xs
xsm
sm
md
lg

บิ๊ก “บลจ.” โต้ข่าว “คสช.” เรียกปรับทัศนคติ ยอมรับ 8 บลจ. เข้าคุย “สมคิด” จริง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


นายกสมาคม บลจ. โต้ข่าว ผจก. กองทุนโดน คสช. เรียกไปปรับทัศนะคติ ยันข่าวที่แพร่ในไลน์ เป็นเรื่องเท็จของกลุ่มเล่นหุ้นที่ประสงค์ร้ายต่อ รบ. และความสงบของบ้านเมือง ยอมรับ รองฯ สมคิด นัด 8 บลจ. เข้าคุยจริง แต่เป็นการแลกเปลี่ยนมุมมอง ไม่ได้จับไปเขย่า หรือทุบเพื่อเค้นสอบถามอะไร พร้อมแจงสาเหตุ 3 บลจ. เทขายช่วงหุ้นดิ่ง ลั่นหาก ก.ล.ต. หรือ ตลท. จะตรวจสอบ ก็พร้อมสนับสนุนเต็มที่ อย่าปล่อยให้สังคมคลุมเครือ

นางวรวรรณ ธาราภูมิ นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน (บลจ.) เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊ก โดยระบุว่า เช้าวันนี้ (14 ต.ค.) ตนได้รับคำเชิญจาก นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีให้เข้าพบที่ทำเนียบรัฐบาลในช่วงเช้า ซึ่งมี 8 บลจ. เข้าร่วม ได้แก่ ค่ายกองทุนบัวหลวง กองทุนไทยพาณิชย์ กองทุนกรุงไทย กองทุน MFC กองทุนวรรณ กองทุน CIMBT กองทุนทหารไทย และกองทุนทิสโก้

พร้อมทั้งปฏิเสธกระแสข่าวลือในสื่อโซเชียลว่า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เรียกผู้จัดการกองทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) เข้าพบเพื่อปรับทัศนคติ

“ข่าวที่แพร่กระจายในไลน์ และที่ผู้สื่อข่าวโทรมาสอบถามว่า คสช. เรียกพวกเรา บลจ./ผู้จัดการกองทุน เข้าพบ เพื่อสอบถามถึงการขายหุ้นในช่วงก่อนหน้านี้ และอาจมีการปรับทัศนคติการลงทุนต่อจากนี้ให้อยู่ในวิสัยที่ถูกต้องนั้น เป็นข่าวเท็จทั้งสิ้น และจากคำว่า “ปรับทัศนคติ” นั้น คาดว่าน่าจะเป็นการส่งไลน์ ในกลุ่มเล่นหุ้นที่ประสงค์ร้ายต่อรัฐบาล และความสงบเรียบร้อยในบ้านเมือง”

ส่วนการหารือกับนายสมคิด เป็นการชี้แจงถึงความเชื่อมั่นจากภาคธุรกิจต่างประเทศที่มีต่อไทยเพิ่มขึ้น และเล่าถึงการเปลี่ยนผ่านภายในประเทศที่จะราบรื่น ขณะที่บรรดาผู้บริหารกองทุนได้เล่าถึงมุมมองต่ออนาคต และเล่าถึงคำถามจากผู้จัดการกองทุนต่างประเทศ ซึ่งไม่มีอะไรในเชิงลบ

“รองฯ สมคิด ไม่ได้จับเราไปเขย่า ไปทุบ หรือเค้นคอสอบถามอะไรเลยเกี่ยวกับการขายหุ้นของสถาบัน แต่ได้เล่าถึงความเชื่อมั่นจากภาคธุรกิจต่างประเทศที่มีต่อไทยเพิ่มขึ้น และเล่าถึงการเปลี่ยนผ่านภายในประเทศที่จะราบรื่น ส่วนพวกเราก็เล่าถึงมุมมองของเราที่มีต่ออนาคต เล่าถึงคำถามจากผู้จัดการกองทุนต่างประเทศ ซึ่งไม่มีอะไรในเชิงลบ ...ได้เรียนรองนายกฯ ไปว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น บาง บลจ. ซื้อสุทธิทุกวัน บางแห่งก็ขายสุทธิ แต่พวกเราเห็นกระแสเงินสดไหลเข้ามาซื้อกองทุนรวมหุ้นมากกว่าปกติ โดยเฉพาะใน LTF และ RMF ในทุกวันที่ตลาดกระชากลงแรงๆ”

นางวรวรรณ ระบุอีกว่า บลจ. แห่งหนึ่งที่มาประชุมด้วยนี้บอกว่า กองทุนของบริษัทต้องขายสุทธิ เพราะต้องจ่ายเงินให้ผู้เกษียณอายุสำหรับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพพอดี ส่วนอีก บลจ. บอกว่า จำเป็นต้องปรับการซื้อขายตามสภาพตลาด เพราะเป็น Index Fund ส่วน บลจ. อีกแห่งหนึ่งเล่ามาว่า ลูกค้า Private Fund และ Provident Fund ของเขาสั่ง Stop Loss จึงต้องทำตามคำสั่งลูกค้า

พร้อมทั้งชี้แจงเพิ่มเติมไปว่า ในเชิงจิตวิทยาการลงทุนนั้น ที่ผ่านมา มันมี Uncertainty จึงทำให้ผู้เล่นในตลาดที่ไม่เข้าใจ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มไหน มีปฏิกิริยา เพราะเขาไม่ชัดเจนในเรื่องนี้ อย่างไรก็ดี ค่ายกองทุนบัวหลวง ได้วิเคราะห์ Uncertainty จนเข้าใจ และมั่นใจว่า ผลจะออกมาอย่างไร เราจึงไม่หวั่นไหว

อนึ่ง ในช่วงที่เป็นข่าวว่า กองทุนทุบหุ้นนั้น กองทุนค่ายบัวหลวง ซื้อสุทธิทุกวัน ตั้งแต่วันที่ 10 ต.ค. ซึ่งสถาบัน Net Sell -7,268 ล้านบาท เพราะลูกค้าซื้อกองทุนเราเข้ามากว่า 2 พันล้านบาท และเราเห็นจังหวะที่ดีในตลาดด้วยที่ราคาหุ้นทรุดต่ำลง จึงเพิ่มเงินสดที่มีในพอร์ตเข้าไปซื้อร่วมด้วย รวมแล้วตั้งแต่วันที่ 10-13 ต.ค. ค่ายเราซื้อสุทธิให้กองทุนรวมไปทั้งหมดกว่า +3,800 ล้านบาท ไม่ได้รวมที่ซื้อสุทธิให้กองทุนสำรองเลี้ยงชีพอีกไม่น้อย ขณะที่สถาบันทั้งหมดในตลาดขายสุทธิ -2,119 ล้านบาท ในช่วงเวลาเดียวกัน

นางวรวรรณ ยังระบุเพิ่มเติมว่า อย่าหลงเชื่อการปล่อยข่าวบ่อนทำลายประเทศไทย และสถาบัน ไม่มีอะไรอย่างที่เป็นข่าวปล่อยเลย รวมทั้งข่าวที่ออกมาจากสำนักข่าวต่างประเทศด้วย

“สรุป คือ คสช. ไม่ได้พบพวกเรา ไม่ได้บีบคอให้ทำนั่นนี่เลยสักนิด อย่าเอาไปลือมั่วๆ ในไลน์ จะโดนจับข้อหาบิดเบือนทำราคาหุ้นได้ มีแต่รองนายกฯ สมคิด ที่แลกเปลี่ยนมุมมองถึงความมั่นใจในประเทศไทยกับพวกเรา และแม้ราชการจะหยุด แต่ตลาดเงิน ตลาดพันธบัตร กับตลาดหุ้นก็ไม่ปิดในวันนี้ ทุกอย่างเป็นปกติ ทั้งนี้ หากตลาดหลักทรัพย์ฯ และ ก.ล.ต. จะตรวจสอบพวกเรา ก็ขอสนับสนุนเต็มที่ อย่าปล่อยให้สังคมคลุมเครือ” นางวรวรรณ ระบุ


กำลังโหลดความคิดเห็น