xs
xsm
sm
md
lg

ฟอร์จูน พาร์ทฯ งวดนี้กำไรโต 37%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ฟอร์จูน พาร์ท อินดัสตรี้ งวดนี้กำไรสุทธิ 74.29 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 36.68% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 54.35 ล้านบาท อานิสงส์ราคาน้ำมัน-พลาสติกลด-บาทอ่อน-ออเดอร์ใหม่มีเข้ามาไม่ขาดสาย หลังเดินหน้าขยายกำลังการผลิต บอร์ดไฟเขียวจ่ายปันผลระหว่างในอัตรา 0.06 บาท/หุ้น “สมพล ธนาดำรงศักดิ์” มั่นใจแนวโน้มครึ่งปีหลังโตต่อเนื่อง หนุนรายได้ปีนี้เติบโตไม่ต่ำกว่า 10% กำไรแซบเว่อร์ โชว์ Backlog หนากว่า 600 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้ 380 ล้านบาท

นายสมพล ธนาดำรงศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟอร์จูน พาร์ท อินดัสตรี้ จำกัด (มหาชน) (FPI) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในไตรมาส 2/59 มีรายได้รวม 509.61 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34.88 ล้านบาท หรือ 7.35% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 474.73 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 74.29 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.94 ล้านบาท หรือ 36.68% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 54.35 ล้านบาท โดยได้รับปัจจัยหนุนจากต้นทุนราคาน้ำมัน ราคาพลาสติกที่ปรับตัวลดลง และออเดอร์ใหม่ที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง หลังจากบริษัทฯ มีการเพิ่มกำลังการผลิต ซึ่งทำให้ต้นทุนขาย และต้นทุนต่อหน่วยลดลง ผลักดันให้กำไรปรับตัวสูงขึ้นอย่างโดดเด่นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกัน

ขณะที่ผลการดำเนินงานในงวดครึ่งแรกของปี 2559 บริษัทฯ มีรายได้รวม 979.75 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 64.18 ล้านบาท หรือ 7.01% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 915.57 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 138.51 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 49.99 ล้านบาท หรือ 51.34% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 91.52 ล้านบาท

ทั้งนี้ คณะกรรมการของบริษัทมีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล สําหรับผลประกอบการของบริษัทฯ งวด 6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2559 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2559 ให้แก่ผู้ถือหุ้น ในอัตราหุ้นละ 0.06 บาท สำหรับผู้ถือหุ้น จํานวน 1,217,914,359 หุ้น รวมเป็นเงินปันผลจ่ายทั้งสิ้น 73,074,861.54 บาท

“แนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลัง คาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ โดยคาดว่ารายได้ในปีนี้จะเติบไม่ต่ำกว่า 10% ตามเป้าหมายที่วางไว้ แต่ในแง่ของกำไร คาดว่าจะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากได้รับอานิสงส์จากค่าเงินบาทที่อ่อนค่า ราคาน้ำมัน และราคาพลาสติกปรับตัวลดลง นอกจากนี้ มีการรับงาน OEM โดยเฉพาะตลาดยุโรป ที่มี GP ค่อนข้างสูง ขณะที่บริษัทฯ ได้มีการขยายกำลังการผลิตในเดือน พ.ค.59 โดยเพิ่มเครื่องฉีด 650 ตัน 1 เครื่อง ซึ่งจะเพิ่มยอดกำลังผลิตสินค้ากลุ่มหน้ากระจังอีก 4.62% ในต้นเดือนสิงหาคม 2559 ได้เพิ่มเครื่องฉีดอีก 2 เครื่อง ขนาด 1000 ตัน และ 1300 ตัน ซึ่งจะเพิ่มกำลังการผลิตของกลุ่มหน้ากระจังอีก 8.82% และกลุ่มกันชนอีก 12.5% นอกจากนี้ ยังขยายกำลังการผลิตของแผนกสีในเดือนกันยายน 2559 เป็นไลน์อัตโนมัติ จะเพิ่มกำลังการผลิตอีก 35% เพื่อรองรับงาน OEM ซึ่งคาดว่าจะรับมากขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง จากก่อนหน้ามีการใช้กำลังการผลิต 72.60% ซึ่งจะทำให้ต้นทุนขายต่อหน่วยปรับตัวลดลง ส่งผลให้กำไรขั้นต้นปรับตัวสูงขึ้น” นายสมพล กล่าว

ล่าสุด บริษัทฯ มีงานในมือ (Backlog) ประมาณ 600 ล้านบาท คาดว่าจะรับรู้รายได้ในปีนี้ราว 380 ล้านบาท ยังไม่นับรวมคำสั่งซื้อใหม่ที่จะเกิดขึ้นจากการร่วมทุนกับพันธมิตรในอินเดีย ที่คาดว่าจะได้ออเดอร์กว่า 360 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้ฯ ในปีนี้ 100 ล้านบาท ส่วนที่เหลือทยอยรับรู้รายได้ในปี 2560

โดยปัจจุบัน บริษัทฯ มีการส่งออกสินค้าไปยัง 135 ประเทศทั่วโลก และมีสัดส่วนการส่งออกคิดเป็น 85% ของรายได้รวมกรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟอร์จูน พาร์ท อินดัสตรี้ จำกัด (มหาชน) (FPI) กล่าวอีกว่า ในส่วนของความคืบหน้าในการจัดตั้งบริษัทร่วมลงทุนกับพันธมิตรในประเทศอินเดีย ภายใต้ชื่อ ALP FPI PARTS PRIVATE LIMITED คาดว่าจะสามารถเปิดโรงงานได้ประมาณเดือนมกราคมปี 2560 ซึ่งมั่นใจว่าหลังจากเดินเครื่องผลิตจะช่วยผลักดันรายได้ และกำไรของบริษัทฯ เติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยการร่วมลงทุนในครั้งนี้ เพื่อรองรับการขยายธุรกิจในอนาคต ที่เกี่ยวข้องกับการผลิต ขายส่งชิ้นส่วน และอุปกรณ์รถยนต์ในประเทศอินเดีย ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน การเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ และเป็นผู้นำในการผลิต ขายส่งชิ้นส่วน และอุปกรณ์รถยนต์ไปในประเทศอินเดีย สอดคล้องแผนการดำเนินธุรกิจใน 5 ปี ข้างหน้า เดินหน้าขยายสาขาใน 5 ประเทศทั่วโลก โดยสนใจประเทศตุรกี อินเดีย สหรัฐอเมริกา ฮังการี และเม็กซิโก


กำลังโหลดความคิดเห็น