ผู้จัดการ ตลท.เผยนักลงทุนต่างชาติยังมีมุมมองที่ดีต่อตลาดหุ้นไทย ระบุสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินทุนไหลเข้าอีก 5 หมื่นล้าน ส่วนยอดซื้อสุทธิ 6 เดือน 3.8 หมื่นล้าน ยันชัดต่างชาติไม่กังวลการลงประชามติ 7 ส.ค.นี้ แต่ให้น้ำหนักสถานการณ์การเมืองหลังการเลือกตั้งมากกว่า ซึ่งส่วนใหญ่จับตา รธน.ฉบับใหม่ที่กำหนดคุณสมบัติของผู้สมัคร ส.ส. แบล๊กลิสบุคคลที่ถูกดำเนินคดีในข้อหาคอร์รัปชัน ซึ่งจะทำให้การเมืองไทยมีคุณภาพ และมีเสถียรภาพมากขึ้น
นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวถึงผลการเดินทางโรดโชว์ที่ประเทศสหรัฐอเมริกากับบริษัทจดทะเบียน (บจ.) จำนวน 11 รายเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยระบุว่า ตลาดหุ้นไทยได้รับความสนใจจากนักลงทุนต่างชาติ โดยเป็นทั้งนักลงทุนที่ลงทุนในตลาดหุ้นไทยอยู่แล้ว และที่ยังไม่เคยเข้ามาลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ของไทย
โดยพบว่านักลงทุนทั้ง 2 กลุ่มได้มีการสอบถามถึงสถานการณ์การเมืองไทยที่กำลังจะมีการลงประชามติวันที่ 7 สิงหาคม 2559 นี้ แต่นักลงทุนส่วนใหญ่ไม่ได้กังวล เพราะเชื่อว่าหลังการลงประชามติจะมีการเลือกตั้งในอีก 1 ปีข้างหน้าตามที่รัฐบาลได้วางโรดแมปเอาไว้ และให้น้ำหนักสถานการณ์การเมืองหลังการเลือกตั้งมากกว่า ซึ่งส่วนใหญ่จับตารัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่กำหนดคุณสมบัติของผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ห้ามเป็นบุคคลที่ถูกดำเนินคดีในข้อหาคอร์รัปชันลงสมัคร ส.ส.จะทำให้การเมืองไทยมีคุณภาพ และมีเสถียรภาพมากขึ้น
นอกจากนี้ นักลงทุนต่างชาติมีมุมมองที่ดีต่อตลาดหุ้นไทย และมีการสอบถามถึงภาพรวมเศรษฐกิจไทยทั้งปัจจุบัน และอนาคต ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯ ชี้แจงข้อมูลอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจไทยไตรมาส 1/2559 ที่ขยายตัวร้อยละ 3.2 จากไตรมาส 4 /2558 ที่ขยายตัวร้อยละ 2.8 แม้อัตราการขยายตัวจะไม่สูงมาก แต่เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ เศรษฐกิจไทยยังขยายตัวได้ต่อเนื่อง ขณะที่ทั่วโลกปรับตัวลดลง และเศรษฐกิจไทยไตรมาส 2 ปีนี้ภาพรวมของบางอุตสาหกรรมปรับตัวดีขึ้น และผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนปรับดีขึ้นเช่นกัน ซึ่งรายได้ของบริษัทจดทะเบียนกว่าร้อยละ 45 เป็นรายได้ที่มาจากต่างประเทศ
ส่วนสถานการณ์เงินทุนไหลเข้าในตลาดหุ้นไทยช่วงเดือนนี้ ปรากฏว่ามีเงินทุนไหลเข้าต่อเนื่อง จากที่นักลงทุนชาติซื้อสุทธิ 6 เดือนแรกปีนี้ ทั้งสิ้น 38,000 ล้านบาท และสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินทุนไหลเข้าอีก 50,000 ล้านบาท เป็นการตอกย้ำต่างชาติมั่นใจในเศรษฐกิจไทย และผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่ยังเติบโตได้ ซึ่งหากผลประกอบการไตรมาส 2 ออกมาดีจะมีเงินทุนไหลเข้ามาเพิ่มอีก
