ที่มา เฟซบุ๊ก
วรวรรณ ธาราภูมิ
14 ตุลาคม 2559
ข่าวที่กระจายในไลน์และที่ผู้สื่อข่าวโทร.มาสอบถามว่า คณะ คสช.เรียกพวกเรา บลจ./ผู้จัดการกองทุน เข้าพบเพื่อสอบถามถึงการขายหุ้นในช่วงก่อนหน้านี้ และอาจมีการปรับทัศนคติการลงทุนต่อจากนี้ให้อยู่ในวิสัยที่ถูกต้องนั้น เป็นข่าวเท็จทั้งสิ้น
และจากคำว่า “ปรับทัศนคติ” นั้น คาดว่าน่าจะเป็นการส่งไลน์ในกลุ่มเล่นหุ้นที่ประสงค์ร้ายต่อรัฐบาลและความสงบเรียบร้อยในบ้านเมือง
เช้านี้ 08.30 น.-09.15 น. พวกเรา บลจ.ทั้งหลายได้รับคำเชิญจากรองนายกฯ สมคิด ให้เข้าพบที่ทำเนียบรัฐบาลในช่วงเช้า ใครไปได้ก็ไป ใครติดอะไรก็ไม่ต้องไป ซึ่งมี 8 บลจ.ที่ไปได้ ได้แก่ ค่ายกองทุนบัวหลวง กองทุนไทยพาณิชย์ กองทุนกรุงไทย กองทุน MFC กองทุนวรรณ กองทุน CIMBT กองทุนทหารไทย และกองทุนทิสโก้ (ชื่อไม่ได้เรียงตามความใหญ่หรือความสำคัญ เรียงตามที่นึกออกมาได้) สำหรับค่ายอื่นๆ ไม่สามารถมาได้ เราก็จะเล่าให้พวกเขารับทราบ
รองฯ สมคิดไม่ได้จับเราไปเขย่า ไปทุบ หรือเค้นคอสอบถามอะไรเลยเกี่ยวกับการขายหุ้นของสถาบัน แต่ได้เล่าถึงความเชื่อมั่นจากภาคธุรกิจต่างประเทศที่มีต่อไทยเพิ่มขึ้น และเล่าถึงการเปลี่ยนผ่านภายในประเทศที่จะราบรื่น ส่วนพวกเราก็เล่าถึงมุมมองของเราที่มีต่ออนาคต เล่าถึงคำถามจากผู้จัดการกองทุนต่างประเทศ ซึ่งไม่มีอะไรในเชิงลบ
ได้เรียนรองนายกฯ ไปว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น บาง บลจ.ซื้อสุทธิทุกวัน บางแห่งก็ขายสุทธิ แต่พวกเราเห็นกระแสเงินสดไหลเข้ามาซื้อกองทุนรวมหุ้นมากกว่าปกติ โดยเฉพาะใน LTF และ RMF ในทุกวันที่ตลาดกระชากลงแรงๆ
บลจ.แห่งหนึ่งที่มาประชุมด้วยนี้ได้บอกว่าของเขาต้องขายสุทธิ เพราะต้องจ่ายเงินให้ผู้เกษียณสำหรับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพพอดี ส่วนอีก บลจ.บอกว่าเขาจำเป็นต้องปรับการซื้อขายตามสภาพตลาดเพราะของเขาเป็น Index Fund
ได้ชี้แจงเพิ่มเติมไปว่า ในเชิงจิตวิทยาการลงทุนนั้น ที่ผ่านมามันมี Uncertainty จึงทำให้ผู้เล่นในตลาดที่ไม่เข้าใจ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มไหนมีปฏิกิริยาเพราะเขาไม่ชัดเจนในเรื่องนี้ อย่างไรก็ดี ค่ายกองทุนบัวหลวงได้วิเคราะห์ Uncertainty จนเข้าใจ และมั่นใจว่าผลจะออกมาอย่างไร เราจึงไม่หวั่นไหวเลย
อนึ่ง ในช่วงที่เป็นข่าวว่ากองทุนทุบหุ้นนั้น กองทุนค่ายบัวหลวงซื้อสุทธิทุกวัน ตั้งแต่วันที่ 10 ต.ค. ซึ่งสถาบัน Net Sell - 7,268 ล้านบาท เพราะลูกค้าซื้อกองทุนเราเข้ามากว่า 2 พันล้านบาท และเราเห็นจังหวะที่ดีในตลาดด้วยที่ราคาหุ้นทรุดต่ำลง เราจึงเพิ่มเงินสดที่มีในพอร์ตเข้าไปซื้อร่วมด้วย ... สิริรวมแล้วตั้งแต่วันที่ 10-13 ต.ค. ค่ายเราซื้อสุทธิให้กองทุนรวมไปทั้งหมดกว่า +3,800 ล้านบาท (นี่ยังไม่ได้รวมที่เราซื้อสุทธิให้กองทุนสำรองเลี้ยงชีพอีกไม่น้อยด้วยนะ) ในขณะที่สถาบันทั้งหมดในตลาดขายสุทธิ - 2,119 ล้านบาท ในช่วงเวลาเดียวกัน (ย่อหน้านี้ไม่ได้เรียนรองสมคิดฯ)
ในตอนท้ายๆ พี่เรียนถามรองฯ สมคิดไปว่า เมื่อคืนได้ฟังนายกฯ ออกทีวีบอกขอความร่วมมือตลาดทุนอย่าตื่นตระหนก อย่าทุบ อย่าช้อน .... แปลว่าท่านไม่ให้เราซื้อหรือเปล่า?
รองสมคิดฯ หัวเราะ แล้วตอบว่า ไม่ใช่เช่นนั้น หากกองทุนมั่นใจก็ซื้อได้ แล้วแต่จะตัดสินใจกันเอง
สรุปคือ คสช. ไม่ได้พบพวกเรา ไม่ได้บีบคอให้ทำนั่นนี่เลยสักนิด อย่าเอาไปลือมั่วๆ ในไลน์ จะโดนจับข้อหาบิดเบือนทำราคาหุ้นได้ มีแต่รองนายกฯ สมคิด ที่แลกเปลี่ยนมุมมองถึงความมั่นใจในประเทศไทยกับพวกเรา และแม้ราชการจะหยุด แต่ตลาดเงิน ตลาดพันธบัตร กับตลาดหุ้นก็ไม่ปิดในวันนี้ ทุกอย่างเป็นปกติ
ทั้งนี้ หากตลาดฯ และ ก.ล.ต.จะตรวจสอบพวกเราก็ขอสนับสนุนเต็มที่ อย่าปล่อยให้สังคมคลุมเครือ