xs
xsm
sm
md
lg

FETCO ชี้ความเชื่อมั่นนักลงทุนลดลง แนะจับตาทิศทางเศรษฐกิจจากประเทศมหาอำนาจ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

คเณศ วังส์ไพจิตร ผู้อำนวยการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย
FETCO สำรวจนักลงทุนชี้ไตรมาสสุดท้าย เผยความเชื่อมั่นปรับตัวลดลงทุกกลุ่ม ส่งให้ดัชนีฯ อยู่ในกรอบทรงตัว ด้านนักลงทุนเริ่มส่งสัญญาณชะลอการลงทุน จับตาการรับมือมาตรการทางการเงินจากประเทศเศรษฐกิจสำคัญ

นายคเณศ วังส์ไพจิตร ผู้อำนวยการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence Index) ประจำเดือนตุลาคม 2559 ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้า ปรับตัวลดลงถึง 26.19% ส่งผลให้ดัชนีอยู่ในระดับทรงตัว โดยมีปัจจัยด้านการส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ซึ่งอาจส่งผลต่อกระแสเงินทุนโดยรวมของตลาดเกิดใหม่จากการไหลของเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติ เป็นตัวฉุดความเชื่อมั่นของนักลงทุน
 
โดยดัชนีความเชื่อมั่นในอีก 3 เดือนข้างหน้า (เดือนตุลาคม 2559) อยู่ที่ 103.84 อยู่ในเกณฑ์ “ทรงตัว” (Neutral) (ช่วงค่าดัชนีระหว่าง 0-200) ปรับตัวลดลง 26.19% จากเดือนที่ผ่านมา ที่ 140.68 ซึ่งดัชนีความเชื่อมั่นของนักลงทุนทุกกลุ่มอยู่ในระดับทรงตัว โดยดัชนีนักลงทุนต่างชาติปรับตัวลดลงถึง 36.36% ซึ่งความเชื่อมั่นของนักลงทุนกลุ่มอื่น ก็ปรับตัวลดลงไปในทิศทางเดียวกัน ขณะที่หมวดธุรกิจที่น่าสนใจมากที่สุด คือ บริการรับเหมาก่อสร้าง (CONS) ส่วนหมวดสื่อและสิ่งพิมพ์ (MEDIA) เป็นหมวดธุรกิจที่ไม่น่าสนใจมากที่สุด นอกจากนี้ ปัจจัยหนุนที่มีอิทธิพลต่อตลาดหุ้นไทยมากที่สุด คือ การไหลเข้าออกของเงินทุน ขณะที่ปัจจัยฉุดที่มีอิทธิพลต่อตลาดหุ้นไทยมากที่สุด คือ นโยบายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed)

อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ด้วยเม็ดเงินไหลเข้าตลาดเกิดใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดหุ้นไทยที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั่วโลก ทำให้มีการเติบโตอย่างโดดเด่นที่สุดในภูมิภาค แต่ในครึ่งปีหลัง โมเมนตัมการลงทุนก็ยังคงขึ้นอยู่กับความเสี่ยงจากปัจจัยต่างประเทศเป็นหลัก กอปรกับแนวโน้มเศรษฐกิจของไทยที่ยังคงฟื้นตัวอย่างช้าๆ เนื่องจากแรงขับเคลื่อนหลักจากการใช้จ่าย และการลงทุนภาครัฐส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจไปแล้วก่อนหน้านี้ และการส่งออกที่ยังคงหดตัวอย่างต่อเนื่องตามเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า ทำให้ทิศทางการลงทุนเริ่มส่งสัญญาณชะลอตัวลงอย่างเห็นได้ชัดในช่วงไตรมาส 4/2559

ด้าน นายเผดิมภพ สงเคราะห์ กรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการเงินทุนบุคคล บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า ควรเตรียมรับมือความผันผวนการเคลื่อนไหวของ SET Index โดยคาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้นด้วยความยากลำบากจาก Valuation ที่ตึงตัว และความผันผวนของกระแสเงินที่อาจไหลออกจากตลาดเกิดใหม่ หากโดนัลด์ ทรัมป์ มีแนวโน้มชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ กลยุทธ์การลงทุนจึงให้เน้นการปรับพอร์ตลงทุน เพื่อรับมือช่วงเวลาที่ยากลำบาก

ขณะที่ในส่วนของการเลือกตั้งประธานธิบดีสหรัฐฯ จะมีผลต่อกระแสเงิน และสินทรัพย์เสี่ยงนั้น มองว่า การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่จะมีขึ้นในวันที่ 8 พ.ย.59 จะเป็นประเด็นใหญ่ต่อการลงทุน และการเคลื่อนย้ายกระแสเงิน โดยเฉพาะในช่วงใกล้วันลงคะแนน หากผลสำรวจชี้ให้โดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้ง ด้วยนโยบายหาเสียงของทรัมป์ ทั้งการกีดกันการค้า และมาตรการภาษี เพื่อดึงดูดเงินเข้าสหรัฐฯ น่าจะทำให้กระแสเงินไหลเข้าเก็งกำไรใน US Dollar กระทบสกุลอื่นๆ

นอกจากนี้ ในส่วนของการที่โลกเข้าสู่ยุคดอกเบี้ยขาขึ้น หลัง Fed ส่งสัญญาณเตือนการขึ้นดอกเบี้ยก่อนสิ้นปี แม้ว่าผลการประชุม FOMC มีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยต่อไปตามเดิมที่ 0.25-0.50% แต่ Fed ก็ส่งสัญญาณชัดเจนที่จะมีการขึ้นดอกเบี้ย 1 ครั้งก่อนสิ้นปี และขึ้นต่อเนื่องอีกอย่างน้อย 2 ครั้งในปีหน้า ด้วยสัญญาณเตือนดังกล่าว เมื่อบวกด้วยผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป และธนาคารกลางญี่ปุ่นที่ผ่านไป เท่ากับเป็นการยืนยันว่า แนวโน้มการใช้นโยบายดอกเบี้ยต่ำ หรือติดลบได้จบไปแล้ว

ทั้งนี้ คงเป้าหมาย SET Index ปี 2559 ไว้ที่ 1,530 จุด และวางเป้าหมายปี 2560 ที่ 1,540 จุด ฝ่ายวิจัยคงเป้าหมาย SET Index ปี 2559 ไว้ที่ 1,530 จุด ส่วนเป้าหมายปี 2560 ตลาดจะเข้าสู่รูปแบบโตปกติแบบช้า (normalization) ดังนั้น ระดับ PE Ratio ที่นักลงทุนจะยอมรับได้ ควรต้องปรับลดลง ฝ่ายวิจัยคาดว่า PE สิ้นปี 2560 จะกลับลงมาสู่ค่าเฉลี่ยในรอบ 10 ปี ที่ 15.01 เท่า ซึ่งจะทำให้ได้ระดับดัชนีเป้าหมายปี 2560 ที่ 1,540 จุด
กำลังโหลดความคิดเห็น