รอยเตอร์ - ทางการสิงคโปร์ได้อายัดทรัพย์สินมูลค่า 240 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ที่อาจเชื่อมโยงกับการทุจริตฟอกเงินภายในกองทุน วัน มาเลเซีย ดีเวลลอปเมนต์ เบอร์ฮัด (1MDB) ของรัฐบาลมาเลเซีย โดยกระบวนการสอบสวนยังเผยให้เห็นถึง “ความบกพร่อง” ของสถาบันการเงินชั้นนำหลายแห่งในเกาะศูนย์กลางการเงินแห่งนี้ด้วย
“การเคลื่อนย้ายเงินทุนที่เราได้ทำการตรวจสอบยังพัวพันไปถึงบริษัท Good Star Limited (Seychelles), บริษัท Aabar Investments PJS Limited (BVI) และ Tanore Finance Corp. (BVI)” คำแถลงร่วมระหว่างธนาคารกลางสิงคโปร์ (Monetary Authority of Singapore), สำนักงานอัยการสูงสุด และกรมกิจการการค้า ระบุ
ถ้อยแถลงของสิงคโปร์มีขึ้นหลังจากที่อัยการสหรัฐฯ ได้สั่งฟ้องเพื่ออายัดทรัพย์สินมูลค่ากว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่เชื่อว่ามีความเชื่อมโยงกับเงินทุนที่ยักยอกมาจาก 1MDB ซึ่งเป็นกองทุนเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจระยะยาวที่นายกรัฐมนตรี นาจิบ ราซัค แห่งมาเลเซียก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2009
ธนาคารกลางสิงคโปร์ระบุว่า กระบวนการสอบสวนธนาคารดีบีเอส, ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด และธนาคารยูบีเอส ได้เสร็จสิ้นลงแล้ว ซึ่งเบื้องต้นพบว่าสถาบันการเงินทั้ง 3 แห่งมีความบกพร่องในส่วนของการควบคุม (control failings) อีกทั้งขั้นตอนการรับลูกค้าและตรวจสอบการทำธุรกรรมการเงินก็ “อ่อนแอ” ด้วย
“อย่างไรก็ตาม ผลการตรวจสอบไม่พบความบกพร่องในวงกว้าง และไม่พบการกระทำทุจริตของพนักงานในธนาคารทั้ง 3 แห่ง ซึ่งแตกต่างจากกรณีของธนาคารบีเอสไอ” คำแถลงจากธนาคารกลางสิงคโปร์ระบุ
เมื่อวันที่ 24 พ.ค. ธนาคารกลางสิงคโปร์ได้สั่งปิดธนาคารบีเอสไอสัญชาติสวิตเซอร์แลนด์ ฐานฝ่าฝืนกฎหมายว่าด้วยการฟอกเงินอย่างร้ายแรง และจากการตรวจสอบธนาคารฟอลคอน พีบีเอส สัญชาติสวิส เมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ก็พบว่ามีการละเมิดกฎหมายฟอกเงินเช่นกัน
สำหรับทรัพย์สินที่ทางการสิงคโปร์อายัดไว้นั้น ครึ่งหนึ่งเป็นของนักการเงินชาวมาเลเซีย โลว์ แต็ก-โจ (Low Taek Jho) หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า โจ โลว์ รวมถึงสมาชิกในครอบครัวของเขา
กระบวนการตรวจสอบยังคงดำเนินต่อไป และรัฐบาลสิงคโปร์ได้ร้องขอข้อมูลจากต่างประเทศเพื่อนำมาประกอบการพิจารณาด้วย
“เราจะมีมาตรการที่เหมาะสมต่อทุกๆ คนที่ฝ่าฝืนกฎหมายสิงคโปร์” คำแถลงระบุ
เรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับการยักยอกเงินหลายพันล้านดอลลาร์ไปจากกองทุน 1MDB ได้บั่นทอนภาพลักษณ์ของรัฐบาลนาจิบอย่างรุนแรง
เจ้าหน้าที่จากหลายประเทศ ตั้งแต่สิงคโปร์ สวิตเซอร์แลนด์ เรื่อยไปจนถึงสหรัฐฯ ได้ร่วมมือกันแกะรอยเงินที่สูญหายไปจากกองทุน 1MDB ซึ่งอยู่ในความดูแลของกระทรวงการคลังมาเลเซีย และมีนายกรัฐมนตรีนาจิบเป็นประธานคณะกรรมการที่ปรึกษา จนกระทั่งบอร์ดถูกยุบไปเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา