ราคาทองคำในสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาผันผวนแกว่งตัวอยู่ในกรอบ โดยถูกกดดันจากการโต้วาทีระหว่าง นาง ฮิลลารี คลินตัน และนายโดนัลด์ ทรัมป์
ซึ่งดูเหมือนว่านางฮิลารี่ คลินตัน จะมีโอกาสที่จะเป็นประธานาธิบดีคนถัดไปของสหรัฐฯ กระแสการคาดการณ์ดังกล่าวทำให้เกิดแรงซื้อเข้ามาในสินทรัพย์เสี่ยง หรือตลาดหุ้นทั่วโลกให้ทะยานขึ้น และกดดันให้ราคาทองคำ หรือสินทรัพย์ปลอดภัยให้อ่อนตัว หรือปรับฐานลง แต่ราคาทองคำยังคงมีการฟื้นตัวได้บางในช่วงท้ายสัปดาห์ โดยได้รับแรงหนุนจากการดิ่งลงของตลาดหุ้นในฝั่งยุโรป โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มธนาคาร เมื่อดอยช์แบงก์ ซึ่งเป็นธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในเยอรมนี ถูกเรียกร้องค่าเสียหาย หรือค่าชดเชยจากการขายอัตราสารหนี้ ปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้เกิดความวิตกกังวล และมีการคาดการณ์ว่า ดีลเลอร์ หรือผู้ทำธุรกรรมธนาคารดังกล่าวอาจจะมีการถอนในส่วนของการทำธุรกรรมออกไป และส่งผลให้ตัวทองคำ หรือสินทรัพย์ปลอดภัยเริ่มมีการฟื้นตัวขึ้น ขณะที่นักลงทุนในตลาดทองคำยังคงจับตาดูทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ หลังจากในส่วนของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ และประธานเฟดในสาขาต่างๆ ยังคงมีการออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ยังคงขัดแย้งกัน
ปัจจัยที่ยังคงต้องจับตาในสัปดาห์นี้ ยังคงเป็นกระแสการคาดการณ์ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ เพราะส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของดัชนีดอลล่าร์ และราคาทองคำ ซึ่งนักลงทุนอาจจะใช้ข้อมูลเศรษฐกิจในฝั่งสหรัฐฯ เพื่อเป็นปัจจัยในการประกอบการตัดสินใจซึ่งหากตัวเลขเศรษฐกิจในฝั่งสหรัฐฯ ดี แนวโน้มที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะเวลาเร็วขึ้นอาจเป็นปัจจัยที่กลับมากดดันราคาทองคำ
โดยตัวเลขเศรษฐกิจในฝั่งสหรัฐฯ ที่จะเปิดเผยในสัปดาห์นี้จะมีดัชนีราคาผู้ผลิต หรือ PFI จาก ISM ในวันจันทร์ วันพุธ จะมีการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชน ADP ในส่วนของวันพฤหัสฯ จะเป็นการเปิดเผยจำนวนผู้ของรับสวัสดิการการว่างงานประจำสัปดาห์ วันศุกร์ จะเป็นตัวเลขจากการจ้างงานนอกภาคการเกษตร อัตราการว่างงาน และรายได้เฉลี่ยต่อ ชม.ซึ่งในส่วนของวันศุกร์ถือว่าเป็นตัวเลขตลาดแรงงานที่สำคัญประกาศเดือนละ 1 ครั้ง ซึ่งอาจจะส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองคำค่อนข้างมาก อย่างไรก็ตาม อัตราการซื้อขายทองคำในสัปดาห์นี้อาจจะเบาบางลง จีนจะหยุดวันชาติตลอดทั้งสัปดาห์ นักลงทุนชาวจีน หรือแรงซื้อแรงขายทางฝั่งจีนอาจจะชะลอตัวลง
กลยุทธ์การลงทุน ยังประเมินว่ายังเป็นลักษณะการแกว่งตัวอยู่ในกรอบ จะเห็นได้ค่อนข้างชัดว่า เมื่อราคามีการอ่อนตัวลง หรือมีการปรับฐานลงเข้าใกล้ระดับ 1,300 เหรียญดอลล่าร์/OZ เริ่มมีแรงซื้อหรือมีการดีดตัวที่ดีขึ้น ดังนั้น สัปดาห์นี้อาจจะต้องจับตาดูแนวรับในส่วนของบริเวณ 1,304-1,300 เหรียญดอลลาร์/OZ หากราคาอ่อนตัวลงมาหรือเข้าใกล้โซนดังกล่าวแล้วเกิดแรงซื้อ นักลงทุนสามารถเข้าซื้อเพื่อเกร็งกำไรระยะสั้นจากการดีดตัว ในระยะสั้นประเมินส่วนของแนวต้านในระดับ 1,339 เหรียญดอลลาร์/OZ หากราคามีการดีดตัวขึ้น และยังไม่มีปัจจัยบวกมากพอ อาจทยอยทองคำแบ่งออกขายเพื่อลดความเสี่ยง แต่หากสามารถขึ้นไปยืนเหนือโซนดังกล่าวได้อาจชะลอการขายไปยังแนวต้านถัดไปบริเวณ 1,352 เหรียญดอลลาร์/OZ ซึ่งบริเวณ 1,352-1,356 เหรียญดอลลาร์/OZ ถือเป็นระดับสูงสุดของเดือนกันยายน และนับเป็นระดับสูงสุดในช่วงเดือนสิงหาคม ระดับดังกล่าวถือเป็นแนวต้านสำคัญ หากราคายังไม่ผ่านอาจจะมีแรงขายที่เพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ นักลงทุนอาจจะต้องวางแผนอย่างรอบคอบ และเก็งกำไรระยะสั้นจากการแกว่งตัว
