โบรกฯ มองแนวโน้มดัชนีเช้านี้ยังน่าจะรีบาวนด์ช่วงสั้นสลับขายทำกำไร ลุ้นแรงซื้อ “กองทุน-ต่างชาติ” ลุยตลาดปรับขึ้นต่อเนื่อง โดยยังคงมีปัจจัยสนับสนุนจากการปรับพอร์ตของต่างชาติ ตามการให้น้ำหนักการลงทุนใน FTSE ที่คาดว่าจะมีเม็ดเงินเข้ามา 620 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งนับตั้งแต่ปลายเดือน ส.ค.จนถึงปัจจุบันมีแรงซื้อเข้ามา 12,000 ล้านบาท คงเหลืออีกประมาณ 9,000 ล้านบาท ที่จะต้องปรับพอร์ตให้ทัน Dateline ในวันศุกร์นี้
นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ (14 ก.ย.) คาดว่าจะรีบาวนด์ในช่วงสั้น แต่อาจเผชิญแรงขายทำกำไรสลับออกมาหลังจากวานนี้ (13 ก.ย.) ปรับขึ้นไปแรง โดยมองว่าแรงซื้อของกองทุน และนักลงทุนต่างชาติยังน่าจะเป็นแรงหนุนโมเมนตัมต่อเนื่องมาถึงวันนี้ด้วย
นอกจากนี้ ตลาดฯ ยังคงมีปัจจัยสนับสนุนจากการปรับพอร์ตของต่างชาติ ตามการให้น้ำหนักการลงทุนใน FTSE ที่คาดว่าจะมีเม็ดเงินเข้ามา 620 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งนับตั้งแต่ปลายเดือน ส.ค.จนถึงปัจจุบันมีแรงซื้อเข้ามา 12,000 ล้านบาท คงเหลืออีกประมาณ 9,000 ล้านบาท ที่จะต้องปรับพอร์ตให้ทัน Dateline ในวันศุกร์นี้ (16 ก.ย.)
ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบไร้ทิศทาง โดยยังมีความกังวลการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) แม้คาดว่าจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ แต่ก็ยังอาจปรับขึ้นในเดือน ธ.ค.ทำให้ตลาดฯ มองความเสี่ยงจากประเด็นนี้ ซึ่งจะต้องติดตามความชัดเจนจากการประชุมเฟดวันที่ 20-21 ก.ย.นี้ ขณะที่ในวันพรุ่งนี้ (15 ก.ย.) ให้ติดตามการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) แม้เชื่อว่าคงไม่มีมาตรการใดๆ ออกมา
อนึ่ง วันนี้จะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ซึ่งตลาดฯ คาดว่าน่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.50%
อีกทั้งเมื่อคืนที่ผ่านมา ราคาน้ำมันก็ได้ปรับตัวลง จากคาดการณ์ว่า ความต้องการใช้น้ำมันในปีหน้ายังคงชะลอตัว แต่เช้านี้ราคาน้ำมันฟิวเจอร์สรีบาวนด์ขึ้นมาบ้างแล้ว ทำให้ปัจจัยดังกล่าวยังไม่แน่นอน พร้อมให้แนวรับ 1,438 จุด ส่วนแนวต้าน 1,451-1,460 จุด
