บล.โกลเบล็ก เผยตลาดหุ้นไทยได้รับอานิสงส์จากราคาน้ำมันดีดตัวขึ้นใกล้ 50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล จากคาดการณ์การประชุมกลุ่มใน-นอกโอเปก อาจลดผลิตน้ำมันลง แต่แนะจับตาเฟดแถลงทิศทางดอกเบี้ย 26 ส.ค.นี้ ให้กรอบดัชนี 1,520-1,550 จุด แนะลงทุนหุ้นกลุ่มพลังงานวันที่ 25 ส.ค. จะมีการประกาศรายชื่อผู้ได้โครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลภาคใต้ 36 เมกะวัตต์ ชู TPCH- FPI-ECF ด้านราคาทองคำมีแนวโน้มปรับลงต่อ โดยมีแนวรับ 1,310-1,305 เหรียญสหรัฐต่อทรอยออนซ์ และแนวต้าน 1,360-1,365 เหรียญสหรัฐต่อทรอยออนซ์
นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS เปิดเผยว่า ทิศทางตลาดหุ้นไทยสะท้อนปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันดีดตัวขึ้นใกล้ 50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล จากคาดการณ์การประชุมประเทศผู้ผลิตน้ำมันใน และนอกโอเปก ในเดือน ก.ย. อาจปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันลง ประกอบกับการที่นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทย 2 เดือน (ก.ค.-ส.ค.) 7.2 หมื่นล้านบาท รวมถึงการที่รัฐบาลญี่ปุ่น มีแผนจะใช้จ่ายงบประมาณ 4.52 ล้านล้านเยน (4.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นพ้นจากภาวะเงินฝืด
สำหรับปัจจัยที่คาดว่าจะส่งผลเชิงลบต่อทิศทางตลาดหุ้นไทยได้ ได้แก่ กระทรวงพาณิชย์ มีแนวโน้มลดเป้าส่งออกปีนี้ เนื่องจากมีข้อจำกัดในเรื่องการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก และค่าเงินบาทที่ผันผวน ทั้งนี้ การส่งออกในช่วงครึ่งปีแรกหดตัว 1.6% และการที่อังกฤษเตรียมใช้มาตรการ 50 เพื่อเริ่มการเจรจาถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ภายในช่วงครึ่งแรกของปี 2560
นอกจากนี้ ยังคงต้องจับตาปัจจัยที่มีผลการลงทุน เช่น วันที่ 25 ส.ค.ประกาศรายชื่อผู้ได้โครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลภาคใต้ 36 เมกะวัตต์ วันที่ 26 ส.ค. การประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ ซึ่ง นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด อาจมีการส่งสัญญาณเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ และวันที่ 29 ส.ค. ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย
นายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ภาวะตลาดหุ้นทั่วโลกพุ่งเป้าไปที่คำแถลงของ Fed ในการประชุมประจำปีวันที่ 26 ส.ค. เกี่ยวกับแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ส่งผลให้ Fund Flow ต่างชาติชะลอการเข้าซื้อ ประกอบกับตลาดหุ้นไทยขาดปัจจัยใหม่กระตุ้นการลงทุน หลังจากประกาศงบ Q2/59 ไปแล้ว
ดังนั้น ประเมินว่า SET จะแกว่งตัวในกรอบ 1,520-1,550 จุด โดยแนะนำซื้อเก็งกำไรแบบ Selective Buy ได้แก่ กลุ่มพลังงาน โดยในวันที่ 25 ส.ค. จะมีการประกาศรายชื่อผู้ได้โครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลภาคใต้ 36 เมกะวัตต์ ได้แก่ TPCH, FPI และ ECF รวมถึงหุ้นที่ได้รับอานิสงส์จากการที่ ขสมก.เดินหน้าโครงการรถเมล์ไฟฟ้าล็อตแรก ต.ค.59 ตามโรดแมปนายกฯ เต็มระบบ 200 คัน งบ 3 พันล้าน ได้แก่ LOXLEY และกลุ่มปันผลครึ่งปีโดดเด่น ได้แก่ INTUCH, ADVANC, TCAP และ KKP
สำหรับแนวทางการลงทุนในทองคำ นายสุทธิพงษ์ ศรีพรประเสริฐ นักวิเคราะห์การลงทุน บล.โกลเบล็ก เปิดเผยว่า ราคาทองคำแกว่งตัวผันผวน ก่อนปรับลงจากความกังวลว่า เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้านี้ หลังเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟดหลายรายออกมาให้ความเห็นสอดคล้องกันว่า เฟดมีแนวโน้มจะปรับขึ้นดอกเบี้ย โดยประธานเฟด สาขาซานฟรานซิสโก ระบุว่า เมื่อพิจารณาในแง่ของเศรษฐกิจแล้ว ในเดือน ก.ย. ดูมีความเป็นไปได้ในการปรับขึ้นดอกเบี้ย ประกอบกับประธานเฟด สาขานิวยอร์ก เผยว่า มีความเป็นไปได้ที่เฟด จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย.นี้ ขณะที่ประธานเฟด สาขาแอตแลนตา เผยเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีความแข็งแกร่งเพียงพอที่จะรองรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 1 ครั้งก่อนสิ้นปีนี้
ขณะที่นักวิเคราะห์จากธนาคารยูบีเอส และธนาคารบาร์เคลย์ส มีความเห็นเห็นสอดคล้องกันว่า นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด จะส่งสัญญาณเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมที่แจ็กสัน โฮล ในวันศุกร์ที่ 26 ส.ค.นี้ พร้อมกับแสดงมุมมองที่เป็นบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ ซึ่งจะเป็นปัจจัยลบต่อราคาทองคำ
ดังนั้น ประเมินแนวโน้มราคาทองคำปรับลงมาต่ำกว่าแนวรับเส้น 5 และ 10 วัน ด้วยแนวเรียงตัวแท่งเทียนสัญญาณลบ รวมถึงค่าสัญญาณทางเทคนิคที่ปรับลง ทำให้ราคามีแนวโน้มปรับลงต่อในแนวลงรูปแบบ Bearish Flag โดยมีแนวรับ 1,310-1,305 เหรียญสหรัฐต่อทรอยออนซ์ และแนวต้าน 1,360-1,365 เหรียญสหรัฐต่อทรอยออนซ์