บอร์ด “เจ มาร์ท” ไฟเขียวอนุมัติแผนปรับโครงสร้างธุรกิจ โดยการโอนกิจการบางส่วนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับโทรศัพท์มือถือไปยังบริษัทย่อย ภายใต้ชื่อ “เจมาร์ท โมบาย” พร้อมผันเป็น “เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้ง” และยังคงสถานะเป็นบริษัทมหาชน รุกการลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ ผู้บริหารเผยการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เป็นไปตามกลยุทธ์ที่วางไว้อยู่แล้ว จะช่วยเพิ่มโอกาส เพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารงาน และลดความเสี่ยงในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกัน คาดกระบวนการดังกล่าวจะเสร็จสิ้นภายในปี 2560 กำหนดวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น 16 พฤศจิกายนนี้
นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 4/2559 ของบริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2559 มีมติอนุมัติการปรับโครงสร้างกิจการโดยการโอนกิจการบางส่วนของบริษัท (Partial Business Transfer : PBT) ได้แก่ ธุกิจจัดจำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ อุปกรณ์เสริม และสินค้าเทคโนโลยี ทรัพย์สิน และหนี้สินทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง และที่ใช้ในการประกอบธุรกิจดังกล่าว รวมถึงบุคลากรที่เกี่ยวข้องให้แก่ บริษัท เจมาร์ท โมบาย จำกัด (Jaymart Mobile) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่จะตั้งขึ้นใหม่ โดย JMART จะถือหุ้นใน Jaymart Mobile ในสัดส่วนร้อยละ 99.99 ของทุนจดทะเบียนของ Jaymart Mobile
สำหรับแผนการปรับโครงสร้างดังกล่าวเสร็จสิ้น บริษัทฯ จะดำเนินการให้มีการจัดตั้งบริษัทโฮลดิ้ง ดำเนินธุรกิจด้านการลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ ที่น่าสนใจ ภายใต้ชื่อ บริษัท เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) และจะยังคงสถานะเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยคาดว่า กระบวนการโอนกิจการบางส่วนดังกล่าวจะใช้เวลาไม่เกิน 1 ปี คาดจะเริ่มดำเนินการภายในเดือนมกราคม 2560 และเสร็จสิ้นภายในรอบระยะเวลาบัญชีปี 2560
ทั้งนี้ บริษัทฯ กำหนดวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 2/2559 ในวันที่ 16 พฤศจิกายน 2559 เพื่อพิจารณา และอนุมัติแผนการปรับโครงสร้างกิจการดังกล่าว และกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิเข้าประชุม 11 ตุลาคม 2559 โดย ทั้งนี้ การปรับโครงสร้างกิจการบางส่วนดังกล่าวจะต้องได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ของจำนวนเสียงทั้งหมดของผู้ถือหุ้นที่มาประชุม และมีสิทธิออกเสียงลงคะแนน
“การปรับโครงสร้างกิจการในครั้งนี้นับเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ธุรกิจของเจมาร์ท กรุ๊ป ที่เราจะเดินไปในอนาคต เพื่อความชัดเจนในการบริหาร สร้างธุรกิจให้มีการเติบโตอย่างยั่งยืน เพิ่มความคล่องตัว และความยืดหยุ่นในการลงทุนดำเนินธุรกิจใหม่ๆ ซึ่งเป็นกลยุทธ์หลักของเจมาร์ท กรุ๊ป มาตั้งแต่ต้น และเชื่อว่า การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะสร้างโอกาสทางธุรกิจได้อีกมากมายจากผู้ร่วมทุน หรือพันธมิตรทางธุรกิจรายใหม่ที่จะเกิดขึ้น โดยที่ไม่ต้องร่วมลงทุน หรือรับความเสี่ยงในธุรกิจอื่นๆ ของกลุ่ม JMART ซึ่งจะช่วยเพิ่มความน่าสนใจในการลงทุน เพิ่มความสามารถในการแข่งขัน และเพิ่มผลตอบแทนให้ผู้ถือหุ้นในระยะยาว และสำหรับการพิจารณาการลงทุนในธุรกิจใหม่นั้น บริษัทจะยึดหลักผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นเป็นสำคัญ” นายอดิศักดิ์ กล่าว
นายอดิศักดิ์ กล่าวต่ออีกว่า ภายหลังการปรับโครงสร้างกิจการกรรมการในคณะกรรมการบริษัท และคณะกรรมการหลักส่วนใหญ่ จะยังคงเป็นกรรมการชุดเดิม โดยมี Jaymart Mobile เป็นบริษัทแกนของบริษัทโฮลดิ้ง
ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมา เจมาร์ท กรุ๊ป มีการกำหนดกลยุทธ์ “The Power of Synergy Chapter 1” ซึ่งเป็นการผนึกกำลังทางธุรกิจครั้งใหญ่ของกลุ่มธุรกิจโดยแท้จริง เพื่อสร้างการเติบโตไปพร้อมกันในฐานะผู้นำกลุ่มบริษัทค้าปลีกที่มีช่องทางการจำหน่ายที่เข้าถึงผู้บริโภคได้มากที่สุดในประเทศ
นำโดยบริษัท เจมาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART ผู้ประกอบธุรกิจจำหน่ายทั้งค้าปลีก และค้าส่งโทรศัพท์เคลื่อนที่ และสินค้าที่เกี่ยวข้องกับโทรศัพท์เคลื่อนที่ของผู้ผลิตโทรศัพท์เคลื่อนที่หลักทุกราย และผู้ให้บริการเครือข่ายทุกระบบ, บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT ประกอบธุรกิจติดตามหนี้สิน และบริหารหนี้ด้อยคุณภาพรายใหญ่ของประเทศไทย, บริษัท เจเอเอส แอสเซ็ท จำกัด (มหาชน) หรือ J ประกอบธุรกิจบริหารพื้นที่เช่าภายในศูนย์การค้าในส่วนของโทรศัพท์เคลื่อนที่ และสินค้าเทคโนโลยี รวมถึงธุรกิจ Community Mall และบริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SINGER ผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้เครื่องหมายการค้า “ซิงเกอร์” ทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน และสินค้าเชิงพาณิชย์ ทั้งนี้ มั่นใจเป้าหมายยอดขายของกลุ่มบริษัทเจมาร์ท ในปีนี้จะเป็นไปตามเป้าหมาย