บอร์ด “ทาพาโก้” อนุมัติเพิ่มทุน 56.82 ล้านหุ้น จัดสรรให้ผู้ถือหุ้นเดิมในอัตราส่วน 4 ต่อ 1 ราคาหุ้นละ 2.60 บาท เพื่อนำเงินไปรองรับการขยายกำลังการผลิต และจ่ายหนี้เงินกู้ ขณะผลงานงวด 9 เดือนเริ่มรับรู้รายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในสวีเดน หนุนกำไรสุทธิสูงถึง 78.79 ล้านบาท
นายโสฬส ตั้งในธรรม กรรมการ บริษัท ทาพาโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ TAPAC แจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการเมื่อวันที่ 14 ก.ย.2559 ว่า คณะกรรการได้อนุมัติเพิ่มทุนจดทะเบียนจากเดิม 227,267,158 บาท ทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 187,977,321 บาท เป็นทุนจดทะเบียน 284,083,937 บาท ด้วยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่เป็นจานวนไม่เกิน 56,816,779 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท เพื่อรองรับการขยายกำลังการผลิต การชำระคืนเงินกู้ยืม และเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในธุรกิจผลิตชิ้นส่วนพลาสติก
โดยแบ่งการจัดสรร จำนวน 46,994,331 หุ้น เสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (Right Offering) ในอัตราส่วน 4 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1 หุ้นสามัญใหม่ (ในกรณีที่มีเศษของหุ้นจากการคำนวณ ให้ตัดเศษหุ้นนั้นทิ้ง) ที่ราคาเสนอขาย 2.60 บาทต่อหุ้น โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้น
โดยวิธีปิดสมุดทะเบียน ณ วันที่ 18 พฤศจิกายน 2559 และกำหนดวันจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนในวันที่ 12-16 ธันวาคม 2559 ส่วนหุ้นสามัญ จำนวน 9,822,448 หุ้น จัดสรรเพื่อรองรับการปรับสิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทครั้งที่ 2 (TAPAC-W2) ที่ได้ใช้สิทธิในการแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญในวันที่ 31 ตุลาคม 2559 ซึ่งจะได้รับสิทธิในการซื้อหุ้นเพิ่มทุน (Right Offering) ในอัตราส่วน 4 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1 หุ้นสามัญใหม่ (ในกรณีที่มีเศษของหุ้นจากการคำนวณ ให้ตัดเศษหุ้นนั้นทิ้ง) ที่ราคาเสนอขาย 2.60 บาทต่อหุ้น โดยผู้ถือหุ้นไม่มีสิทธิจองซื้อหุ้นเกินกว่าสิทธิที่ผู้ถือหุ้นมี บริษัทได้มีการสารองหุ้นให้แก่ผู้ถือ TAPAC-W2 ที่มาใช้สิทธิแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญในวันที่ 31 ตุลาคม 2559 โดยตั้งสมมติฐานว่ามีผู้มาใช้สิทธิครบทั้งจำนวน TAPAC-W2 ที่คงเหลืออยู่ ณ ปัจจุบัน
ทั้งนี้ บริษัทได้กำหนดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาเรื่องการเพิ่มทุน ในวันที่ 26 ต.ค. 59 และปิดสมุดทะเบียนเพื่อรวมรวบรายชื่อผู้มีสิทธิเข้าร่วมประชุมในวันที่ 30 กันยายน 59 พร้อมกันนี้ บริษัทได้แจ้งผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 3 สิ้นสุดณ วันที่ 31 กรกฎาคม 59 ว่า บริษัท และบริษัทรวมมีกำไรสุทธิ 31.65
ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.18 บาท เทียบกับปีก่อนกำไรสุทธิ 6.89 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.05 บาท ขณะที่งวด 9 เดือน กำไรสุทธิ 78.76 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.46 บาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนกำไรสุทธิ 18.44 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.12 บาท
นายโสฬส กล่าวว่า สาเหตุที่ทำให้กำไรสุทธิไตรมาส 3/59 เพิ่มขึ้น สืบเนื่องจากบริษัทฯ ได้มีการลงทุนในธุรกิจก่อสร้าง และอสังหาริมทรัพย์ในประเทศสวีเดน ทำให้บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีรายได้จากการขาย การให้บริการ และรายได้ค่าก่อสร้าง ในไตรมาส 3/59 อยู่ที่ 490.582 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีรายได้จากการขาย และการให้บริการอยู่ที่ 178.517 ล้านบาท เพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 174.81 ขณะเดียวกัน บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีค่าใช้จ่ายในการขาย และบริหารในไตรมาส 3/59 อยู่ที่ร้อยละ 9.07 ของรายรับรวมลดลง เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 15.03
นายโสฬส ตั้งในธรรม กรรมการ บริษัท ทาพาโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ TAPAC แจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการเมื่อวันที่ 14 ก.ย.2559 ว่า คณะกรรการได้อนุมัติเพิ่มทุนจดทะเบียนจากเดิม 227,267,158 บาท ทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 187,977,321 บาท เป็นทุนจดทะเบียน 284,083,937 บาท ด้วยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่เป็นจานวนไม่เกิน 56,816,779 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท เพื่อรองรับการขยายกำลังการผลิต การชำระคืนเงินกู้ยืม และเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในธุรกิจผลิตชิ้นส่วนพลาสติก
โดยแบ่งการจัดสรร จำนวน 46,994,331 หุ้น เสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (Right Offering) ในอัตราส่วน 4 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1 หุ้นสามัญใหม่ (ในกรณีที่มีเศษของหุ้นจากการคำนวณ ให้ตัดเศษหุ้นนั้นทิ้ง) ที่ราคาเสนอขาย 2.60 บาทต่อหุ้น โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้น
โดยวิธีปิดสมุดทะเบียน ณ วันที่ 18 พฤศจิกายน 2559 และกำหนดวันจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนในวันที่ 12-16 ธันวาคม 2559 ส่วนหุ้นสามัญ จำนวน 9,822,448 หุ้น จัดสรรเพื่อรองรับการปรับสิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทครั้งที่ 2 (TAPAC-W2) ที่ได้ใช้สิทธิในการแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญในวันที่ 31 ตุลาคม 2559 ซึ่งจะได้รับสิทธิในการซื้อหุ้นเพิ่มทุน (Right Offering) ในอัตราส่วน 4 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1 หุ้นสามัญใหม่ (ในกรณีที่มีเศษของหุ้นจากการคำนวณ ให้ตัดเศษหุ้นนั้นทิ้ง) ที่ราคาเสนอขาย 2.60 บาทต่อหุ้น โดยผู้ถือหุ้นไม่มีสิทธิจองซื้อหุ้นเกินกว่าสิทธิที่ผู้ถือหุ้นมี บริษัทได้มีการสารองหุ้นให้แก่ผู้ถือ TAPAC-W2 ที่มาใช้สิทธิแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญในวันที่ 31 ตุลาคม 2559 โดยตั้งสมมติฐานว่ามีผู้มาใช้สิทธิครบทั้งจำนวน TAPAC-W2 ที่คงเหลืออยู่ ณ ปัจจุบัน
ทั้งนี้ บริษัทได้กำหนดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาเรื่องการเพิ่มทุน ในวันที่ 26 ต.ค. 59 และปิดสมุดทะเบียนเพื่อรวมรวบรายชื่อผู้มีสิทธิเข้าร่วมประชุมในวันที่ 30 กันยายน 59 พร้อมกันนี้ บริษัทได้แจ้งผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 3 สิ้นสุดณ วันที่ 31 กรกฎาคม 59 ว่า บริษัท และบริษัทรวมมีกำไรสุทธิ 31.65
ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.18 บาท เทียบกับปีก่อนกำไรสุทธิ 6.89 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.05 บาท ขณะที่งวด 9 เดือน กำไรสุทธิ 78.76 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.46 บาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนกำไรสุทธิ 18.44 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.12 บาท
นายโสฬส กล่าวว่า สาเหตุที่ทำให้กำไรสุทธิไตรมาส 3/59 เพิ่มขึ้น สืบเนื่องจากบริษัทฯ ได้มีการลงทุนในธุรกิจก่อสร้าง และอสังหาริมทรัพย์ในประเทศสวีเดน ทำให้บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีรายได้จากการขาย การให้บริการ และรายได้ค่าก่อสร้าง ในไตรมาส 3/59 อยู่ที่ 490.582 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีรายได้จากการขาย และการให้บริการอยู่ที่ 178.517 ล้านบาท เพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 174.81 ขณะเดียวกัน บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีค่าใช้จ่ายในการขาย และบริหารในไตรมาส 3/59 อยู่ที่ร้อยละ 9.07 ของรายรับรวมลดลง เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 15.03