“พริ้นซิเพิล” แจงบอร์ดบริหารมีมติเข้าซื้อกิจการบริษัท วี บริลเลี่ยนกรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด 99.99% วงเงินเกือบ 5.8 พันล้านบาท หวังใช้ที่ดินเปล่า และแอสเสต 4 บริษัทย่อยต่อยอดอสังหาฯ ในอนาคต
นางสาวชยาภรณ์ เลื่อนนภาวรรณ เลขานุการ บริษัท พริ้นซิเพิล แคปิตอล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการมีมติอนุมัติให้เข้าซื้อกิจการกลุ่มบริษัท วี บริลเลี่ยนกรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด หรือVB โดยการซื้อหุ้นในสัดส่วน 99.99% ของจำนวนหุ้นที่ออก และจำหน่ายทั้งหมดของ VB ซึ่งส่งผลให้บริษัทได้มาซึ่งบริษัทย่อยที่ VB ถือหุ้นในสัดส่วน 99.99% จำนวน 4 บริษัท ประกอบด้วย บริษัท วี อินเทลลิเจ้นซ์ จำกัด, บริษัท วี เรสซิเดนซ์ จำกัด, บริษัท กรุงเทพบริหาร จำกัด และบริษัท วี 33 จำกัด โดยปัจจุบัน กลุ่มบริษัท VB เป็นกลุ่มบริษัทที่มีประสบการณ์ในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในอสังหาฯ ที่มีศักยภาพหลายแห่ง รวมถึงที่ดินในทำเลใจกลางกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด อาคาร และอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ อาทิเช่น อาคารบางกอกบิสซิเนสเซ็นเตอร์ และโครงการโรงแรมและเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ซัมเมอร์เซ็ท เอกมัย (ซึ่งคาดว่าจะเริ่มเปิดดำเนินการได้ภายในปี 2560)
โดยการเข้าซื้อกิจการของกลุ่มบริษัท VB ในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อต่อยอดธุรกิจพัฒนาอสังหาฯ และเพิ่มศักยภาพในการทำกำไรให้แก่กลุ่มธุรกิจของบริษัทในอนาคต ทั้งนี้ ในการเข้าซื้อกิจการของกลุ่มบริษัท VB บริษัทจะซื้อหุ้นจำนวน 633,089,998 หุ้นของ VB คิดเป็นสัดส่วน 99.99% ของจำนวนหุ้นที่ออกจำหน่ายแล้วทั้งหมดของ VB จากผู้ถือหุ้นเดิมในราคารวมทั้งสิ้นไม่เกิน 5,791,133,152.71 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 583,599,998 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 92.18% ของจำนวนหุ้นที่ออก และจำหน่ายแล้วทั้งหมดของ VB จาก นายสาธิตา วิทยากร ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่และกรรมการของ บริษัท ในราคาทั้งสิ้นไม่เกิน 5,338,427,879.48 บาท และซื้อหุ้นบุริมสิทธิจำนวน 49,490,000 หุ้น หรือคิดเป็น 7.82% ของจำนวนหุ้นที่ออก และจำหน่ายแล้วทั้งหมดของ VB จาก พีค ดีเวลลอปเม้นท์ โฮลดิ้งส์ แอลทีดี ซึ่งเป็นนิติบุคคลที่มีครอบครัววิทยากรเป็นผู้รับผลประโยชน์ในราคาทั้งสิ้นไม่เกิน 452,705,273.23 บาท
สำหรับการเข้าซื้อกิจการของกลุ่มบริษัท VB จาก นายสาธิตา และพีค ดีเวล ลอปเม้นท์ โฮลดิ้งส์ รวมจะดำเนินการโดยวิธีออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท และการออกตั๋วสัญญาใช้เงินให้แก่นายสาธิตา แทนการชำระค่าหุ้นเป็นเงินสด ซึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อเงื่อนไขบังคับก่อนตามที่ระบุไว้ในสัญญาซื้อขายหุ้นระหว่างบริษัท และนายสาธิตา (“สัญญาซื้อขายหุ้น”) เสร็จสมบูรณ์ โดยในเบื้องต้น คาดว่าหากที่ประชุมผู้ถือหุ้นมีมติอนุมัติรายการดังกล่าวในเดือนกันยายน 2559 บริษัทจะสามารถเข้าซื้อกิจการของกลุ่มบริษัท VB โดยการเข้าซื้อหุ้น VB ได้แล้วเสร็จแล้วภายในเดือนตุลาคม 2559
