“คลัง” สั่งตั้งทีมพิเศษตรวจสอบการเสียภาษีธุรกิจในออนไลน์ และโซเชียลเน็ตเวิร์ก หลังพบค้าขายกันเฟื่องฟู โดยมีทั้งเพจดัง เน็ตไอดอล หรือธุรกิจกึ่งบันเทิงทางออนไลน์ เช่น แอปพลิเคชันไอโชว์ หรือแอปพลิเคชันบีโกไลฟ์ เพื่อต้อนเข้าระบบเสียภาษีอย่างถูกต้อง แย้มเน็ตไอดอล ต้องเสียภาษีหลักเกณฑ์เดียวกับดารา นักแสดง ยอมรับที่ผ่านมา ไม่เคยจ่ายภาษีเลย
นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้ นายประภาศ คงเอียด รองปลัดกระทรวงการคลัง และกรมสรรพากร ตั้งคณะทำงานพิเศษ เพื่อตรวจสอบการเสียภาษี โดยเฉพาะธุรกิจบนออนไลน์ และโซเชียลเน็ตเวิร์ก ทั้งเพจดัง เน็ตไอดอล หรือธุรกิจกึ่งบันเทิงทางออนไลน์ เช่น แอปพลิเคชันไอโชว์ หรือแอปพลิเคชันบีโกไลฟ์ ว่ายื่นเสียภาษีถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ เนื่องจากธุรกิจดังกล่าวมีคนติดตามเป็นจำนวนมาก เมื่อมีการรับงานเข้ามา ทั้งการเป็นพรีเซ็นเตอร์ หรือขายของบนโซเชียลเน็ตเวิร์ก หากมีรายได้ จะต้องยื่นเสียภาษีให้ครบถ้วน และถูกต้อง
“ยอมรับว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องค่อนข้างอ่อนไหว จึงให้คณะทำงานพิเศษเข้าไปตรวจสอบ ทั้งรายละเอียด และข้อกฎหมาย และให้รายงานข้อสรุปภายในเดือน ก.ย.นี้ โดยยืนยันว่า การดำเนินงานครั้งนี้ไม่ได้มีเจตนาที่จะทำลายธุรกิจประกอบการค้าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (อี-คอมเมิร์ซ) แต่ตามหลักเกณฑ์ และกฎหมายแล้ว หากประกอบธุรกิจเมื่อมีรายได้ก็ต้องยื่นเสียภาษีให้ถูกต้อง เพราะการเสียภาษีนั้น ถือว่าเป็นหน้าที่ของพลเมืองไทยที่ดี”
รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง ระบุว่า ปัจจุบันมีหลายบริษัททำการตลาดผ่านออนไลน์ และโซเชียลเน็ตเวิร์กจำนวนมาก ทั้งการติดต่อไปยังเพจดัง เน็ตไอดอล ให้ช่วยแนะนำสินค้า หรือเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้ เนื่องจากทั้ง 2 กลุ่มนี้มีผู้ติดตามจำนวนมาก ทำให้กระทรวงการคลัง และกรมสรรพากร ต้องเข้าไปตรวจสอบว่า เสียภาษีตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้หรือไม่ เพราะขณะนี้พบว่า มีเพจดัง เน็ตไอดอลส่วนใหญ่ ยังไม่ได้ยื่นเสียภาษีให้ถูกต้อง ทั้งนี้ หากไม่ยื่นแบบเสียภาษีให้ถูกต้อง จะได้รับโทษ ทั้งเบี้ยปรับเงินเพิ่ม และถึงจำคุก
“ถ้าไม่ยื่นแบบเสียภาษีให้ถูกต้องจะได้รับโทษ ได้แก่ หากไม่ยื่นเสียภาษีภายในเวลาที่กำหนด ปรับไม่เกิน 2,000 บาท, รายได้ถึงเกณฑ์ที่จะต้องเสียภาษี แต่ไม่ไปเสียภาษี โทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท จำคุกไม่เกิน 6 เดือน และต้องเสียเงินเพิ่มอีก 1.5% ต่อเดือนจนกว่าจะเสียภาษี”
ส่วนกรณีที่ไม่ได้ยื่นแบบ หรือยื่นแบบแล้ว แต่ชำระภาษีขาดไป หากถูกพนักงานตรวจสอบ และออกหมายเรียก นอกจากจะต้องเสียเงินเพิ่มแล้ว ยังเสียเบี้ยปรับอีก 1 เท่า หรือ 2 เท่าของภาษีที่ต้องชำระอีก แต่ถ้าจงใจแจ้งข้อความเท็จ แสดงหลักฐานเท็จ หรือฉ้อโกง เพื่อหลีกเลี่ยงภาษี มีโทษจำคุกตั้งแต่ 3 เดือนถึง 7 ปี และปรับตั้งแต่ 2,000-200,000 บาท
สำหรับเกณฑ์การเสียภาษีที่กฎหมายที่กำหนดไว้ เมื่อเพจดัง เน็ตไอดอลบนโซเชียลเน็ตเวิร์ก ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง หากรับงานเป็นพรีเซ็นเตอร์ จะมีลักษณะคล้ายคลึงกับการเสียภาษีของดารา นักแสดงที่ต้องจ่ายภาษีหัก ณ ที่จ่าย ในอัตรา 5% ด้วย และยังต้องเสียในอัตราตามเกณฑ์ หากเป็นบุคคลธรรมดา เนื่องจากเป็นที่รู้จักวงกว้าง และใช้ชื่อเสียงสร้างรายได้ให้กับตนเอง เรียกได้ว่า อาจเป็นบุคคลสาธารณะที่มีคนรู้จักกันเป็นจำนวนมาก หากไม่ยื่นเสียภาษีตามที่กำหนดไว้กรมสรรพากร เข้าไปตรวจสอบ และเรียกเก็บภาษีย้อนหลังได้ เหมือนกับดารา นักแสดงที่โดนสอบย้อนหลัง และได้เรียกเก็บภาษีอยู่หลายรายในช่วงก่อนหน้านี้