ASTV ผู้จัดการรายวัน – ตลท. ยอมรับ “กฎอัยการศึก” ทำให้สถาบันต่างประเทศหลายสถาบัน ไม่สามารถส่งตัวแทนเข้ามาร่วม Thailand Focus และ Theme ให้ข้อมูลเกี่ยวกับภาพรวมของรัฐบาลยุคคสช. ไม่ดึงดูดความสนใจเท่าที่ควร ยืนยันตลาดหุ้นไทยก็ยังได้รับความสนใจจากนักลงทุนต่างชาติทั่วไป เพราะ บจ.ไทยยังแข็งแกร่ง และมีเงินสดในมือเกือบ 7% ของสินทรัพย์ทั้งหมด
นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. สรุปภาพรวมการจัดงาน Thailand Focus วันแรก ว่า มีผลตอบรับที่ดี โดยมีผู้ลงทุนประเภทสถาบันร่วมงาน 236 ราย ในจำนวนนี้เป็นผู้ลงทุนสถาบันจากต่างประเทศ 116 รายจากกว่า 60 บริษัท และมีบริษัทจดทะเบียน หรือ บจ.จำนวน 113 บริษัทเข้าร่วมให้ข้อมูล
กรรมการและผู้จัดการ ตลท. ยอมรับว่าจำนวนผู้เข้าร่วมงานในครั้งนี้อลดลงจากปี 2556 เล็กน้อย ปัจจัยส่วนหนึ่งคือการที่ประเทศยังใช้กฎอัยการศึกอยู่ ทำให้สถาบันต่างประเทศบางแห่งไม่สามารถส่งตัวแทนเข้ามาร่วมงาน ประกอบกับ Theme ในการจัดงานปีนี้เป็นการให้ข้อมูลเกี่ยวกับภาพรวมของรัฐบาลยุคคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. แต่ตลาดหุ้นไทยก็ยังได้รับความสนใจจากนักลงทุนต่างชาติทั่วไป เพราะ บจ.ไทยยังแข็งแกร่ง และมีเงินสดในมือเกือบ 7% ของสินทรัพย์ทั้งหมด ขณะที่บริษัทที่เป็นหนี้ยังมีความสามารถในการจ่ายดอกเบี้ย 6-7 เท่า สะท้อนพื้นฐานของ บจ.ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี
ด้านน.ส.อรกัญญา พิบูลธรรม กรรมการผู้จัดการใหญ่ สาขาประเทศไทย ธนาคารแห่งอเมริกา เมอร์ริล ลินซ์ กล่าวว่า มูลค่าการลงทุนของผู้ลงทุนต่างประเทศในตลาดหุ้นไทยเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเดือนกรกฎาคมมีมูลค่าการครองหุ้นและพันธบัตรของนักลงทุนต่างชาติเพิ่มขึ้นกว่า 1.2 พันล้านดอลล่าสหรัฐ สูงกว่าประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเซีย โดยในเดือนสิงหาคมเชื่อว่ายังมี Momentum ที่ดีอยู่ แสดงให้เห็นว่านักลงทุนต่างประเทศมีความเข้าใจในแนวคิดในการปฏิรูปและการบริหารประเทศทำให้ทัศนคติในการลงทุนดีขึ้น
ขณะที่นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. คาดว่าในปี 2558 กำไรของบริษัทจดทะเบียนจะเติบโตเพิ่มขึ้น 12-13% เมื่อเทียบกับปีนี้ที่จะเติบโตราว 9% เป็นไปในทิศทางเดียวกับภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศที่ขยายตัวได้เพิ่มขึ้น จากการผลักดันนโยบายต่างๆของภาครัฐ โดยมั่นใจว่าจากการเติบโตของผลประกอบการ บจ.ในตลท.จะสามารถดึงดูดนักลงทุนต่างชาติให้เข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยเพิ่มขึ้น
“จากการสำรวจพบว่านักลงทุนในระยะหลังเริ่มมีการเข้ามาลงทุนในบริษัทจดทะเบียนที่มีขนาดเล็กและเพิ่งจะเข้ามาจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหุ้นเพิ่มมากขึ้น ซึ่งตลาดหุ้นพยายามที่จะให้ข้อมูลการลงทุนกับนักลงทุนต่างประเทศ
รายใหม่ให้มากที่สุด โดยขณะนี้ที่ค่า P/E ตลาดหุ้นไทยเริ่มปรับตัวสูงขึ้น ตลาดหุ้นได้มีความพยายามในการให้ข้อมูลรายละเอียดในการลงทุน ที่มีความแตกต่างจากสมัยก่อน” นายสถิตย์ กล่าว
นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. สรุปภาพรวมการจัดงาน Thailand Focus วันแรก ว่า มีผลตอบรับที่ดี โดยมีผู้ลงทุนประเภทสถาบันร่วมงาน 236 ราย ในจำนวนนี้เป็นผู้ลงทุนสถาบันจากต่างประเทศ 116 รายจากกว่า 60 บริษัท และมีบริษัทจดทะเบียน หรือ บจ.จำนวน 113 บริษัทเข้าร่วมให้ข้อมูล
กรรมการและผู้จัดการ ตลท. ยอมรับว่าจำนวนผู้เข้าร่วมงานในครั้งนี้อลดลงจากปี 2556 เล็กน้อย ปัจจัยส่วนหนึ่งคือการที่ประเทศยังใช้กฎอัยการศึกอยู่ ทำให้สถาบันต่างประเทศบางแห่งไม่สามารถส่งตัวแทนเข้ามาร่วมงาน ประกอบกับ Theme ในการจัดงานปีนี้เป็นการให้ข้อมูลเกี่ยวกับภาพรวมของรัฐบาลยุคคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. แต่ตลาดหุ้นไทยก็ยังได้รับความสนใจจากนักลงทุนต่างชาติทั่วไป เพราะ บจ.ไทยยังแข็งแกร่ง และมีเงินสดในมือเกือบ 7% ของสินทรัพย์ทั้งหมด ขณะที่บริษัทที่เป็นหนี้ยังมีความสามารถในการจ่ายดอกเบี้ย 6-7 เท่า สะท้อนพื้นฐานของ บจ.ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี
ด้านน.ส.อรกัญญา พิบูลธรรม กรรมการผู้จัดการใหญ่ สาขาประเทศไทย ธนาคารแห่งอเมริกา เมอร์ริล ลินซ์ กล่าวว่า มูลค่าการลงทุนของผู้ลงทุนต่างประเทศในตลาดหุ้นไทยเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเดือนกรกฎาคมมีมูลค่าการครองหุ้นและพันธบัตรของนักลงทุนต่างชาติเพิ่มขึ้นกว่า 1.2 พันล้านดอลล่าสหรัฐ สูงกว่าประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเซีย โดยในเดือนสิงหาคมเชื่อว่ายังมี Momentum ที่ดีอยู่ แสดงให้เห็นว่านักลงทุนต่างประเทศมีความเข้าใจในแนวคิดในการปฏิรูปและการบริหารประเทศทำให้ทัศนคติในการลงทุนดีขึ้น
ขณะที่นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. คาดว่าในปี 2558 กำไรของบริษัทจดทะเบียนจะเติบโตเพิ่มขึ้น 12-13% เมื่อเทียบกับปีนี้ที่จะเติบโตราว 9% เป็นไปในทิศทางเดียวกับภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศที่ขยายตัวได้เพิ่มขึ้น จากการผลักดันนโยบายต่างๆของภาครัฐ โดยมั่นใจว่าจากการเติบโตของผลประกอบการ บจ.ในตลท.จะสามารถดึงดูดนักลงทุนต่างชาติให้เข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยเพิ่มขึ้น
“จากการสำรวจพบว่านักลงทุนในระยะหลังเริ่มมีการเข้ามาลงทุนในบริษัทจดทะเบียนที่มีขนาดเล็กและเพิ่งจะเข้ามาจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหุ้นเพิ่มมากขึ้น ซึ่งตลาดหุ้นพยายามที่จะให้ข้อมูลการลงทุนกับนักลงทุนต่างประเทศ
รายใหม่ให้มากที่สุด โดยขณะนี้ที่ค่า P/E ตลาดหุ้นไทยเริ่มปรับตัวสูงขึ้น ตลาดหุ้นได้มีความพยายามในการให้ข้อมูลรายละเอียดในการลงทุน ที่มีความแตกต่างจากสมัยก่อน” นายสถิตย์ กล่าว
