“เกศรา” แย้มนักลงทุนมั่นใจแผนเศรษฐกิจรองรับ AEC ของ คสช. คาดหลังคลอดคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ จะเดินหน้าแผนพัฒนาประเทศได้เต็มที่ ฟุ้งเตรียมรับลูก คสช. จ่อเดินหน้าโรดโชว์ต่างประเทศ ขณะที่ “ภัทธีรา” หนุนเดินหน้าตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐานดันเศรษฐกิจไทยฟื้น เหตุต่างชาติสนใจอยู่แล้ว แต่ก่อนหน้านี้ติดที่ขาดความโปร่งใสและนโยบายชัดเจนจากผู้บริหารประเทศ
นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. กล่าวว่า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีการบริหารงานเป็นที่ชัดเจนในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งมาพิสูจน์แล้วว่ามีความตั้งใจที่จะแก้ใขปัญหาความขัดแย้งในประเทศ และผลักดันเศรษฐกิจให้เดินหน้าต่อ เพื่อรองรับ AEC ที่จะเปิดในปี 2558 ซึ่งต่อจากนี้ เชื่อว่า คสช. และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช.จะคัดสรรค์บุคคลที่จะเข้ามาเป็นนายกฯ และคณะรัฐมนตรี ในการบริหารประเทศให้มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับของประชาชนและนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม ตลท.เชื่อว่า ครม. ชุดใหม่จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนกลับมาได้ เนื่องจากนักลงทุนเริ่มมีความผ่อนคลายเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองในประเทศมากขึ้น ขณะเดียวกัน แผนงานในครึ่งปีของ ตลท.ที่เหลือคือการเตรียมไปโรดโชว์จำนวน 4 ครั้ง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุน ซึ่งมีประเทศ ฮ่องกง ญี่ปุ่น ที่ได้เดินทางไปแล้ว ที่เหลืออีก 3 ครั้ง คือ ที่ประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย สหรัฐฯ และออสเตรเลีย
ขณะเดียวกัน นางภัทธีรา ดิลกรุ่งธีระภพ นายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย กล่าวว่า สมาคมโบรกฯ เห็นพ้องกันที่จะสนับสนุนการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่ช่วยพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งด้านคมนาคมขนส่งทั้งในด้านอุตสาหกรรมและการเดินทางท่องเที่ยว เพื่อให้ประเทศเจริญเติบโตไปสู่ความเป็นสากล โดยเชื่อว่าการที่ คสช. อนุมัติการลงทุนจะได้รับความสนใจและเสริมความเชื่อมั่นจากนักลงทุนให้เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากก่อนหน้านี้ นักลงทุนต่างชาติก็มีความสนใจอยู่แล้ว แต่มีความขัดแย้งทางการเมืองและความไม่โปร่งใสของโครงการ ทำให้ชะลอการจะเข้ามาลงทุนออกไปในระยะหนึ่ง เนื่องจากนักลงทุนต่างประเทศส่วนใหญ่ต้องการความโปร่งใสและความชัดเจนจากผู้บริหารประเทศ
อย่างไรก็ตาม กองทุนโครงสร้างพื้นฐานในทุกระบบทั้ง ขนส่งแบบครบวงจรทั้งรถไฟ ทางน้ำ และทางอากาศ ที่ทาง คสช. กำลังจะทำนั้น เพื่อรองรับปริมาณการส่งออกและนำเข้าที่เพิ่มมากขึ้น แม้การจัดตั้งกองทุนดังกล่าวจะมีปัญหาหลายด้าน โดยเฉพาะความต้องการและประเภทของกองทุนที่หลากหลายแตกต่างกัน ทั้งนี้ข้อดีของกองทุนโครงสร้างพื้นฐานแต่ละกองทุนจะมีระยะเวลาที่ต่อเนื่องยาวนาน ส่งผลให้นักลงทุนสามารถรับรู้รายได้สม่ำเสมอและนักลงทุนในต่างประเทศจะให้ความสนใจที่จะเข้ามาลงทุนได้หลากหลายประเภท แต่อย่างไรก็ตามทางรัฐบาลจะต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่นโดยการกำหนดระยะเวลาและขอบเขตการลงทุนที่ชัดเจน เนื่องจากที่ผ่านมา ต่างชาติมีความพร้อมที่จะลงทุนในกองทุนดังกล่าวอยู่แล้ว แต่ติดปัญหาเรื่องสถานการณ์ความไม่แน่นอนทางการเมืองในประเทศ
ขณะที่โผคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ หรือ ครม. ที่จะออกมาคาดว่า จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนได้มากขึ้น โดยผลกระทบที่จะมีต่อตลาดหุ้นไทยอาจไม่ได้ตื่นตัวมากนัก เนื่องจากมีการรับข่าวไปก่อนหน้านี้แล้ว แต่อย่างไรก็ตาม ยังมั่นใจว่าตลาดหุ้นไทยจะเติบโตได้ค่อนข้างดี แต่ทั้งนี้ คงต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยในหลายๆ ด้าน โดยเฉพาะการกระตุ้นเศรษฐกิจซึ่งต้องเร่งให้มีความชัดเจนมากขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมาภาพรวมเศรษฐกิจยังไม่ได้เติบโตแบบก้าวกระโดด
