โบรกฯ มั่นใจเฟดไม่ขึ้นดอกเบี้ยจนกว่าเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐจะแล้วเสร็จ คาดปรับขึ้นจิ๊บๆ ในไตรมาส 1 ปีหน้า ไม่เกิน 0.25% เหตุเศรษฐกิจยังฟื้นตัวไม่ชัด หนุน Fund Flow ไหลเข้าตลาดหุ้นไทย ดัน SET ขึ้นไปทดสอบระดับ 1,600 จุด ในปีนี้แนะหาจังหวะขายทำกำไร รอไปตั้งรับแถว 1,400-1,500 จุด ปี 2560 ดัชนีมีโอกาสทะยานแตะ 1,700-1,800 จุด
นายประภาส ตันพิบูลย์ศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทาลิส จำกัด เปิดเผยว่า โอกาสในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในช่วงปลายปีนี้ มีความเป็นไปได้น้อยกว่า 50% ซึ่ง บลจ.ทาลิส ประเมินว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยน่าจะเกิดขึ้นในช่วงไตรมาส 1/60 มากกว่า และไม่น่าจะปรับขึ้นเกิน 0.25% เนื่องจากสัญญาณการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจยังไม่มีความชัดเจนว่าจะเป็นไปอย่างเข้มแข็ง และอย่างยั่งยืน ประกอบกับตามธรรมเนียมแล้วธนาคารกลางสหรัฐ จะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐที่จะมีขึ้นในช่วงเดือน พ.ย.2559
“ ในช่วงก่อนเดือน พ.ย.นี้ เฟดไม่น่าจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งน่าจะมีการปรับขึ้นในช่วงหลังที่มีการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐแล้วเสร็จ และหากจะมีการปรับขึ้นในเดือน ธ.ค. ก็น่าจะเร็วเกินไป เพราะเมื่อหลังจากประเทศสหรัฐฯ มีประธานาธิบดีคนใหม่แล้ว เฟดต้อนรับด้วยการขึ้นดอกเบี้ยเลยก็ถือว่าเป็นอะไรที่แรงไปพอสมควร ดังนั้น เรื่องนี้น่าจะเกิดขึ้นในช่วงไตรมาส1/60”
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าตอนนี้ตัวเลขเศรษฐกิจในหลายๆ ตัวจะส่งสัญญาณเป็นบวก แต่อย่างไรก็ตาม มีสัญญาณเตือนจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังมีโอกาสชะลอตัวได้อยู่ ดังนั้น หากมีการประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย อาจส่งผลให้เศรษฐกิจในระยะปานกลางเกิดการชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง
“จะเห็นได้ว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เฟดได้ส่งสัญญาณที่จะปรับขึ้นดอกเบี้ยในปี 2559 หลายครั้ง แต่ก็ยังไม่สามารถดำเนินการได้ แสดงได้ว่าเฟดให้ความสำคัญ และติดตามตัวเลขเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด ซึ่งหากไม่มีสัญญาณที่ชัดเจนว่าเศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างยั่งยืน ก็เชื่อว่าจะยังไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ย”
ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวของเงินทุนต่างประเทศ ภายใต้สมมติฐานเฟดยังไม่ขึ้นดอกเบี้ยภายในปีนี้ว่า จะทำให้เงินทุนจากต่างประเทศไหลเข้ามาลงทุนในภูมิภาคเอเชีย รวมถึงตลาดหุ้นไทยอย่างต่อเนื่องอีกในช่วง ก.ย.-ต.ค.นี้ หลังจากที่มีเข้ามาตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันแล้วราว 1.1 แสนล้านบาท จากนั้น จะเริ่มชะลอตัวลงในช่วงเดือน พ.ย.ที่เป็นช่วงการเลือกตั้งในสหรัฐฯ และเดือน ธ.ค.ที่เป็นช่วงหยุดยาวในเทศกาลสิ้นปี
ดังนั้น ดัชนีตลาดหุ้นไทยในช่วงที่เหลือของปีมีโอกาสปรับตัวขึ้นไปแตะระดับ 1,600 จุด ซึ่งเป็นระดับที่ควรขายทำกำไร และให้รอซื้อกลับที่บริเวณ 1,400-1,500 จุด ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยในปี 2560 คาดว่าจะเติบโตได้อีก 10-15% ดัชนีฯ มีโอกาสปรับตัวขึ้นแตะระดับ 1,700-1,800 จุด