ฟอร์จูน พาร์ท อินดัสตรี้ ตั้งเป้ารายได้ปีนี้เกิน 10% พร้อมประกาศจ่ายเงินปันผลงวดครึ่งหลังปี 58 อัตราหุ้นละ 0.07 บาท “สมพล ธนาดำรงศักดิ์” ประกาศทุ่มงบลงทุนกว่า 100 ล้านบาท ผุดโรงงานชิ้นส่วน และอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ในอินเดีย คาดสร้างเสร็จภายใน 6 เดือน ก่อนเดินเครื่องผลิตปลายปีนี้ ล่าสุดคว้าออเดอร์มาแล้วกว่า 300 ล้านบาท ผูกปิ่นโตยาวไปถึงปี 60 ตั้งเป้าปีนี้รายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 10% ส่วนความคืบหน้าโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวล เปิดให้ยื่นซองพร้อมลุยทันที
นายสมพล ธนาดำรงศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟอร์จูน พาร์ท อินดัสตรี้ จำกัด (มหาชน) (FPI) เปิดเผยถึงแผนการดำเนินงานในปี 2559 ว่า บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 10% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา มีรายได้รวม 1,857 ล้านบาท โดยได้รับปัจจัยหนุนจากยอดขายที่ฟื้นตัวตามอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศ ซึ่งผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว โดยปัจจุบันมีงานในมือ (Backlog) ประมาณ 600 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้รายได้ในปีนี้ประมาณ 300 ล้านบาท ยังไม่นับรวมกับออเดอร์ใหม่ที่เกิดขึ้นจากการร่วมลงทุนกับพันธมิตรในอินเดีย ซึ่งมีออเดอร์เข้ามาแล้วกว่า 300 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้ 100 ล้านบาท ส่วนที่เหลือรับรู้ในปี 2560
สำหรับความคืบหน้าในการจัดตั้งบริษัทร่วมลงทุนกับพันธมิตรในประเทศอินเดีย ภายใต้ชื่อ ALP FPI PARTS PRIVATE LIMITED โดย FPI ถือหุ้นในบริษัทร่วมทุนดังกล่าวสัดส่วน 45% ของทุนจดทะเบียน 100 ล้านรูปีอินเดีย คิดเป็นมูลค่าการลงทุน 45 ล้านรูปีอินเดีย ขณะที่ ALP PLASTICS PVT.LTD. ถือหุ้นในสัดส่วน 55% เพื่อลงทุน และขยายธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับชิ้นส่วนรถยนต์ และอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ ล่าสุดได้ทุ่มงบลงทุนประมาณ 100 ล้านบาท เพื่อซื้อที่ดิน และก่อสร้างโรงงาน โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 6 เดือนข้างหน้า และเริ่มกระบวนการผลิตได้ในไตรมาส 4/59 ซึ่งปัจจุบันมีออเดอร์เข้ามาแล้วกว่า 300 ล้านบาท เบื้องต้น ในช่วงที่โรงงานยังไม่แล้วเสร็จ จะเป็นเข้าสินค้าจากโรงงานในประเทศไทยไปก่อน ซึ่งในปีนี้มีออเดอร์เข้ามาแล้ว 100 ล้านบาท ส่วนที่เหลือรับรู้รายได้ในปีหน้า ทำให้รายได้ของบริษัทฯ เติบโตอย่างมีนัยสำคัญจากออเดอร์ที่เพิ่มขึ้นในอินเดีย ซึ่งถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพเป็นอย่างมาก
“การร่วมลงทุนของ FPI กับพันธมิตรในประเทศอินเดียในครั้งนี้ เพื่อรองรับการขยายธุรกิจในอนาคต ที่เกี่ยวข้องกับการผลิต ขายส่งชิ้นส่วน และอุปกรณ์รถยนต์ในประเทศอินเดีย ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน การเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ และเป็นผู้นำในการผลิต ขายส่งชิ้นส่วน และอุปกรณ์รถยนต์ไปในประเทศอินเดีย สอดคล้องแผนการดำเนินธุรกิจใน 5 ปี ข้างหน้า เดินหน้าขยายสาขาใน 5 ประเทศทั่วโลก” นายสมพล กล่าว
ส่วนความคืบหน้าการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวล ร่วมกับ บริษัท อีซีเอฟ โฮลดิ้งส์ จำกัด บริษัท วิชญ์ อุตสาหกรรม จำกัด (WIT) และกลุ่มผู้ประกอบการโรงไม้ นายสมพล กล่าวว่า ได้มีการซื้อที่ดิน และได้เตรียมความพร้อมในการจัดหาเครื่องจักรจากต่างประเทศไว้เรียบร้อยแล้ว พร้อมเข้าร่วมประมูลได้ทันทีหากมีการเปิดให้ยื่นประมูลในช่วงกลางปีนี้ ซึ่งมั่นใจว่ากลุ่มของบริษัทฯ ที่เข้ายื่นประมูลมีศักยภาพเพียงพอ และมั่นใจว่าการรุกคืบเข้าสู่ธุรกิจพลังงานทดแทนจะช่วยผลักดันรายได้ของบริษัทให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง และช่วยกระจายความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ
สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2558 บริษัทมีรายได้รวม 1,857 ล้านบาท กำไรสุทธิ 193 ล้านบาท โดยคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติจ่ายเงินปันผลสำหรับงวดผลการดำเนินงานในครึ่งหลังของปี 2558 ในอัตรา 0.07 บาทต่อหุ้น ซึ่งจะจ่ายให้กับผู้ถือหุ้นในวันที่ 29 เมษายน 2559 ทั้งนี้ สิทธิในการรับเงินปันผลดังกล่าว ยังมีความไม่แน่นอน เนื่องจากต้องรอการอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น