เมืองไทยลิสซิ่ง ปลื้มโรดโชว์บาหลีนักลงทุนตอบรับดี

“ชูชาติ เพ็ชรอำไพ” บิ๊กบอส “เมืองไทยลิสซิ่ง” เจ้าตลาดสินเชื่อทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์ และนาโนไฟแนนซ์ของเมืองไทย ยิ้มแก้มปริ หลังบินเหินฟ้าไปโรดโชว์ที่เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย นักลงทุนสถาบัน-กองทุน ให้การตอบรับอย่างท่วมท้น เตรียมเพิ่มน้ำหนักลงทุน เนื่องจากมั่นใจพื้นฐานธุรกิจแกร่ง แนวโน้ม “สินเชื่อ-รายได้-กำไร” ทุบสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง

นายชูชาติ เพ็ชรอำไพ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมืองไทย ลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) (MTLS) ผู้นำตลาดสินเชื่อทะเบียนรถจักรยานยนต์ และนาโนไฟแนนซ์ของเมืองไทย เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้เดินไปโรดโชว์ร่วมกับบริษัทหลักทรัพย์ ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด ที่เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 12 สิงหาคมที่ผ่านมา เพื่อนำเสนอข้อมูลให้กับนักลงทุนสถาบัน และผู้จัดการกองทุนชั้นนำ โดยได้มีการให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลการดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมา ที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง และแผนการดำเนินงานในอนาคต พร้อมกันนี้ ยังได้มีการให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลประกอบการไตรมาส 2/59 ที่เพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่น โดยยอดปล่อยสินเชื่อเพิ่มขึ้นกว่า 86% รายได้เติบโต 72% และกำไรสุทธิปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 63% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

“ระหว่างที่เราพรีเซนต์ข้อมูลผลการดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมา หลังจากที่เราเข้าจดทะเบียนตลาดหลักทรัพย์ฯ ธุรกิจของเราเติบโตอย่างแข็งแกร่ง สินเชื่อ รายได้ และกำไร สูงเกินเป้าหมายที่วางไว้ จากเดิมตั้งเป้า 30% ต่อปี ก็ขยับมาเป็นไม่ต่ำกว่า 50% และล่าสุด ในปีนี้คาดว่ายอดปล่อยสินเชื่อน่าจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 70% ซึ่งจะช่วยผลักดันรายได้ และกำไรทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง ได้รับความสนใจ และมีการสอบถามข้อมูลอย่างละเอียดจากผู้เข้าร่วมงาน ทำให้มั่นใจว่านักลงทุนสถาบัน และกองทุนชั้นนำ พร้อมที่จะเพิ่มน้ำหนักการลงทุนใน MTLS เพราะเป็นหุ้นที่ดี มีอนาคต ธุรกิจเติบโตต่อเนื่องทุกปี โดยปัจจุบันมีพอร์ตนักลงทุนสถาบันอยู่ในสัดส่วนประมาณ 3-4%” นายชูชาติ กล่าวในที่สุด

สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในไตรมาส 2/59 มีรายได้รวม 1,003 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 420 ล้านบาท หรือ 72 % และมีกำไรสุทธิ 300 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 117 ล้านบาท หรือ 63% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยได้รับปัจจัยหนุนจากยอดปล่อยสินเชื่อ 8,750 ล้านบาท ที่เติบโตกว่า 86% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หลังจากบริษัทฯ เดินหน้าขยายสาขาในต่างจังหวัด โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ เพื่อขยายฐานลูกค้าครอบคลุมทั่วประเทศ เพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้าในระดับล่างที่ยังไม่สามารถเข้าถึงแหล่งสินเชื่อในระบบได้

นายชูชาติ กล่าวถึงแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลัง คาดว่าจะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซันของธุรกิจ ความต้องการสินเชื่อของลูกค้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการที่เราเร่งเปิดสาขาใหม่ในต่างจังหวัด ซึ่งในปีนี้เราได้เพิ่มเป้าหมายการเปิดสาขาใหม่เป็น 1,600 แห่ง จากเดิมวางไว้ที่ 1,350 แห่ง เพื่อขยายฐานลูกค้า ที่ยังมีดีมานด์อยู่เป็นจำนวนมาก และมั่นใจว่ายอดปล่อยสินเชื่อทั้งปีจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 70% พอร์ตสินเชื่อคงค้างทะลุ 20,000 ล้านบาท ตามเป้าหมายที่วางไว้ ผลักดันรายได้ และกำไรในปีนี้ทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง