรวดเร็ว
การซื้อกิจการครั้งนี้จะแล้วเสร็จ 1 พ.ย.2559 หลังจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น TCMC อนุมัติให้เข้าซื้อกิจการ TCMC จะถือหุ้นใน DMM 75% อีก 25% ยังคงเป็นของนายเดวิด ลี และนายมาร์ค สมิทธ์ ผู้ถือหุ้นเดิม
ประธานกรรมการบริหาร TCMC คาดว่า หลังจากสหราชอาณาจักรออกจากสหภาพยุโรปแล้ว ภาวะเศรษฐกิจภายในสหราชอาณาจักรจะยังคงทรงตัว และขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งรายได้จากการท่องเที่ยว ความสนใจเข้าลงทุนในกิจการของสหราชอาณาจักรจากนักลงทุนต่างชาติอย่างต่อเนื่อง และค่าเงินปอนด์ที่เคลื่อนไหวอย่างเหมาะสม
“การเปลี่ยนแปลงทุกครั้งทีทั้งด้านที่ดี และด้านที่ไม่ดี รัฐบาลของสหราชอาณาจักรน่าจะสามารถบริหารจัดการระบบเศรษฐกิจภายได้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะยังคงมีรายได้จากการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง โดยมีค่าเงินปอนด์ที่ต่ำเป็นปัจจัยกระตุ้นที่สำคัญ อีกทั้งการที่สหราชอาณาจักรไม่ต้องดำเนินการตามกฎเกณฑ์ของ EU หลายๆ อย่าง เช่น ไม่ต้องส่งเงินสนับสนุน ไม่ต้องเปิดรับผู้ผู้อพยบ ขณะเดียวกัน ประเทศใน EU ก็ยังต้องค้าขายกับสหราชอาณาจักรต่อไป ดังนั้น ระยะยาวน่าจะเป็นผลดีมากกว่า”
“พิมล” มั่นใจว่า DMM จะสร้างรายได้ให้ TCMC ทันที จากการนำเฟอร์นิเจอร์ DMM ไปร่วมงานเเอ็กซิบิชันใหญ่ๆ หลายประเทศต่างให้การตอบรับ และมียอดสั่งซื้อในทันที ดังนั้น TCMC จึงตั้งทีมขาย “ทำตลาด” ทันทีทั้งในจีน บรูไน ฮ่องกง ส่วนประเทศทางตะวันออกกลางให้ทางผู้ถือหุ้นเป็นผู้ดำเนินการ
“เรามีความชำนาญด้านการ “ขายปลีก” รุกตลาดลูกค้าโรงแรม อาคารสำนักงานขนาดใหญ่ ขณะที่พันธมิตรของเราชำนาญ “ขายส่ง” การนำศักยภาพมาเสริมกันน่าจะทำให้การตลาดของ DMM ขยายตัวอย่างก้าวกระโดด เวลา TCMC เข้าไปเสนองานก็จะสามารถให้คำปรึกษาได้ทั้งงานพรม และงานเฟอร์นิเจอร์ ทำให้การทำงานของเราง่ายขึ้น”
ทั้งนี้ ประธานกรรมการบริหาร TCMC คาดการณ์ผลการดำเนินงานทั้งปี 2559 ของ TCMC น่าจะขยายตัวได้มากกว่า 10% จากปี 2558 ที่มีรายได้รวม 2,396 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 117 ล้านบาท เนื่องจากผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปี 2559 TCMC มีรายได้รวม 1,691 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 102 ล้านบาท สำหรับรายได้ปี 2560 “พิมล” คาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้จากธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ มากกว่าธุรกิจหลักคือ พรม
“คาดว่าทั้งปี 2559 รายได้รวมน่าจะประมาณ 3 พันล้านบาท คำนวณจากรายได้จากอัลสตันส์ ผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์อังกฤษ ซึ่งมีรายได้ 1.5 พันล้านบาทต่อปี และ ที.ซี.เอซ ซูมิโนเอะของญี่ปุ่น ที่ทำธุรกิจผ้าหุ้มเบาะ และพรมในรถยนต์ที่ทางบริษัทฯ ได้เข้าไปซื้อกิจการก่อนหน้านี้ บวกกับ DMM มีรายได้กว่า 3,000 ล้านบาทต่อปี น่าจะช่วยหนุนผลประกอบการของ TCMC ให้ขยายตัวได้อย่างก้าวกระโดด”
นอกจากนี้ “พิมล” ยังอยู่ระหว่างมองหา และศึกษาการเข้าซื้อธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องต่อ TCMC อยู่ตลอดเวลา โดยธุรกิจที่จะเข้าลงทุน และให้ความสำคัญในการลงทุนจะต้องเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพ ขณะเดียวกัน พันธมิตรจะต้องทำงานร่วมกันได้ ทั้งทางด้านธุรกิจ และการพัฒนาสินค้า โดยต้องเป็นธุรกิจที่บริษัทมีความรู้ หรือสามารถเรียนรู้ได้
“ด้วยสถานะการเงินที่แข็งแกร่งของเรา พร้อมจะสร้างความเติบโตให้แก่ธุรกิจผ่านกลยุทธ์การควบรวมกิจการไปสู่ธุรกิจใหม่ โดยไม่จำกัดรูปแบบธุรกิจ และไม่จำกัดพรมแดน แต่จะมุ่งเน้นธุรกิจที่สอดคล้องกันที่สามารถพัฒนาต่อให้เกิดประโยชน์ต่อบริษัท” นายพิมล กล่าว