ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)ได้ออกประกาศเตือนประชาชนให้ระมัดระวังการลงทุนหุ้น อัตราแลกเปลี่ยน ทองคำ และน้ำมัน เพราะอาจตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพได้
คำเตือนจากทั้ง 2 หน่วยงาน เกิดขึ้นภายหลังจากที่มีเฟซบุ๊กแฟนเพจได้ชักชวนให้ลงทุนในผลิตภัณฑ์การลงทุนรูปแบบต่างๆ โดยรับประกันผลตอบแทนสูงๆ ซึ่งเป็นวิธีการโฆษณาชวนเชื่อ เพื่อสร้างแรงจูงใจ ก.ล.ต.เคยประกาศเตือนบริษัทการลงทุนเถื่อนมาหลายครั้ง เคยร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีแล้วหลายราย แต่บริษัทลงทุนเถื่อนไม่ยอมล้มหายตายจากหมดสารบบเสียที และซุ่มหลอกล่อหาเหยื่อมาตลอด โดยมีนักลงทุนหลงเข้าไปเป็นเหยื่อไม่เลิกรา
การลงทุนในหุ้น การเก็งกำไรค่าเงิน น้ำมันและทองคำ ปัจจุบันสามารถลงทุนผ่านบริษัทที่ได้รับอนุญาตดำเนินกิจการอย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่ยังมีนักลงทุนบางส่วนเข้าไปใช้บริการบริษัทนอกกฎหมายอยู่อีก ทั้งที่ทุกคนน่าจะรู้ทันเล่ห์โกงแก๊งมิจฉาชีพเหล่านี้ การหลอกลวงให้ลงทุนในแชร์ลูกโซ่ หรือลงทุนในรูปแบบอื่นๆ เกิดขึ้นมานานหลายสิบปีแล้ว เป็นข่าวดังอย่างต่อเนื่อง
แต่ความโลภทำให้คนมองข้ามความปลอดภัย ลืมความเสี่ยง กว่าจะได้สติก็หมดสตางค์ไปแล้วเรียบร้อย แก๊งตกทองได้ยินเรื่องราวกันมาตั้งแต่วัยเด็กและโตจนแก่ใกล้ตายแล้ว แต่แก๊งตกทองก็ยังทำมาหากินอยู่เพราะมีเหยื่อให้หลอกต้ม 3 เหยื่อของบริษัทลงทุนเถื่อน ส่วนใหญ่เป็นคนทั่วไปที่ไม่มีความรู้ ขาดความเข้าใจ และไร้ประสบการณ์การลงทุน เมื่อถูกหว่านล้อม ถูกชักจูงโดยยกตัวเลขผลตอบแทนสูงๆ มาล่อจึงเผลอตัวร่วมลงทุน
ส่วนนักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ห่วง ไม่ใช่กลุ่มลูกเป้าหมายรายใหญ่ของบริษัทลงทุนเถื่อน เพราะนักเล่นหุ้นพอมีความรู้ความเข้าใจการลงทุน อย่างน้อยพอจะรู้ทันแก๊งมิจฉาชีพนอกตลาดหุ้น เพียงแต่รู้ไม่ทันแก๊งปั่นหุ้นในตลาดหลักทรัพย์เท่านั้น
นักลงทุนในตลาดหุ้นมีช่องทางการลงทุนให้เลือกมากมาย เพียงเปิดบัญชีเป็นลูกค้าบริษัทโบรกเกอร์ก็เหมือนได้บริการวันสต็อปเซอร์วิส จะลงทุนหุ้น ทองคำ น้ำมัน ค่าเงิน เก็งกำไรอสังหาริมทรัพย์ หรือเล่นหุ้นต่างประเทศ ส่งคำสั่งผ่านบริษัทโบรกเกอร์ได้ทันที ไม่มีความจำเป็นใดที่ต้องดิ้นรนไปใช้บริการบริษัทลงทุนเถื่อน ซึ่งไม่มีหัวนอนปลายเท้า ไม่มีหลักประกันคุ้มครองความเสี่ยง และจะปิดบริษัทหนีเมื่อไหร่ไม่รู้
เหยื่อที่ควรได้รับความเห็นใจคือ เป็นบุคคลทั่วไปที่ไม่ประสีประสาเรื่องการลงทุน เพียงแต่รับรู้ถึงการเล่นหุ้น การเก็งกำไรทองคำ น้ำมัน และอัตราแลกเปลี่ยน เคยได้ยินได้ฟังถึงผลตอบแทนสูงๆ ถ้าซื้อขายเข้าออกถูกจังหวะเท่านั้น การเปิดกว้างให้เก็งกำไรทองคำ น้ำมัน และอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรากลายเป็นช่องทางให้บริษัทลงทุนเถื่อนหากินได้สะดวกขึ้น เพราะเสียงร่ำลือความร่ำรวยจากการเล่นหุ้น ทองคำ น้ำมัน หรืออัตราแลกเปลี่ยน ทำให้ทุกคนอยากจะรวยเร็ว
เมื่อกลุ่มมิจฉาชีพเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย หว่านล้อมได้ตรงใจ โน้มน้าวให้เกิดความต้องการโอกาสเก็บเกี่ยวผลตอบแทนงามๆ บางคนจึงคล้อยตามโดยไม่รู้ตัวว่า กำลังนำเงินไปทิ้งไว้ในบริษัทลงทุนเถื่อน ซึ่งนอกจากผลตอบแทนจะไม่มีแล้ว เงินต้นยังหายวับไปด้วย การส่งเสริมสนับสนุนการเล่นหุ้น ทองคำ น้ำมัน และอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราเป็นการยั่วยุให้เกิดความหมกมุ่นเก็งกำไรอย่างไร้การควบคุม มอมเมาให้เกิดค่านิยมในการฝักใฝ่หาทางรวยรัด และเปิดช่องว่างให้แก๊ง 18 มงกุฎนำความโลภไปใช้เป็นเครื่องมือในการต้มตุ๋น
ความโลภไม่ได้เป็นเครื่องมือของแก๊ง 18 มงกุฎนอกตลาดหุ้นเท่านั้น แก๊ง 18 มงกุฎในตลาดหุ้น ก็อาศัยความโลภเป็นเครื่องมือเชือดแมลงเม่าเช่นเดียวกัน การที่ ก.ล.ต.หมั่นออกมาย้ำเตือนนักลงทุนทั่วไปให้ระมัดระวังแก๊งต้มตุนการลงทุนนอกตลาดหุ้น ขอให้พิจารณากลั่นกรองการลงทุนอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจเป็นสิ่งที่ดีแล้ว และควรดำเนินการกันต่อไป แต่อย่าลืมเตือนนักลงทุนในตลาดหุ้นให้ระวังด้วยล่ะเพราแก๊ง “ตกหุ้น” ก็ยังอาละวาดอยู่ในตลาดหลักทรัพย์เหมือนกัน
สุนันท์ ศรีจันทรา